
ข้อแนะนำการใช้น้ำประปาในภาวะน้ำท่วม (กปน.)
ปัญหาน้ำประปาขุ่น เหลือง มีกลิ่น ยังคงเป็นเรื่องร้องเรียนในหลายพื้นที่ เพราะความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในคุณภาพน้ำประปาในการใช้อุปโภคบริโภค ด้วยความห่วงใย ทางการประปานครหลวง (กปน.) จึงได้แนะนำการใช้น้ำประปาในภาวะน้ำท่วม 7 ข้อ ดังนี้







ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ณ เวลานี้ หลายพื้นที่ในจังหวัดน้ำท่วม ต้องประสบปัญหาน้ำประปามีสีเหลืองขุ่น มีตะกอน และกลิ่นที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ส่งผลให้ผู้ใช้น้ำเดือดร้อนจำนวนมาก บางส่วนไม่มั่นใจกับมาตรฐานความสะอาดของน้ำดื่มน้ำใช้ และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้น้ำประปาเปลี่ยนสีแล้วรู้สึกว่า มีผื่นคันขึ้นตามตัว และมีสิวขึ้น ขณะที่บางคนมีอาการท้องร่วง ท้องเสีย โดยเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากการรับประทานน้ำประปาที่ไม่สะอาดเข้าไป
ทั้งนี้ สาเหตุที่น้ำประปาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนั้น อาจเกิดจากการที่การประปาฯ ต้องเร่งผลิตน้ำ เนื่องจากน้ำล้นเข้าคลองประปา ทำให้ระยะเวลาในการพักน้ำและตกตะกอนลดลง ส่วนกลิ่นที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากสภาพน้ำที่สกปรกขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วน้ำประปาที่สะอาดตามองค์การอนามัยโลกจะต้องมีคลอรีนอยู่ที่ประมาณ 2-5 ppm แต่น้ำประปาในช่วงนี้พบว่า มีคลอรีนหลงเหลืออยู่ในน้ำน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย
อย่างไรก็ตาม นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ก็ได้ออกมายืนยันว่า น้ำประปานั้นยังอยู่ในระดับมาตรฐาน และมีความปลอดภัยเหมือนเดิม ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับผู้บริโภคอย่างแน่นอน ทั้งนี้ อาจมีการเติมคลอรีนมากกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งหากใครยังไม่มั่นใจก็สามารถนำน้ำประปาไปเข้าเครื่องกรองน้ำ หรือน้ำไปต้มก่อนบริโภคก็ได้
ว่าแล้วเราลองมาเช็กคุณภาพของน้ำประปาในเขตแถวบ้านคุณกันดูเลย โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ wqconline.mwa.co.th แล้วตรวจสอบดูว่า บ้านของคุณอยู่ละแวกไหน ได้รับน้ำประปาที่ส่งมาจากสถานีสูบน้ำแห่งใด และตรวจสอบตัวเลขที่ปรากฏตามภาพ โดยตัวเลขสีเขียว หมายถึง ปริมาณคลอรีนอิสระที่หลงเหลือ (โดยค่ามาตรฐานต้องอยู่ที่ประมาณ 0.2-0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร) ส่วนตัวเลขสีเหลือง หมายถึงความขุ่น ต้องมีค่ามาตรฐานไม่เกิน 5 NTU
ทั้งนี้ สำหรับใครที่ตรวจสอบแล้ว น้ำประปายังมีคุณภาพดี แต่ยังคงกังวลใจเรื่องคุณภาพอยู่ล่ะก็ วันนี้เราได้รวบรวมวิธีแก้ปัญหาน้ำประปาเบื้องต้น มาฝากกันค่ะ
- ใช้สารส้มแกว่ง ให้รองน้ำใส่ถังแล้วพักไว้ 30 นาที จากนั้นหยดสารฆ่าเชื้อคลอรีนชนิดน้ำ (หยดทิพย์) 2% แล้วใช้สารส้มแกว่ง รอสักพัก แล้วตักน้ำใส ๆ ลงถังอีกใบหนึ่ง ...ทางที่ดีควรพักน้ำไว้อย่างน้อย 1 คืนก่อนนำไปใช้
- ใช้ด่างทับทิมละลายในน้ำ เพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ด่างทับทิม ทำลายเชื้อโรคได้เพียงบางชนิด และต้องใช้เวลานานนับชั่วโมง
- นำน้ำที่ได้จากขั้นตอนข้างต้นไปต้มก่อนนำมาใช้ดื่ม หรือประกอบอาหาร
- สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่าย เกิดผื่นขึ้นตามตัวหรือบนใบหน้า ก็แนะนำให้นำน้ำไปต้ม เพื่อล้างหน้าและอาบน้ำในช่วงนี้แทนไปก่อนจ้า