เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ แนะ 10 สิ่งที่ควรเปลี่ยนให้ได้ก่อนปีใหม่ ด้วยการสร้างสุขให้กับตนเองและคนรอบข้าง ทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 น.พ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวถึงเทคนิคในการสร้างสุขรับวันปีใหม่ โดยแนะนำ 10 สิ่งที่ต้องเปลี่ยนให้ได้ก่อนปีใหม่ ดังนี้
1. กระเช้าปีใหม่ อาจเป็นกระเช้าที่จัดเอง ไม่จำเป็นต้องซื้อกระเช้าซุปไก่, รังนก, เครื่องดื่มสำเร็จรูปตามโฆษณาชวนเชื่อเสมอไป อาจจะดูมีคุณค่าและมีเสน่ห์มากกว่า เนื่องจากผู้ให้ตั้งใจเลือกไม่ใช่แค่คว้ามาจากห้าง ซึ่งกระเช้าสุขภาพสามารถทำได้ง่าย ๆโดยใส่นมถั่วเหลืองแทนเครื่องดื่มเพ็พไทด์ ใส่โกโก้ผงแทนกาแฟสำเร็จรูป ใส่น้ำผลไม้ที่มีเนื้อผลไม้แทนขวดน้ำหวานสีสด และใส่ธัญพืชเคี้ยวเพลินแทนคุกกี้หรือเค้ก
2. ส่งใจแทนความหวาน ปีใหม่นี้ขอให้ตั้งใจอ่อนหวานกันอย่างจริงจัง เพราะความหวานเป็นมารสร้างรอบพุง โดยขอให้เริ่มกันตั้งแต่กินเลี้ยงปีใหม่ปีนี้ อะไรที่หวานมากก็ควรงด โดยเฉพาะความหวานจากฟรุกโตสและน้ำตาลเทียม
3. ปรับอาหารทานเลี้ยง ขอให้ตั้งใจว่าจะตั้งโต๊ะสุขภาพให้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นผักล้วน แต่ขอให้ลดอาหารประเภทไขมัน น้ำตาล และความเค็ม ให้มากขึ้น อย่างเช่น เน้นปลาแทนเนื้อหมู เน้นไก่แทนเป็ดที่ไขมันสูงกว่า เน้นเครื่องดื่มชาจีนหรือชาเขียวแทนน้ำอัดลม ลดขนมกรุบกรอบที่เพิ่มพุงเป็นถั่วมัน ๆ หรือสาหร่ายอบกรอบแทน
4. เลี่ยงคุกกี้ - เบเกอรี่ เนื่องจากมีผู้ร้ายหลัก 2 ตัว เป็นส่วนประกอบ คือ น้ำตาลขัดขาวและไขมันทรานส์ ทั้งนี้ควรเลี่ยงกาแฟใส่วิปครีม ครีมเทียม มันฝรั่งทอด ไอศกรีมปรุงแต่งสารสังเคราะห์ พาย พัฟ เครป ไก่ทอด พิซซ่า ซุปกระป๋อง น้ำสลัดสำเร็จรูป ไส้กรอก ฯลฯ ซึ่งอาหารสำเร็จรูปประเภทสะดวกซื้อทั้งหลาย มักจะมีไขมันร้ายประเภทนี้อยู่มาก
5. กระชับพื้นที่รอบพุง วันหยุดช่วงส่งท้ายปีควรจะมีกิจกรรมที่ดีนอกเหนือจากการกิน เช่น นัดกันไปเดินออกกำลังตอนเช้าแล้ว ใส่บาตร ปั่นจักรยานกินลมแถวซอยบ้าน ไปเลี้ยงอาหารหมาแมวจรจัด อาบน้ำให้สุนัขที่บ้าน และอีกหลาย ๆ กิจกรรมที่ทำให้พุงยุ้ยน้อยลง ขอให้ตั้งเป้าไว้ว่า ปีหน้าต้องบอกลาพุงกะทิและเซลลูไลท์ให้ได้ และเพิ่มการกินผักผลไม้กับปลาให้เยอะขึ้น
6. อย่ามุ่งนอนดึก พรปีใหม่ที่ดีที่สุดในแง่สุขภาพ คือ การไม่นอนดึกกับกินให้ตรงเวลา จากการสังเกตพบว่า คนที่ป่วยด้วยโรคอันตรายหรือป่วยหนักตั้งแต่อายุน้อยมักมีนิสัยคล้ายกันอยู่ 2 ข้อ คือ ติดนอนดึก กับ กินไม่เป็นเวลา ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตาม หากมีสองข้อนี้เป็นอันบอกลาสุขภาพดีได้เลย ดังนั้นงานเลี้ยงปีใหม่นี้ ถ้าให้ดีอาจตั้งเคอร์ฟิวไว้สักนิดว่าจะไม่อยู่ดึกมาก ไม่ใช่เลี้ยงกันโต้รุ่ง ชนแก้วถึงเช้า เพราะการนอนต้านชราที่ดีที่สุด คือ นอนไม่เกินเที่ยงคืน
7. นึกถึงพ่อแม่ แล้วจะแก้เครียดได้ทุกประการ การนึกถึงบุพการีผู้มีพระคุณทั้งบิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ที่เคารพด้วยใจกตัญญู จะนำไปสู่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้ ปัญหาทุกอย่างจะหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ ท่านอาจสร้างบุญให้พิเศษขึ้นไปอีก ด้วยการชวนคุณพ่อคุณแม่ไปทำบุญ แต่สำหรับท่านที่ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่แล้ว ก็ขอให้ดูแลคนรอบตัวท่านดั่งบิดามารดาที่รัก วิธีนี้ก็จะได้ผลไม่แพ้กัน
8. แก้นิสัยเดิม พยายามลดและเลิกนิสัยเดิมที่ทำให้ตัวเองหรือคนรอบข้างเป็นทุกข์ โดยเฉพาะนิสัยที่ทำให้ตัวเองทุกข์ก่อน เช่น การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ส่วนนิสัยที่ทำให้คนรอบข้างหนักใจและต้องรีบแก้ คือ นิสัยที่ทำให้คนที่รักเราเป็นทุกข์ ปีใหม่นี้ขอให้มองออกนอกตัวว่า มีสายตาอีกกี่คู่ที่มองเราด้วยแววตาแห่งความรักและเมตตา ขออย่าทำให้ท่านเหล่านั้นผิดหวังเลย เทคนิคแก้นิสัยในข้อนี้แบบง่าย ๆ คือ ลองคิดว่าเป็นตัวเรา ก่อนที่จะทำอะไรลงไป มันจะช่วยให้ชะงักก่อนที่จะทำผิดซ้ำเดิม
9. เติมความสดใหม่ โดยคิดว่า ปีใหม่ คือวันแรกของการทำงานที่ท่านแสนจะตื่นเต้นและประทับใจกับทุกสิ่งรอบตัว ถ้าคิดได้จนเป็นนิสัย ท่านก็จะได้ความสุข เพราะทุกวันคือวันแรกอันแสนสุขใจ
10. ให้เร่งสร้างบุญ ข้อนี้สำคัญที่สุดสำหรับปีใหม่ การกระทำบุญหรือบุญกิริยามีถึง 10 ประการ ก็จริง แต่สิ่งที่เติมบุญได้ดีที่สุด คือ การภาวนา โดยการทำใจให้สงบด้วยสติ ซึ่งมีอยู่ทางหนึ่งง่าย ๆ คือ การดูแลคนรอบข้างให้ดีที่สุด ด้วยการให้ความรักความเมตตาเขาเหมือนดั่งพ่อแม่และลูกที่ท่านรัก ความรักต่อเพื่อนมนุษย์ที่ว่านี้ ถ้าทำได้จริง ท่านก็ไม่ต่างจากพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพราะเมื่อหัวใจเต็มไปด้วยความรักและความเมตตาแล้ว ใจนั้นก็จะโน้มนำไปสู่การภาวนาด้วยศรัทธาโดยอัตโนมัติ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก