เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวเอพี รายงานว่า องค์การอนามัยโลกยืนยัน พบชายชาวตูนีเซียวัย 66 ปีคนหนึ่ง เสียชีวิตจากการติดเชื้อ NCoV หรือไวรัสคล้ายซาร์ส เป็นรายแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เดินทางกลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ลูกสาวของเขาก็ติดเชื้อด้วย ก่อนนำเชื้อมาแพร่ต่อไปยังสมาชิกในครอบครัวอีกราย และทั้งสองยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
สำหรับเคสดังกล่าว ถือเป็นเคสแรกที่เกิดขึ้นในตูนีเซีย และเป็นตัวบ่งชี้ว่า ไวรัสโคโรนาค่อย ๆ แพร่กระจายอย่างช้า ๆ จากประเทศซาอุดีอาระเบีย และการติดเชื้อจากคนภายในครอบครัวเดียวกัน ก็เป็นหลักฐานยืนยันชัดว่า ไวรัสชนิดนี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ 100%
รายงานระบุว่า ชายตูนีเซียที่เสียชีวิต ได้บ่นเกี่ยวกับปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ นับตั้งแต่ที่เขากลับมาจากซาอุดีอาระเบีย และต่อมาเขาก็เข้ารับการรักษาและเสียชีวิตในโรงพยาบาลในเมือง โมนาสเตียร์ ประเทศตูนีเซีย ขณะที่ลูกสาวของเขาที่เดินทางไปด้วยกัน ก็ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสนี้เช่นกัน ก่อนที่จะแพร่เชื้อไปยังสมาชิกในครอบครัวอีกราย และตอนนี้ทั้งสองยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ โดยแยกผู้ป่วยออกจากผู้ป่วยรายอื่น ๆ ซึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้ ยังไม่มีวิธีการรักษาโรคนี้อย่างเด็ดขาด แต่ได้มีการให้แนะนำแพทย์ในการรักษาโรคเอาไว้แล้ว อาทิ การบำบัดด้วยออกซิเจนและไม่ใช่สารสเตียรอยด์ที่มีฤทธิ์แรง
ทั้งนี้ สำหรับไวรัส NCoV ถูกนำไปเปรียบเทียบกับไวรัสซาร์ส ที่ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และมีรายงานว่า มีผู้ป่วยด้วยไวรัสซาร์สกว่า 8,000 คน ใน 30 ประเทศ และกว่า 770 คน ต้องเสียชีวิตจากโรคนี้
นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ยังมีงานวิจัยพบว่า เชื้อไวรัสโคโรนานี้ ค่อนข้างมีความใกล้เคียงกับไวรัสค้างคาว และเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดและโรคซาร์ส ด้านผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า ไวรัสชนิดนี้อาจจะกระโดดจากสัตว์เช่น อูฐหรือ แพะ เข้าสู่มนุษย์โดยตรง แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะระบุสปีชีส์โดยตรง ไวรัสชนิดนี้จะทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ไตวาย และเกิดความผิดปกติในหัวใจ
