เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ศาลนิวยอร์กสั่งยกเลิกมาตรการห้ามขายน้ำอัดลมแก้วใหญ่ขนาด 16 ออนซ์ ชี้เป็นการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน ส่วนทางด้านนายกเทศมนตรีลั่นจะอุทธรณ์ให้ถึงที่สุด ชี้ต้องการปรับเปลี่ยนคุณภาพชีวิตประชาชน
วันนี้ (12 มีนาคม 2556) สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ศาลนครนิวยอร์กมีมติยับยั้งการบังคับใช้กฎหมายของเทศบาลที่ต้องการให้ควบคุมการจำหน่ายน้ำอัดลมใส่แก้วขนาดใหญ่เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่กฎหมายมาตราดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ เนื่องจากเป็นการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนโดยไร้ซึ่งเหตุผลที่ชอบธรรม ซึ่งเรื่องนี้สร้างความผิดหวังให้นายกเทศมนตรีที่ผลักดันข้อบังคับนี้เพื่อลดปัญหาโรคอ้วน
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกันยายน คณะกรรมการสาธารณสุขนครนิวยอร์กมีมติอนุมัติข้อเสนอของนายกเทศมนตรี ไมเคิล บลูมเบิร์ก ที่ให้ห้ามจำหน่ายน้ำอัดลม หรือน้ำหวานแก้วใหญ่เกิน 16 ออนซ์ในร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และสนามกีฬา ซึ่งหากใครฝ่าฝืนจะถูกปรับ 200 ดอลลาร์ หรือราว 6,000 บาท แต่ไม่มีผลต่อซูเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านค้าอื่น ๆ ส่งผลให้สมาคมผู้ผลิตเครื่องดื่ม ตลอดจนกลุ่มธุรกิจร้านอาหารและโรงภาพยนตร์ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อเดือนตุลาคมเพื่อคัดค้านข้อบังคับดังกล่าว
ล่าสุด ผู้พิพากษามิลตัน ทิงกลิง หนึ่งในคณะตุลาการผู้พิจารณาให้มีการล้มเลิกข้อกฎหมายในฉบับนี้แล้ว โดยระบุว่า คำสั่งเรื่องการควบคุมการจำหน่ายน้ำอัดลมใส่แก้วที่มีขนาดบรรจุเกินกว่า 470 มิลลิลิตร (16 ออนซ์) หรือให้พลังงานเกินกว่า 200 กิโลแคลอรี ถือเป็นการแสดงอำนาจตามอำเภอใจของคณะผู้บริหารนครนิวยอร์ก รวมถึงเป็นการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนอย่างขาดซึ่งเหตุผลอันชอบธรรม จึงเห็นสมควรประกาศให้ข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นโมฆะ
อย่างไรก็ดี ด้านนายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก แถลงแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง ทันทีที่ทราบมติของศาล โดยกล่าวว่า ตนพยายามมาตลอดที่จะปรับเปลี่ยนคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น จึงเริ่มจากการออกกฎหมายห้ามการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ จนมาถึงเรื่องการจำหน่ายน้ำอัดลม หลังจากผลการวิจัยพบว่า ผู้ใหญ่ชาวนิวยอร์กราว 58% เป็นโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกิน ซึ่งบลูมเบิร์กยืนยันว่า จะยื่นอุทธรณ์จนถึงที่สุด
