กาชาด ขอรับบริจาคเลือด รับมือสงกรานต์!



บริจาคเลือด



กาชาด ขอเลือด รับมือสงกรานต์! (ไทยโพสต์)

          สภากาชาดไทยเพิ่มยอดรับบริจาคเลือดรับมือเทศกาลสงกรานต์ หวั่นขาดโลหิตช่วยกรณีฉุกเฉินจากอุบัติเหตุ-ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ชี้เหตุวันหยุดยาวคนกลับต่างจังหวัด ทำยอดบริจาคลดลง พร้อมจัดกิจกรรมแล้งนี้ไม่แล้งน้ำใจ แจกเสื้อยืดให้ผู้บริจาค ตั้งเป้าจัดหาเพิ่มขึ้น 500 ยูนิต

          เมื่อวันที่ 9 เมษายน พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มักจะประสบปัญหาการขาดแคลนโลหิตเนื่องจากมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ประชาชนในกรุงเทพฯ จะเดินทางออกไปยังต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้บริจาคโลหิตลดลง ขณะนี้ได้จัดโครงการแล้งนี้ไม่แล้งน้ำใจด้วยการให้โลหิต ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 เมษายน ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ โดยจัดทำเสื้อยืดที่ระลึกพิมพ์ข้อความว่า "ทุกคนเป็นฮีโร่ได้ด้วยการบริจาคโลหิต" เพื่อแจกผู้บริจาคทุกคน

          พญ.สร้อยสอางค์ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงปิดภาคการเรียน จึงไม่มีหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ตามสถานศึกษาต่างๆ ทำให้ยอดรับบริจาคหายไปถึง 30% ต้องรณรงค์ให้นักเรียนนักศึกษาเดินทางมาบริจาคถึงที่ศูนย์บริการโลหิตฯ แต่ก็ยังไม่เพียงพอและกังวลว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีคนมาบริจาคน้อย จึงต้องรณรงค์ให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญบริจาคโลหิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อ เตรียมพร้อมสำรองโลหิตให้แก่ผู้ป่วย ซึ่งทุกปีช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเกิดอุบัติเหตุและมีความต้องการใช้โลหิตเป็นจำนวนมาก

          "ในแต่ละวันศูนย์บริการโลหิตฯ ต้องเตรียมพร้อมสำรองโลหิตในคลังเลือดไม่ต่ำกว่าวันละ 3,000-4,500 ยูนิต โดยจะต้องจัดหาโลหิตให้ได้ตามเป้าหมายคือ วันละ 1,500 ยูนิต แต่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีก 500 ยูนิต เป็นวันละ 2,000 ยูนิต เพื่อแจกจ่ายโลหิตให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ 60% และส่งไปยังต่างจังหวัดอีก 40% และคาดว่าจะต้องส่งต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางในเทศกาลสงกรานต์" ผอ.ศูนย์บริการโลหิตฯ กล่าว

          สำหรับโลหิตที่จัดหาได้ในแต่ละวันนั้นจะจัดส่งให้ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยปริมาณความต้องการโลหิตร้อยละ 23 เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ฮีโมฟีเลีย ต้องรักษาด้วยการได้รับโลหิตต่อเนื่องตลอดชีวิต อีกร้อยละ 77 เป็นผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ได้แก่ โรคมะเร็ง ผ่าตัด คลอดบุตร รวมทั้งอุบัติเหตุต่าง ๆ ซึ่งหากมีโลหิตสำรองที่เพียงพอก็จะสามารถช่วยเหลือชีวิตได้อย่างทันท่วงที

          นอกจากนี้ สถานการณ์ของโลหิตหมู่พิเศษ หรือ Rh negative ในประเทศไทยยังอยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วง เพราะมีปริมาณการบริจาคเลือดต่ำกว่าความต้องการหลายเท่าตัว ศูนย์บริการโลหิตฯ จึงรณรงค์ให้เกิดความตื่นตัวในการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 3-4 ครั้ง จากข้อมูลสำรวจทั่วโลกพบว่า คนยุโรปมีโลหิตหมู่พิเศษ หรือ Rh- ประมาณ 16-35% คนแอฟริกันเป็น Rh- ประมาณ 7% ส่วนคนเอเชียมีกรุ๊ปเลือด Rh- ไม่ถึง 1% คนไทยนั้นยิ่งพบน้อยมากเพียง 0.3% อธิบายง่ายๆ ว่า ใน 1,000 คนจะพบเพียง 3 คนที่เป็น Rh- ส่วนคนไทยอีก 99.7% เป็น Rh+ เมื่อผู้ป่วยที่มีโลหิตหมู่พิเศษต้องการใช้โลหิตจำนวนมากเพื่อช่วยรักษา พยาบาล จึงมักประสบปัญหาเรื่องการจัดหาเลือดที่ไม่เพียงพอและไม่ทันเวลาต่อความต้อง การ ส่งผลให้เป็นอันตรายต่อชีวิต ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้บริจาคเลือด Rh- ในประเทศไทยอยู่เพียงกว่า 5,000 คน และมีผู้บริจาคใหม่ไม่ถึงปีละ 400 คน ทำให้ในคลังของศูนย์บริการ โลหิตฯ ยังขาดแคลนเลือด Rh- อย่างมาก จึงรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปบริจาคเลือดเพื่อจะได้รับบริการตรวจหาหมู่เลือดอย่างถูกต้องโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก











เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กาชาด ขอรับบริจาคเลือด รับมือสงกรานต์! อัปเดตล่าสุด 12 เมษายน 2555 เวลา 16:45:19
TOP
x close