เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
แพทย์ เตือน กินตัวเงินตัวทอง เสี่ยงป่วยโรคปวดศีรษะพยาธิหอยโข่ง หลังพบคนไข้ 6 ราย ป่วยเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล แนะกินอาหารปรุงสุก ป้องกันโรค
วันนี้ (7 มิถุนายน) ร.อ.ภูรีวรรธน์ โชคเกิด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ทางสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค ได้รายงานเข้ามาว่า พบคนไข้เพศชาย ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ จำนวน 6 คน ป่วยด้วยโรคปวดศีรษะพยาธิหอยโข่ง หรือ โรคเยื่อหุ้มสมองและเนื้อสมองอักเสบ (Eosinophilic Meningoencephalitis) โดยมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และมีอาการอัมพาตที่แขนขา ไม่สามารถก้มศีรษะให้คางมาชิดหน้าอกได้
ทั้งนี้ จากการซักประวัติทราบว่า ทั้ง 6 คน มีประวัติรับประทานเนื้อบริเวณหางและตับผสมน้ำดีของตะกวด หรือ ตัวเงินตัวทอง ที่จับมาจากในป่าใกล้หมู่บ้าน แล้วนำมาปรุงเป็นก้อยดิบรับประทาน โดยหลังจากรับประทานไม่นาน ทั้งหมดก็มีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น
สำหรับ โรคปวดศีรษะพยาธิหอยโข่ง หรือ โรคพยาธิหอยโข่ง เป็นโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ที่มาจากสัตว์ที่เป็นพาหะมีพยาธิระยะติดต่อ เช่น หอยโข่ง หอยทาก หอยน้ำจืด หอยบก หอยขม หอยเชอรี่ ปลาน้ำจืด กุ้งและปูน้ำจืด ตะกวด รวมทั้งผักและผลไม้สดที่มีการปนเปื้อนของพยาธิ ในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคนี้มากถึงร้อยละ 48 ของผู้ป่วยทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง
ผู้ป่วยโรคนี้จะมีอาการคอและหลังแข็ง ปวดศีรษะอย่างรุนแรงบริเวณหน้าผากและขมับทั้งสองข้าง มีไข้เป็น ๆ หาย ๆ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการอัมพาตของแขนขา ความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพที่เกิดและจำนวนพยาธิที่ผู้ป่วยได้รับเข้าไป หากผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรงมาก อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น และหายได้เอง แต่หากมีอาการรุนแรง ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ วิธีป้องกันก็คือ ควรบริโภคอาหารที่ปรุงสุก ล้างผักผลไม้ให้สะอาด รวมทั้งงดดื่มน้ำที่ไม่สะอาด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
