แผนการไปดินเนอร์มื้อค่ำสุดหรูในคืนวันวาเลนไทน์อาจต้องสะดุดลง หากช่วงนี้ตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักของคุณสาว ๆ ขึ้นเอาขึ้นเอา แถมผลการตรวจไขมัน และคอเลสเตอรอลในการตรวจสุขภาพประจำปีก็ขึ้นอีกต่างหาก แบบนี้จะกล้าหยิบอะไรทานล่ะเนี่ย...ไม่ต้องห่วงไป เรามีเคล็ดลับการเลือกทานอาหารที่จะไม่บวกคอเลสเตอรอลเพิ่มให้คุณฉลองได้อย่างมีความสุขในวันวาเลนไทน์มาบอกแล้วจ้า
1. บอกลา...ช็อกโกแลตนม
ช็อกโกแลตกับวันวาเลนไทน์เป็นของคู่กัน แต่ถ้าใครกำลังลดน้ำหนัก และไม่อยากเพิ่มคอเลสเตอรอลล่ะก็คงต้อง (จำใจ) บอกลาช็อกโกแลตแล้วล่ะ เพราะช็อกโกแลตนมทั้งหลายล้วนให้คอเลสเตอรอลสูง (มาก) แต่ถ้าคุณสาว ๆ อยากลิ้มรสช็อกโกแลตให้รู้สึกว่าตัวเองได้สัมผัสเทศกาลวาเลนไทน์แล้วล่ะก็ ลองหาดาร์กช็อกโกแลตมาทานดูสิจ้ะ
แม้จะมีชื่อว่าช็อกโกแลตเหมือนกัน แต่มันให้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามกับช็อกโกแลตทั่วไปเลยเชียว เพราะดาร์กช็อกโกแลตนี้จะไปช่วยลดไขมันเลว หรือ LDL ที่ทำให้คุณสาว ๆ กลุ้มใจอยู่นั่นแหละ เนื่องจากมันมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ที่ชื่อว่า "โฟลวานอยด์" ช่วยป้องกันการอุดตันของเส้นเลือด และช่วยยับยั้บอนุมูลอิสระภายในเลือด จึงช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ด้วย
แต่ว่านะ...ถึงแม้จะเป็นดาร์กช็อกโกแลต แต่ก็ยังมีไขมันอยู่ไม่น้อย เพราะฉะนั้น อย่าเผลอกัดจนเพลินเชียว เดี๋ยวจะตกใจกับรอบเอวที่ขยายขึ้นเอาได้ :]
อาหารฝรั่งอาจทำให้วาเลนไทน์มื้อนี้ของคุณอ้วนเอาได้ง่าย ๆ ว่าแล้วก็ขอแนะนำให้เติมกลิ่นอายไทย ๆ ผสมลงไปในอาหารด้วย "ขมิ้น" สีเหลือง ๆ น่าทานนี่แหละจ้า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ขมิ้น สมุนไพรที่ทุกคนรู้จักกันดีมีสรรพคุณต่อต้านไม่ให้ร่างกายสะสมไขมัน จึงช่วยลดปริมาณไขมันเลว ชนิดแอลดีแอล (LDL) และลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยล่ะ ถ้าคิดว่าไปร้านอาหารแล้วหาสั่งทานยาก ก็คิดเมนูเด็ด ๆ อย่าง ไก่อบขมิ้น ข้าวอบขมิ้น กุ้งผัดขมิ้น ฯลฯ ทำรับประทานกันเองที่บ้านเลย
3. สีแดงแรงฤทธิ์
นึกถึงวันวาเลนไทน์ก็ต้องนึกถึงสีแดงสิจ๊ะ แต่แทนที่จะเลือกเค้กชิ้นโตราดซอสสตอรว์เบอรี่ชุ่มฉ่ำ ๆ มาเสิร์ฟเป็นของหวานล้างปาก แนะนำให้เลือกทานผลไม้สด ๆ สีแดงแทนดีกว่า อย่างเช่นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอรี่ ราสป์เบอร์รี ล้วนมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย แถมยังให้พลังงานต่ำ เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่อยากจะควบคุมน้ำหนักดีทีเดียว
4. ตบท้ายด้วยไวน์แดงสักแก้ว
ถ้าหากแฟนหนุ่มสั่งไวน์แดงมาตบท้ายมื้ออาหาร เพื่อเรียกบรรยากาศความโรแมนติกแล้วล่ะก็ คุณสาว ๆ ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะไวน์แดงนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากทีเดียว จากงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า การดื่มไวน์แดงเฉลี่ยวันละ 1 แก้ว จะช่วยเพิ่มไขมันดี ชนิดเอชดีแอล (HDL) และลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีลง เพราะไวน์แดงมีสารฟลาโวนอยด์นั่นเอง แต่ย้ำอีกครั้งนะคะว่า สำหรับผู้หญิงควรดื่มไม่เกินวันละ 1 แก้วเท่านั้น ส่วนคุณผู้ชายอนุญาตให้ดื่มได้ไม่เกินวันละ 2 แก้ว ไม่งั้นโรคตับถามหาแน่ ๆ
5. จำไว้ว่าต้องให้ความสำคัญกับอาหารให้น้อยที่สุด
ในเมื่อวันนี้คือวันวาเลนไทน์ที่เป็นวันสุดแสนจะพิเศษของคู่รัก เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราควรจะให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือความรักที่มีต่อหวานใจนั่นเอง เช่นนั้นแล้ว เราควรใส่ใจและดื่มด่ำกับบรรยากาศของวันวาเลนไทน์ให้เต็มที่จะดีกว่า อย่างเช่น ปลาบปลื้มกับดอกไม้ช่อโต หรือของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ที่แฟนหนุ่มมอบให้ นั่งพูดคุยกันกระหนุงกระหนิงตามประสา ส่วนอาหารอร่อยที่วางอยู่ตรงหน้านั่นน่ะ อย่าไปใส่ใจให้มากเลยจ้า วันนี้เรามาเก็บความทรงจำดี ๆ ที่ไม่ใช่ได้มาจากจานอาหารดีกว่าเนอะ
เพียงเคล็ดลับง่าย ๆ 5 ข้อนี้ คงจะทำให้คุณสาว ๆ ที่เตรียมไปฉลองวาเลนไทน์กับหวานใจสบายใจขึ้นแล้วใช่ไหมคะว่า ดินเนอร์มื้อนี้ไม่ได้รอบเอวที่ขยายเพิ่มมาเป็นของขวัญวาเลนไทน์แน่นอน :)