ยอดตายหวัด09 รวม 153 ศพ องค์การอนามัยโลกเตือนระบาดรอบสอง สธ.ห่วงสุดช่วงปิดเทอม (มติชนออนไลน์)
ยอดสะสมคนไทยติดหวัด 2009 ตายเพิ่มอีก 11 ราย ใน 8 จว. รวม 153 ศพ สธ. ห่วงช่วงเด็กปิดเทอม กลับบ้านตจว.เสี่ยงติดเชื้อ ให้ผู้ว่าฯ-สสจ.เฝ้าระวังใกล้ชิด ฮูเตือนระบาดรอบ 2 ปธ.บอร์ด อภ. ชี้ 18 ก.ย.รู้วันทดลองวัคซีนอาสาสมัคร
นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในรอบสัปดาห์ เมื่อวันที่ 16 กันยายน ว่าช่วงวันที่ 6-12 กันยายนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 11 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 5 ราย โดย 2 ใน 3 มีโรคประจำตัว กระจายอยู่ใน 8 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชุมพร เชียงใหม่ นครสวรรค์ แพร่ สงขลา สมุทรปราการ และอุทัยธานี ขณะนี้รวมยอดผู้เสียชีวิตตั้งแต่ 28 เมษายนเป็นต้นมา รวมทั้งสิ้น 153 ราย
นพ.ไพจิตร์กล่าวว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลก หรือฮู เตือนให้มีการเฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระลอก 2 และประเทศไทยได้เตรียมการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง กำชับให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง โดยเฉพาะสถานีอนามัยดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ หากพบผู้ที่มีอาการไข้หวัด ให้สันนิษฐานว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไว้ก่อน และส่งตัวพบแพทย์เพื่อดูแลรักษาโดยเร็ว และให้ยาผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายทุกรายโดยไม่ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ และเตรียมจัดทีมผู้เชี่ยวชาญออกติดตามช่วยเหลือจังหวัดที่พบปัญหา ขณะนี้ได้กระจายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ให้โรงพยาบาลทุกจังหวัด และคลีนิคที่ร่วมโครงการเพียงพอแล้ว นอกจากนี้ขอความร่วมมือร้านขายยา หากพบผู้ป่วยเข้าข่ายให้แนะนำไปรักษาตัวในโรงพยาบาลทันที
"ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่จะต้องเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด และมีความเสี่ยงโรคแพร่สู่พื้นที่ชนบทเพิ่มได้ เนื่องจากโรงเรียนจะปิดเทอม เด็กที่มาเรียนในเมืองจะกลับบ้านในชนบท หรือเข้าร้านอินเตอร์เน็ต ไปเรียนกวดวิชา บางแห่งอาจมีกิจกรรมออกค่าย และมีเทศกาลงานบุญสำคัญ เช่น ทอดกฐิน ลอยกระทง แข่งเรือ ฯลฯ จึงขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สำรวจการจัดงานและจัดเตรียมทีมให้ความรู้ คำแนะนำแก่ประชาชน" นพ.ไพจิตร์กล่าว และว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ได้หารือกับผู้แทนจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง เพราะกำลังมีปัญหาการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ด้าน พญ.มัวรีน เบอร์มิงแฮม ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการผลิตวัคซีนจากเชื้อตายเป็นชนิดฉีดว่า ผลการทดลองในจีน และประเทศตะวันตก ให้ข้อมูลว่าสามารถฉีดวัคซีนเพียง 1 ครั้งต่อปี สามารถป้องกันโรคได้ และคาดว่าต้นเดือนตุลาคมนี้กระบวนการผลิตวัคซีนจะแล้วเสร็จ สามารถฉีดให้ประชาชนในกลุ่มประเทศตะวันตกและจีน ขณะนี้องค์การอนามัยโลกเริ่มเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ เช่น บริษัท จีเอสเค บริษัทซาโนฟี่ เป็นต้น เพื่อขอรับบริจาควัคซีนให้กับประเทศกำลังพัฒนา หรือประเทศยากจน คาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 1-2 สัปดาห์นี้
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวว่า คณะทำงานศึกษาวิจัยวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่มีนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ร่วมด้วย จะประชุมในวันที่ 18 กันยายน เพื่อพิจารณาว่าจำเป็นจะต้องเลื่อนการทดลองวัคซีนในอาสาสมัครชุดแรกหรือไม่ เนื่องจากผลการตรวจสอบซ้ำของการเกิดฝีในปอดหนูยังแล้วเสร็จภายในต้นเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ จะหารือว่าทดลองในอาสาสมัคร 24 คน หรือ แบ่งเป็นครั้งละ 12 คน ซึ่งจะต้องพิจารณาผลการเจาะเลือดหนูเพื่อตรวจดูการกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่จะทราบผลในวันที่ 23 กันยายน ร่วมด้วย
"ส่วนตัวเห็นว่า ไม่จำเป็นที่ต้องทดลองกับหนูใหม่ เพราะถึงแม้ว่ามีการทดลองใหม่กี่รอบ ก็อาจได้ผลเช่นเดิม" นพ.วิชัยกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
