ข้อแนะนำการใช้น้ำประปาในภาวะน้ำท่วม (กปน.)
ปัญหาน้ำประปาขุ่น เหลือง มีกลิ่น ยังคงเป็นเรื่องร้องเรียนในหลายพื้นที่ เพราะความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในคุณภาพน้ำประปาในการใช้อุปโภคบริโภค ด้วยความห่วงใย ทางการประปานครหลวง (กปน.) จึงได้แนะนำการใช้น้ำประปาในภาวะน้ำท่วม 7 ข้อ ดังนี้
1. กรณีที่พักอาศัยของท่าน มีถังพักน้ำใต้ดินและถูกน้ำท่วม ควรหยุดใช้น้ำจากถังพักน้ำชั่วคราว แล้วเปลี่ยนไปใช้น้ำประปาจากท่อภายในที่ต่อตรงจากหลังมาตรวัดน้ำแทน เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังอาจไหลลงไปปะปน หรือซึมเข้าไปในถังพักน้ำ ทำให้น้ำมีสภาพไม่เหมาะสมต่อการใช้ หากน้ำยังท่วมไม่ถึงถังพักน้ำของท่าน ควรเตรียมป้องกันถังพักน้ำไว้ล่วงหน้า
2. ควรระมัดระวังไม่ใช้เครื่องสูบน้ำ (ปั๊มน้ำ) จากระบบท่อที่จมอยู่ใต้น้ำเพราะหากมีท่อแตกรั่วซึ่งมองไม่เห็น เครื่องสูบน้ำ (ปั๊มน้ำ) จะดูดสิ่งสกปรกเข้าสู่ระบบท่อได้
3. กรณีก๊อกจมอยู่ในน้ำ สามารถใช้สายยางที่สะอาดต่อจากก๊อกแล้วยกแขวนให้สูงขึ้น จะสามารถใช้น้ำได้ตามปกติ
4. น้ำประปาที่ กปน.ผลิตและสูบจ่ายเข้าสู่ระบบท่อประปา ได้ผ่านการตรวจสอบจากนักวิทยาศาสตร์ของ กปน. และสถาบันที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตน้ำท่วม หน่วยงานด้านสาธารณสุข อาทิ กรมอนามัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำดิบและน้ำประปา และยืนยันว่าน้ำประปาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มขององค์การอนามัยโลก ไม่เป็นอันตรายเพราะไม่มีสารพิษและเชื้อโรค
5. ขณะนี้ กปน. ได้เพิ่มปริมาณคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค จึงอาจมีกลิ่นคลอรีนในน้ำประปาที่บ้าน ท่านสามารถลดกลิ่นคลอรีนได้โดยรองน้ำประปาใส่ภาชนะเปิดฝาและตั้งทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที กลิ่นคลอรีนจะระเหยไป หรืออาจนำไปต้มก่อนดื่ม
6. กรณีจำเป็นต้องอพยพออกจากที่พักอาศัย โปรดปิดประตูน้ำ (วาล์ว) ที่มาตรวัดน้ำเพื่อป้องกันกรณีท่อรั่วภายในบ้าน ทำให้สูญเสียน้ำประปาโดยไม่จำเป็น
7. ท่านสามารถแจ้งและขอรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ “ศูนย์บริการประชาชน” โทร.1125 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ณ เวลานี้ หลายพื้นที่ในจังหวัดน้ำท่วม ต้องประสบปัญหาน้ำประปามีสีเหลืองขุ่น มีตะกอน และกลิ่นที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ส่งผลให้ผู้ใช้น้ำเดือดร้อนจำนวนมาก บางส่วนไม่มั่นใจกับมาตรฐานความสะอาดของน้ำดื่มน้ำใช้ และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้น้ำประปาเปลี่ยนสีแล้วรู้สึกว่า มีผื่นคันขึ้นตามตัว และมีสิวขึ้น ขณะที่บางคนมีอาการท้องร่วง ท้องเสีย โดยเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากการรับประทานน้ำประปาที่ไม่สะอาดเข้าไป
ทั้งนี้ สาเหตุที่น้ำประปาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนั้น อาจเกิดจากการที่การประปาฯ ต้องเร่งผลิตน้ำ เนื่องจากน้ำล้นเข้าคลองประปา ทำให้ระยะเวลาในการพักน้ำและตกตะกอนลดลง ส่วนกลิ่นที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากสภาพน้ำที่สกปรกขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วน้ำประปาที่สะอาดตามองค์การอนามัยโลกจะต้องมีคลอรีนอยู่ที่ประมาณ 2-5 ppm แต่น้ำประปาในช่วงนี้พบว่า มีคลอรีนหลงเหลืออยู่ในน้ำน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย
อย่างไรก็ตาม นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ก็ได้ออกมายืนยันว่า น้ำประปานั้นยังอยู่ในระดับมาตรฐาน และมีความปลอดภัยเหมือนเดิม ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับผู้บริโภคอย่างแน่นอน ทั้งนี้ อาจมีการเติมคลอรีนมากกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งหากใครยังไม่มั่นใจก็สามารถนำน้ำประปาไปเข้าเครื่องกรองน้ำ หรือน้ำไปต้มก่อนบริโภคก็ได้
ว่าแล้วเราลองมาเช็กคุณภาพของน้ำประปาในเขตแถวบ้านคุณกันดูเลย โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ wqconline.mwa.co.th แล้วตรวจสอบดูว่า บ้านของคุณอยู่ละแวกไหน ได้รับน้ำประปาที่ส่งมาจากสถานีสูบน้ำแห่งใด และตรวจสอบตัวเลขที่ปรากฏตามภาพ โดยตัวเลขสีเขียว หมายถึง ปริมาณคลอรีนอิสระที่หลงเหลือ (โดยค่ามาตรฐานต้องอยู่ที่ประมาณ 0.2-0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร) ส่วนตัวเลขสีเหลือง หมายถึงความขุ่น ต้องมีค่ามาตรฐานไม่เกิน 5 NTU
ทั้งนี้ สำหรับใครที่ตรวจสอบแล้ว น้ำประปายังมีคุณภาพดี แต่ยังคงกังวลใจเรื่องคุณภาพอยู่ล่ะก็ วันนี้เราได้รวบรวมวิธีแก้ปัญหาน้ำประปาเบื้องต้น มาฝากกันค่ะ
- ใช้สารส้มแกว่ง ให้รองน้ำใส่ถังแล้วพักไว้ 30 นาที จากนั้นหยดสารฆ่าเชื้อคลอรีนชนิดน้ำ (หยดทิพย์) 2% แล้วใช้สารส้มแกว่ง รอสักพัก แล้วตักน้ำใส ๆ ลงถังอีกใบหนึ่ง ...ทางที่ดีควรพักน้ำไว้อย่างน้อย 1 คืนก่อนนำไปใช้
- ใช้ด่างทับทิมละลายในน้ำ เพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ด่างทับทิม ทำลายเชื้อโรคได้เพียงบางชนิด และต้องใช้เวลานานนับชั่วโมง
- นำน้ำที่ได้จากขั้นตอนข้างต้นไปต้มก่อนนำมาใช้ดื่ม หรือประกอบอาหาร
- สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่าย เกิดผื่นขึ้นตามตัวหรือบนใบหน้า ก็แนะนำให้นำน้ำไปต้ม เพื่อล้างหน้าและอาบน้ำในช่วงนี้แทนไปก่อนจ้า