x close

หวั่นหวัด 2009 มารอบ 2 - ระวังหมาแมวติดโรคจากเจ้าของ



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่รัฐสภาได้มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ เตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์ระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และตัวแทนจากกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามการบริหารจัดการ การป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกใหม่ในช่วงฤดูหนาว 

          โดย พล.ต.สนั่น กล่าวภายหลังการประชุมว่า ต้องเตรียมการรับมือไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกใหม่ที่จะมีความรุนแรงกว่าระลอกแรก เนื่องจากในเมืองไทยเชื้อเริ่มมีการก่อตัวแล้ว และจากการประเมินผลในประเทศไทย โรคได้ขยายวงระบาดลงสู่ระดับอำเภอเกือบทุกอำเภอ แต่ทั้งนี้ในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2552 - 7 พฤศจิกายน 2552 มีจำนวน 183 รายเท่าเดิม อย่างไรก็ตาม จากการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบทั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดตามฤดูกาลและเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 

          พล.ต.สนั่น กล่าวต่อว่า โดยภาพรวมถือว่าการรับมือไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกแรกสามารถทำได้ดี แต่ต่อไปต้องเน้นไปที่ต่างจังหวัดเท่านั้น และสำหรับฤดูหนาวที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้นนั้น จะไม่ใช้วิธีตั้งด่านตรวจตามจุดต่าง ๆ อีกแล้ว แต่จะเน้นไปที่การแจกคู่มือในการปฏิบัติตัวเมื่อทราบว่าป่วย และจะสามารถเข้ารับการรักษา หรือขอคำแนะนำได้จากที่ใดบ้าง ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะติดตามโรคดังกล่าว จนกว่าเชื้อนี้จะตายไปจากประเทศไทย

          ด้าน นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ในการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข คณะอนุกรรมการวิชาการมีการประชุมติดตามประเมินผลทุกวันจันทร์ พบว่ายังไม่มีการดื้อยาของเชื้อไวรัส แต่ก็ขอให้สถานบริการทุกแห่งคงความเข้มงวดของมาตรการในการรักษาไว้เหมือนเดิม หากพบป่วยเป็นไข้หวัดให้หยุดรักษาตัวในบ้าน และเน้นย้ำแพทย์ว่า หากพบผู้ป่วยต้องให้ยาต้านไวรัสทันที ไม่ต้องรอจนเกิน 3 วันหลังป่วย เพราะยาจะได้ผลดีหลังป่วยไม่เกิน 27 ชั่วโมง ทั้งนี้มียาต้านไวรัสเพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยได้ถึง 3 ล้านคน

          ขณะที่สัตวแพทย์อเมริกัน ได้ออกมาเตือนผู้ที่ต้องสงสัยว่าจะป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า จำเป็นต้องหยุดงานอยู่กับบ้าน และนอกจากต้องระวังไม่ให้ไอจามติดคนในครอบครัวแล้ว ยังควรห่วงสัตว์เลี้ยงในบ้าน คือ สุนัขและแมวด้วย เนื่องจากมีรายงานว่า พบสุนัขและแมว มีอาการป่วยคล้ายโรคหวัด เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า ซึ่งคาดว่าจะติดมาจากเจ้าของ

          นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่าตัวเฟอริท สัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งที่คล้ายพังพอน ก็ติดโรคจากเจ้าของของมัน และยังรายงานจากรอบโลกว่า พบหมูจำนวนมากติดโรคดังกล่าวด้วย 

          ดร.คาโรลีน บริดจ์ส์ แห่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ กล่าวว่า "นี่เป็นเครื่องแสดงอีกอย่างหนึ่งว่า ไวรัสโรคไข้หวัดใหญ่ย้อนศรได้ จึงเป็นที่สนใจ และยังผิดหวังไปพร้อม ๆ กัน และบางครั้งโรคก็สามารถแพร่ข้ามกันระหว่างชนิดของสัตว์ได้"

          ทั้งนี้ แต่ไหนแต่ไรมา จะมีแต่ข่าวว่าพวกสัตว์ต่าง ๆ เป็นฝ่ายเอาโรคมาติดคน เช่น โรคไข้หวัดใหญ่มาจากนก หรือจากเป็ดเลี้ยง โรคเอดส์มาจากลิงชิมแปนซี และอาจจะรวมลิงกอริลลาด้วย ส่วนโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 น่าจะมาจากหมู และมักพบว่า โรคเหล่านี้มักเกิดกับมนุษย์แต่ฝ่ายเดียว แต่ล่าสุดอย่างน้อยก็พบโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 หนึ่งโรคที่เกิดย้อนศรแล้ว 

          สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั่วโลก ยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 องค์การอนามัยโลกได้รายงานว่า มีผู้ป่วยยืนยันมากกว่า 482,300 ราย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6,071 ราย โดยภูมิภาคมีรายงานมากที่สุดคือแถบอเมริกา ป่วย 185,067 ราย เสียชีวิต 4,399 ราย รองลงมาคือภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก ป่วย 138,288 ราย เสียชีวิต 498 ราย และภูมิภาคยุโรปป่วยมากกว่า 78,000 ราย เสียชีวิตอย่างน้อย 300 ราย ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรายงานผู้ป่วย 44,147 ราย เสียชีวิต 661 ราย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หวั่นหวัด 2009 มารอบ 2 - ระวังหมาแมวติดโรคจากเจ้าของ อัปเดตล่าสุด 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา 06:50:32 1,582 อ่าน
TOP