9 วิธีดูแลฟันปลอมด้วยตัวเอง (APPEAL)
การใส่ฟันปลอมถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้การดำรงชีวิตของคุณสะดวกยิ่งขึ้น แต่การดูแลทำความสะอาดฟันปลอมให้ถูกวิธี ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากคุณละเลยในจุดนั้นไปอาจจะส่งผลต่อสุขอนามัยของช่องปากตัวคุณเองได้
การดูแลฟันปลอมชนิดถอดได้
ควรถอดฟันปลอมทำความสะอาดทุกครั้งหลังการรับประทานอาหาร โดยใช้แปรงสีฟันแปรงที่ฟันปลอมให้ทั่วทุกซี่ฟัน และฐานของฟันปลอม จะใช้แปรงร่วมกับยาสีฟัน หรือสบู่ก็ได้ แล้วล้างน้ำให้สะอาด แล้วให้แช่น้ำเปล่าไว้ การแปรงฟันปลอมทุกวันจะช่วยกำจัดเศษอาหาร และคราบแบคทีเรีย และช่วยป้องกันการเกิดคราบ น้ำยาทำความสะอาดอาจจะช่วยได้ แต่ไม่สามารถแทนการแปรงทุกวันได้
เมื่อมีการจับฟันปลอม ควรยืนบนผ้าขนหนูหรืออ่างน้ำ เนื่องจากฟันปลอมมีความบอบบางและอาจหักได้ หากเผลอทำตก
ควรวางฟันปลอมในน้ำยาแช่ฟัน หรือในน้ำเปล่าเวลาที่ไม่ได้ใส่ ไม่ควรใช้น้ำร้อน เพราะอาจทำให้บิดได้ ไม่ควรทิ้งไว้ข้างนอกโดนอากาศ เพราะจะทำให้ฐานพลาสติกแห้งและบิดงอได้ และเป็นการให้เนื้อเยื่อในช่องปากได้พัก ไม่มีสิ่งใดไปกดทับ
ควรแปรงเหงือก ลิ้น และเพดานปากทุกเช้า ด้วยแปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่มก่อนที่จะสวมฟันปลอม ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกำจัดคราบแบคทีเรีย
พบทันตแพทย์ถ้าฟันปลอมหัก บิ่น แตก หรือหลวม ห้ามปรับฟันปลอมด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น
ควรถอดทำความสะอาด และแช่น้ำไว้เมื่อเวลานอน เพื่อลดแรงกดทับของฐานฟันปลอม ต่อเนื้อเยื่อ และเยื่อเมือกของช่องปาก หากใส่ฟันปลอมไว้ตลอดเวลาผลเสียที่จะเกิดขึ้นคือ ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก มีผลให้เกิดการอักเสบ หรือบางครั้งถ้ามีการระคายเคืองมาก อาจส่งผลให้เกิดเป็นก้อนเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงขึ้นที่บริเวณขอบหรือใต้ฐานฟันปลอม ซึ่งมักพบได้บ่อยกับฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปาก นอกจากนี้ การใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ตลอดเวลามักจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้
การดูแลฟันปลอมชนิดติดแน่น
เน้นการแปรงฟันบริเวณคอฟันของฟันที่ถูกครอบเป็นพิเศษ ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ
สำหรับสะพานฟันต้องทำความสะอาดบริเวณใต้ฟันปลอม โดยใช้ไหมขัดฟัน หรือใช้ Superfloss สอดคล้องใต้ฟันปลอม
การใส่ฟันปลอม ต้องเอาใจใส่ดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพราะฟันปลอมเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้มีเศษอาหารตกค้างได้มาก หลังจากใส่ฟันปลอมควรมาพบทันตแพทย์ตรวจช่องปากและฟันปลอมทุก 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละครั้ง เนื่องจากอาจเกิดฟันผุหรือเหงือกอักเสบขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งอาจต้องเสริมฐานฟันปลอมในบริเวณที่เหงือกยุบตัวลงไป หรืออาจต้องเปลี่ยนฟันปลอมใหม่ เมื่อฟันปลอมเดิมหมดอายุการใช้งาน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก