เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า จากรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ไวรัส เวสต์ ไนล์ ที่แพร่กระจายในคน สัตว์ปีก และยุง กำลังมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในขณะนี้ มีผู้ป่วยกว่า 5,207 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 234 คน โดยที่เมื่อสัปดาห์ก่อน ตัวเลขของผู้ป่วยอยู่ที่ 5,128 คน และมีผู้เสียชีวิต 229 คน
ทั้งนี้ ผู้ป่วยกว่า 51% ที่เป็นโรคนี้ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของโรคที่แพร่เชื้อเข้าเซลล์ประสาท และอาจทำให้ผู้ป่วยกลายเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือภาวะสมองอักเสบอันเกิดจากเชื้อไวรัส และผู้ป่วยอีกกว่า 49% ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แพร่เชื้อไปยังอวัยวะอื่นในร่างกาย และไข้เวสต์ ไนล์ ในแบบที่รุนแรงน้อยกว่า อาจทำให้มีอาการเหมือนคนเป็นหวัด และไม่มีอันตรายถึงชีวิต
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ใน 48 รัฐของอเมริกา แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ใน 13 รัฐ อันได้แก่ รัฐเท็กซัส, รัฐแคลิฟอร์เนีย, รัฐหลุยส์เซียน่า, รัฐอิลลินอยส์, รัฐมิสซิสซิปปี้, รัฐมิชิแกน, รัฐเซาท์ ดาโกต้า, รัฐโอกาโฮม่า, รัฐเนบราสก้า, รัฐโคโลราโด้, รัฐอริโซน่า, รัฐโอไฮโอ้ และนิวยอร์ก โดยที่ 1 ใน 3 ของผู้ป่วย มาจากรัฐเท็กซัส ซึ่งในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ติดไวรัสชนิดนี้อยู่ใน 10 รัฐ ดังนั้น การแพร่กระจายของไวรัสชนิดนี้จึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า
ด้านนายบรูซ ดี กรีนสไตน์ จากแผนกสุขภาพและงานพยาบาลของรัฐหลุยส์เซียน่า กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน มีผู้ป่วยใหม่กว่า 15 คน และมี 1 คนที่เสียชีวิต ซึ่งเราเองไม่ใช่แค่พยายามหาว่า มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่เรายังมีรายงานที่สำคัญ 3 ฉบับที่ชี้ว่า มีผู้ป่วยที่ติดไวรัสชนิดนี้คนแรกในรอบปี แน่นอนว่า ไวรัสชนิดนี้เป็นภัยคุกคาม และเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาสุขภาพและหลีกเลี่ยงการโดนยุงกัด ในขณะที่สภาพอากาศเย็นและแห้ง