แพทย์ศิริราชเจ๋ง ผ่าตัดใส่หัวใจเทียมสำเร็จ แทนหัวใจเดิมได้ 10 ปี


แพทย์ศิริราชผ่าตัดใส่หัวใจเทียม แพทย์ศิริราชผ่าตัดใส่หัวใจเทียม
แพทย์ศิริราชผ่าตัดใส่หัวใจเทียม แพทย์ศิริราชผ่าตัดใส่หัวใจเทียม

ศิริราชเจ๋งผ่าตัดใส่หัวใจเทียมสำเร็จ (ไทยโพสต์)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

          แพทย์ศิริราชผ่าตัดใส่หัวใจเทียม Heartmate II สำเร็จรายแรกของไทย เพิ่มทางรอดผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย ทำงานแทนหัวใจเดิมได้ 10 ปี ชี้การรักษาเหมาะกับผู้สูงอายุ-ผู้ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจไม่ได้ ด้านคนไข้เผย คุ้มกับการเสี่ยงได้ใช้ชีวิตปกติ


          เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดแถลงข่าว "ศิริราชผ่าตัดใส่หัวใจเทียมสำเร็จรายแรกของไทย" โดยมี ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์ศิริราช เป็นประธาน ร่วมด้วย รศ.นพ.ดำรัส ตรีสุโกศล หัวหน้าศูนย์โรคหัวใจสมเด็จพระบรมราชินีนาถ, ผศ.นพ.ปรัญญา สากิยลักษณ์ แพทย์ประจำสาขาวิชาศัลยศาสตร์หัว ใจและทรวงอก ภาควิชาศัลยศาสตร์ และนายวีระกิตติ์ นวสินพงศ์สุข ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา ณ ห้องประชุมคณะฯ ตึกอำนวยการ ชั้น 2 รพ.ศิริราช

          รศ.นพ.ดำรัส ตรีสุโกศล หัวหน้าศูนย์โรคหัวใจสมเด็จพระบรมราชินีนาถ กล่าวว่า ภาวะหัวใจล้มเหลวเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวอ่อนรุนแรง เป็นภาวะที่ประสิทธิภาพการทำงานกล้ามเนื้อหัวใจลดลงและไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ตามปกติ จะมีอาการหอบ หายใจลำบาก บวมที่ขา และน้ำท่วมปอด สาเหตุเกิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตายขนาดใหญ่ หรือเกิดจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังติดเชื้อไวรัส พบโรคหัวใจล้มเหลวได้ในผู้ป่วยอายุมากกว่า 65 ปี ถึงร้อยละ 20

          ปัจจุบันมีการรักษาตั้งแต่การใช้ยา แต่มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งรักษาด้วยยาไม่ได้ผล ต้องไปพบแพทย์บ่อยขึ้น ถือเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย ซึ่งมีตัวช่วยตั้งแต่การทำบอลลูนขยายเส้นเลือดหัวใจ การบายพาสหลอดเลือด หัวใจชะลอภาวะหัวใจล้มเหลว สำหรับผู้ป่วยที่ไม่เหมาะสมทำทั้ง 2 วิธี จะใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจแบบ 2 ห้อง เพื่อพยุงให้หัวใจ 4 ห้องทำงานได้สมดุล จากความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบันมีการผ่าตัดใส่หัวใจเทียม แต่ขาดอวัยวะมาบริจาค ผู้ป่วยที่รอการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจทยอยเสียชีวิต ต้องหาวิธีการรักษาใหม่ วันนี้แพทย์ศิริราชสามารถรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจบีบตัวอ่อนรุนแรงด้วยการผ่าตัดใส่หัวใจเทียมได้เป็นรายแรกของไทยแล้ว

          ด้าน ผศ.นพ.ปรัญญา สากิยลักษณ์ แพทย์ประจำสาขาวิชาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก ภาควิชาศัลยศาสตร์ ผู้ผ่าตัดใส่หัวใจเทียมรายแรกของไทย กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมีประสบการณ์ในการใส่เครื่องพยุงหัวใจมากกว่า 20 รายแล้ว เพื่อรอจนกว่าจะมีหัวใจเทียมมาเปลี่ยน เป็นสถิติการใส่เครื่องพยุงหัวใจมากที่สุดในไทย ต่อมาพบว่าผู้ป่วยบางรายไม่สามารถเปลี่ยนหัวใจได้ ต้องการใช้อุปกรณ์ทำงานแทนหัวใจในระยะยาว จึงมองหาอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติดีกว่าเครื่องพยุงหัวใจที่มีอยู่

          สำหรับผู้ป่วยรายนี้มีภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย มีความดันโลหิตปอดสูงมาก ไม่สามารถผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ จึงมีความจำเป็นต้องใส่หัวใจเทียม Heartmate II เป็นเทคโนโลยีสหรัฐอเมริกา เราได้ทำการผ่าตัดไปเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2556 การผ่าตัดใช้เวลา 5-6 ชม. ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว

          "หัวใจเทียมจะฝังอยู่ใต้หัวใจเดิมตรงหน้าท้องส่วนบน มี 2 ท่อ ท่อหนึ่งดึงเลือดจากหัวใจห้องซ้ายล่าง อีกท่อนำเลือดที่ปั๊มสูบฉีดเข้าไปในเส้นเลือดใหญ่ สามารถทำงานแทนหัวใจเดิม ใช้งานได้อย่างต่ำ 10 ปี โดยมีสายไฟออกมาจากหน้าท้องผู้ป่วยเชื่อมต่อระหว่างหัวใจเทียมเข้าสู่กล่องควบคุม เครื่องนี้จะต่อเข้ากับแบตเตอรี่ สามารถทำงานได้ 8-10 ชั่วโมง มีขนาดเล็ก พกพาได้น้ำหนักรวม 2 กิโลกรัม ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้ปกติ ส่วนหัวใจเดิมทำงานเพียงนิดหน่อย" ผศ.นพ.ปรัญญา กล่าว

          ผศ.นพ.ปรัญญา กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีการใส่หัวใจเทียมชนิดนี้กว่า 10,000 ราย เพื่อทำงานแทนหัวใจเดิมระหว่างที่ผู้ป่วยรอรับการปลูกถ่ายหัวใจ หรือทดแทนหัวใจเดิมกรณีที่ไม่สามารถรับการปลูกถ่ายหัวใจได้ ปัจจุบันมีสถิติการใส่หัวใจเทียมชนิดนี้กับการรักษาด้วยยาในผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย โดยพบว่า 2 ปี หากรักษาด้วยยา เสียชีวิต 92% ถ้าใส่เครื่องชนิดนี้จะเสียชีวิต 40% มีอัตรารอดที่ 60% นอกจากนี้ สถิติสหรัฐฯ ผู้ป่วยที่ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ 1 ใน 3 จะใส่เครื่องชนิดนี้มาก่อน และมีผู้ป่วยที่ใส่เครื่องนี้ เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนหัวใจไม่เปลี่ยน เพราะใส่หัวใจเทียมแล้วใช้ชีวิตได้ปกติ รวมถึงไม่อยากผ่าตัดอีกครั้งและกินยากดภูมิต้านทานตัวเอง ในสหรัฐฯ ผู้ป่วยอายุ 75-80 ปีใส่เครื่องนี้ รวมถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งร่วมด้วย หากกินยากดภูมิคุ้มกันจะทำให้มะะเร็งกำเริบ ก็เหมาะสมใส่หัวใจเทียมนี้

          โดยการรักษาผู้ป่วยรายแรกมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งระบบ 11 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นค่าอุปกรณ์ที่ติดตัวผู้ป่วย 7 ล้านบาท

          ด้าน นายวีระกิตติ์ นวสินพงศ์สุข อายุ 65 ปี ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา กล่าวว่า มีภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้ายมานาน มีอาการเหนื่อย ตัวบวม และน้ำท่วมปอด ต้องพบแพทย์สัปดาห์ละครั้ง จะผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจก็ทำไม่ได้ เพราะความดันปอดสูง เมื่อแพทย์เสนอวิธีการรักษาใส่หัวใจเทียม Heartmate II ก็ตัดสินใจใส่ หลังผ่าตัดใส่หัวใจเทียมคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาก ดำเนินชีวิตประจำวันได้ปกติทุกอย่าง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แพทย์ศิริราชเจ๋ง ผ่าตัดใส่หัวใจเทียมสำเร็จ แทนหัวใจเดิมได้ 10 ปี อัปเดตล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 14:07:01 11,391 อ่าน
TOP
x close