เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กระทรวงสาธารณสุข แนะคนไทยอย่าวิตกเรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ในสหรัฐฯ เผย เป็นแค่การระบาดตามฤดูกาล ไม่ใช่โรคใหม่ และไม่มีการกลายพันธุ์ ดังนั้นสามารถเดินทางไปสหรัฐฯ ได้ตามปกติ
วันนี้ (14 มกราคม) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ที่เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ว่า ขณะสหรัฐฯ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว โดยพบว่าเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ H3 N2/Victoria ซึ่งเป็นการระบาดตามฤดูกาล ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ ส่วนการเดินทางเข้าออกระหว่างไทย-สหรัฐฯ ยังทำได้ตามปกติ เพราะไม่ได้มีสถานการณ์รุนแรง สำหรับการป้องกันความเสี่ยงของโรค คือ กินร้อน ช้อนกลาง และหมั่นล้างมือ ซึ่งเป็นสุขนิสัยพื้นฐาน
นพ.ประดิษฐ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย พบว่า มีผู้ป่วยตั้งแต่ต้นปี 2556 จนถึงปัจจุบัน จำนวน 144 คน ส่วนปี 2555 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วย 61,296 คน และเสียชีวิต 3 คน สำหรับการระบาดในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่า อาจมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่สายพันธุ์ H3 N2/Victoria ที่กำลังระบาดในสหรัฐฯ กลับพบการระบาดในไทยลดลงจากร้อยละ 50 เหลือเพียง ร้อยละ 12
สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกัน จะเริ่มในฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป โดยครอบคลุมสายพันธุ์ที่ระบาดในสหรัฐฯ ด้วย เนื่องจากเป็นวัคซีนในรอบฤดูกาลระบาดตามปกติ มีทั้งสายพันธุ์ H3 N2/Victoria และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอ และบี ซึ่งจะอยู่ในวัคซีน 1 เข็ม โดยกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีนดังกล่าว มีดังนี้
เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
ผู้สูงอายุ
สตรีมีครรภ์
ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
บุคลากรทางการแพทย์
สำหรับผู้ได้รับวัคซีนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยังไม่มีความจำเป็นต้องได้รับวัคซีนเพิ่ม เนื่องจากระยะของวัคซีน ยังคงป้องกันและครอบคลุมอยู่ การรับวัคซีนซ้ำโดยไม่จำเป็นอาจส่งผลให้เกิดการแพ้วัคซีนได้ ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องเดินทางไปสหรัฐฯ ควรดูว่าจะเดินทางไปที่เมืองใด มีการระบาดของโรคหรือไม่ และมีการฉีดวัคซีนแล้วหรือยัง ถ้าหากไม่มั่นใจก็สามารถมารับวัคซีนได้ โดยกรมควบคุมโรคสำรองวัคซีนไว้ประมาณ 100,000 โดส
นอกจากนี้ คนที่เดินทางกลับจากสหรัฐฯ ก็ควรหมั่นสังเกตตัวเองด้วยว่า มีอาการป่วยหรือไม่ หากมีความผิดปกติใด ๆ ก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันที หรือหากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนหมายเลข 1422
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก