x close

หญิงเซเนกัล เจอพิษสุดช็อค ของครีมผิวขาว!!!


หญิงเซเนกัล เจอพิษสุดช็อค ของครีมผิวขาว!!! (มติชน)

         แพทย์หญิง ซูแซน อูมู เนียง ของโรงพยาบาลในกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล ชี้ให้ดูแผลอักเสบ ติดเชื้อของคนไข้ที่ใช้ครีมทาผิวขาวเป็นเวลาถึง 20 ปี ที่นางดิออพ ซื่อสัตย์ต่อการบรรจงทา "ครีมผิวขาว" ลงบนใบหน้าก่อนนอนทุกคืน ด้วยความเชื่อว่า มันจะทำให้เธอดู "สวยขึ้น" กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เมื่อเธอสังเกตเห็น "จุดดำๆ" หลายจุดเริ่มปรากฏขึ้นบนผิวหน้า!!!

         "ฉันอยากมีผิวขาว เพราะคนชอบบอกว่า มันทำให้คุณดูสวยขึ้น" หญิงวัย 50 ซึ่งอายเกินกว่าจะยอมบอก "ชื่อ" ของเธอแก่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เธอขอบอกแค่นามสกุล และยอมออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อเตือนให้ผู้หญิงได้รู้ถึงอันตรายของครีมทาผิวขาวที่น่ากลัวเกินกว่าหลายคนคาดคิด!!!

         จากรายงานของเอเอฟพีบอกว่า ครีมทาผิวขาว มักจะมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ และไฮโดรควิโนน ซึ่งแพทย์ผิวหน้าบอกว่า เป็นสารอันตรายต่อผิวหนัง และควรมีการใช้อย่างระมัดระวังภายใต้การดูแลของแพทย์ แต่ถึงกระนั้นตามท้องตลาดในเซเนกัล ก็มีครีมทาหน้าขาว และผลิตภัณฑ์บำรุงความงามที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าว วางขายเกลื่อนกลาด ล่อใจลูกค้าที่เชื่อว่า ผิวขาวทำให้ผู้หญิงดูสวยขึ้น

         ทั้งนี้ จากรายงานของแพทย์ผิวหนังชาวเซเนกัล และฝรั่งเศส เมื่อปี 2546 บอกว่า มีการใช้ครีมหน้าขาวกันอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้หญิงแถบทวีปแอฟริกา โดยประมาณว่า มีผู้หญิงราว 25-67% ที่ใช้ครีมทาหน้าขาวเป็นประจำ

         สำหรับคนที่ใช้ไวเทนนิ่งครีม หรือครีมทาเพื่อช่วยให้ผิวหน้าขาวมานานถึง 20 ปี อย่าง นางดิออพ เจ้าตัวยอมรับเลยว่า มันทำใจยากมากที่จะให้เลิกทา ถึงแม้จะเห็นจุดดำๆ เริ่มปรากฏส่อเค้าไม่ดีบนใบหน้า

         " ในการหักห้ามใจเลิกใช้ ฉันได้รับกำลังใจจากเพื่อนคนหนึ่ง หากไม่มีเพื่อนคนนี้คอยช่วย ฉันคงเลิกได้ลำบากมาก เพื่อนคนนี้ นำนิตยสารหลายเล่มมาให้ฉันดูรูปผู้หญิงหลายคนที่กำลังได้รับผลข้างเคียงจากการทาครีมผิวขาว พอฉันเห็นรูปเหล่านั้น ฉันก็บอกตัวเองเลยว่า ฉันต้องหยุดทามันจริงๆ แล้ว"

         ครีมไวเทนนิ่งต่างๆ เป็นที่นิยมมากในกรุงดาการ์ เฉพาะที่ตลาดแซนดากา ตั้งอยู่ใจกลางกรุง บรรดาพ่อค้าแม่ค้า เล่าว่า แต่ละวันสามารถขายครีมหน้าขาวได้วันละหลายกล่อง ซึ่งมีหลากยี่ห้อในท้องตลาด อาทิ ครีมยี่ห้อ เอ็กซ์-ไวท์ (X-White), เคลียร์ (Clear) และไวท์ (White) ส่วนครีมราคาถูกที่สุด เป็นครีมนำเข้าจากประเทศมาลี และประเทศไอวอรี่ โคสต์ ที่วางขายกัน ในราคาเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34 บาท ส่วนครีมและโลชั่นที่มีคุณภาพสูง อาจมีราคาสูงถึงขวดละ 25,000 ฟรังก์แอฟริกัน หรือราว 1,830 บาท

         ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเล่าว่า ได้พูดคุยกับมูนาสส์ สาววัย 21 ที่กำลังเดินหาซื้อครีมทาหน้าขาวอยู่ในตลาด เธอเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทาครีมไวเทนนิ่งวันละ 2 ครั้ง และหมดเงินไปกับค่าครีมเหล่านั้น ประมาณเดือนละ 40,000 ฟรังก์แอฟริกัน (ราว 2,430 บาท) จำนวนเงินที่มากกว่าเงินเดือนค่าแรงขั้นต่ำของคนเซเนกัล และเหตุผลที่เธอลงทุนใช้ครีม แม้ต้องหมดเงินไปมากมาย ก็เพราะ "ผู้ชายชอบผู้หญิงผิวขาวเนียน"

         ผู้สื่อข่าวถามมูนาสส์ด้วยว่า เธอรู้หรือเปล่าว่า ครีมพวกนี้มีอันตรายต่อสุขภาพของเธอ แล้วก็ได้รับคำตอบว่า "ฉันไม่รู้หรอกว่า ครีมพวกนี้มีอันตรายต่อสุขภาพฉัน" จากนั้นเธอก็ขอตัวไปเดินเลือกซื้อครีมต่อด้วยท่าทีไม่รู้สึกทุกข์ร้อนใดๆ

         ด้วยความที่เป็นครีมที่ผู้ใช้มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลข้างเคียงจากสารสเตียรอยด์ และไฮโดรควิโนน โดยเฉพาะไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นตัวยาที่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ได้ประกาศห้ามใช้ตั้งแต่ปี 2544 ในฐานะเป็นสารที่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง ส่วนที่เซเนกัล ก็มีการประกาศห้ามเด็กนักเรียนชั้นประถมและมัธยมศึกษาใช้ครีมทาผิวขาว หากจับได้ว่านักเรียนคนใดใช้อาจเสี่ยงที่จะถูกไล่ออกจากโรงเรียน แต่ถึงกระนั้นในเซเนกัลก็ยังมีคนนิยมใช้ครีมเหล่านี้อย่างแพร่หลาย

         ซู แซน อูมู เนียง แพทย์ผิวหนังโรงพยาบาลเอริสไทด์ แดนเทค ในกรุงดาการ์ เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ปริมาณการใช้ครีมทาผิวขาวในเซเนกัลได้เพิ่มปริมาณขึ้นมากว่า 10 ปี แล้วด้วยซ้ำ

         "ครีมเหล่านี้วางขายกันอย่างเสรี ทั้งที่ควรเป็นครีมที่แพทย์เท่านั้นเป็นผู้สั่งจ่ายให้คนไข้ตามอาการต่างๆ ทางผิวหนัง เจ้าหน้าที่ควรสั่งแบน ห้ามการขายครีมทาผิวขาว และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ครีมเหล่านี้"

         หมอ ซูแซนประเมินว่า คนไข้ที่มีอาการติดเชื้อทางผิวหนังอย่างรุนแรงที่มาให้เธอรักษา เกิดจากการใช้ไวเทนนิ่งครีม ถึง 60% "มันกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม ผู้หญิงทุกระดับอายุ ทุกระดับชั้นต่างใช้ครีมเหล่านี้ เพราะว่ามีวางขายทุกระดับราคาให้สามารถเลือกซื้อกันได้"

         คุณหมอเล่าว่า ปัญหาที่คนไข้มาพบเธอบ่อยๆ หลังจากใช้ครีม มีทั้งปัญหาเรื่องสิว จุดด่างดำ และผิวหนังบวมจากการใช้ครีม "ความเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เกิดจากสารสเตียรอยด์ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด"

         คุณหมอยังพูดถึงปัญหานี้ ซึ่งยากจะแก้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากการขาดความมั่นใจ และความเชื่อของผู้หญิงที่เชื่อว่า การมีสีผิวที่ขาวนั่นหมายถึงความทันสมัยมีเสน่ห์ และช่วยทำให้ตนดูมีระดับทางสังคมขึ้น

         สำหรับนางดิออพ ซึ่งเลิกทาครีมได้แล้ว เธอเล่าว่า เธอรู้สึกแปลกใจมากกับคำชมที่ไม่คาดฝันว่าจะได้ยิน "ทุกคนต่างบอกว่า ฉันดูสาวขึ้นแม้แต่สามีฉันเอง"




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หญิงเซเนกัล เจอพิษสุดช็อค ของครีมผิวขาว!!! อัปเดตล่าสุด 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 11:23:17 1,364 อ่าน
TOP