ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
นักวิจัยจากสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการรักษาทารกวัย 9 เดือนจากลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ติดเชื้อไวรัส HIV ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ให้หาย ด้วยการให้ยาต้านไวรัสทันทีภายใน 4 ชั่วโมงหลังคลอด นับเป็นความสำเร็จในการรักษาโรคเอดส์ในทารกรายที่ 2 ของประเทศ
ตามรายงานจากเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2557 ระบุว่า ผลการสำเร็จในการรักษาของทารกวัย 9 เดือน จากลอสแอนเตลิส แคลิฟอร์เนีย ถูกรายงานต่อผู้เข้าร่วมฟังบรรยายในการ AIDS conference ที่เมืองบอสตัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 มีนาคม) โดยดอกเตอร์เดโบร่า เปอร์ซัวด์ จากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ผู้นำการรักษาวิจัย
ทารกรายนี้เกิดเมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา จากมารดาผู้ติดเชื้อ HIV แม้มารดาจะได้รับยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ลูกในท้องจะติดเชื้อแล้ว แต่แพทย์เล็งเห็นว่าทารกมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อจากมารดา จึงได้ให้ยาต้านไวรัส 3 ชนิดแก่ทารก ภายใน 4 ชั่วโมงแรกหลังการคลอดโดยทันที แม้ผลการตรวจหาเชื้อจากทารกยังไม่ปรากฏออกมา โดยยาทั้ง 3 ชนิดที่ทารกรายนี้ได้รับเป็นยาต้านไวรัสสำหรับทารกที่มีใช้กันอยู่แล้วโดยทั่วไป อย่างไรก็ดี หลังผลการตรวจเลือดออกมา ก็พบว่าทารกรายนี้ติดเชื้อ HIV จากมารดามาจริง ๆ
จากการให้ยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่าการตรวจผลเลือดอีก 3 ครั้ง เมื่อทารกอายุได้ 9 เดือน ก็ไม่พบว่ามีเชื้อ HIV อีกต่อไป เธอเติบโตแข็งแรงเหมือนเด็กปกติ แต่อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ยังนับเป็นการประสบความสำเร็จในเบื้องต้น เพราะทารกรายนี้จะต้องได้รับยาติดต่อไปอย่างน้อยจนกว่าจะอายุ 2 ขวบ
สำหรับทารกอีกรายจาก เป็นเด็กหญิงจากมิสซิสซิปปี้ ปัจจุบันอายุ 3 ขวบครึ่ง และตรวจไม่พบเชื้อ HIV ในร่างกายแล้ว แม้จะขาดการรักษาอย่างต่อเนื่องไปถึง 2 ปี โดยเธอกำเนิดจากมารดาผู้ไม่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อ HIV ในร่างกายจนกระทั่งคลอดลูก จึงไม่ได้รับยาต้านเชื้อไวรัสแต่อย่างใด ทางด้านลูกของเธอได้รับยาต้านไวรัส 3 ชนิด ภายใน 30 ชั่วโมงหลังคลอด รักษาติดต่อกันอยู่ 18 เดือน ก็หายไป และกลับมาอีกใน 10 เดือนให้หลังเมื่ออายุ 2 ขวบครึ่ง โดยเด็กหญิงยังมีร่างกายแข็งแรงดี และตรวจไม่พบเชื้อ HIV แต่อย่างใดมาจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นเคสที่สามารถจะสรุปได้ว่า การให้ยาต้านไวรัสแก่ทารกอย่างทันท่วงทีหลังการคลอด สามารถป้องกันไม่ให้เชื้อ HIV ในตัวของทารกเกิดการแบ่งเซลล์ไปเป็นเชื้อซับซ้อนและที่รักษายากขึ้น จึงรักษาทารกจากการเป็นโรคเอดส์ได้นั่นเอง
ทั้งนี้ ในสหรัฐฯ แม่ตั้งครรภ์ที่มีเชื้อ HIV ในร่างกาย จะได้รับยาเพื่อต้านไม่ให้ไวรัสแพร่กระจายไปสู่ลูก และเด็กแรกเกิดจะได้รับยาต้านไวรัสสำหรับทารกอีกหนึ่งตัว แต่ก็ยังเป็นวิธีรักษาที่ไม่มีประสิทธิภาพนัก เพราะเชื้อจะแสดงตัวออกมาได้อีกเมื่อหยุดยา แต่สำหรับทารกสองรายซึ่งแพทย์ระบุว่าประสบความสำเร็จในการรักษาดังกล่าว ได้รับตัวยาต้านไวรัสถึง 3 ชนิด และยังเป็นยาต้านไวรัสสำหรับทารกที่มีใช้กันโดยทั่วไปอยู่แล้ว ไม่ได้รักษาด้วยกระบวนการที่ซับซ้อน และมีค่าใช้จ่ายสูง จึงนับว่าเป็นสัญญาณอันดีที่จะรักษาทารกที่เกิดจากมารดาผู้ติดเชื้อได้อย่างเห็นผล และช่วยลดจำนวนประชากรผู้ติดเชื้อลง