ขอขอบคุณภาพประกอบจาก operationsmile.org
เฮนไกลส์ ดอร์เวล เด็กสาวชาวเฮติวัย 15 ปี ได้รับการผ่าตัดนำเนื้องอกก้อนใหญ่ออกจากใบหน้า หลังป่วยเนื้องอกโตเบียดหน้า จนดวงตาและใบหน้าซีกซ้ายเสียรูปไปหมด น้ำหนักก้อนเนื้อชั่งได้เกือบ 2 กิโลกรัม
วันที่ 14 พฤษภาคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า เด็กสาวชาวเฮติ วัย 15 ปี พร้อมมารดา ได้เดินทางจากบ้านเกิดมายังสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิ โอเปอเรชั่น สไมล์ (Operation Smile) องค์กรเพื่อการกุศลที่รับผ่าตัดให้เด็ก ๆ จากประเทศยากจนที่ป่วยด้วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่หรือมีความผิดปกติบนใบหน้า ที่มณฑลนอร์โฟล์ค ทางตะวันออกของประเทศอังกฤษ เพื่อผ่าตัดนำเนื้องอกบนใบหน้าออกแล้ว เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา หลังเด็กหญิงเฮนไกลส์มีเนื้องอกชนิดอะเมโลบลาสโตมา (ameloblastoma) เติบโตที่ซีกหน้าด้านซ้าย
เฮนไกลส์บอกว่าความผิดปกติเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นมันเป็นแค่เนื้องอกก้อนเล็ก ๆ ในโพรงจมูกเท่านั้นเอง แล้วมันก็ขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดเธอก็ต้องออกจากโรงเรียนเมื่ออายุได้ 14 ปี เพราะก้อนเนื้องอกโตผิดรูปอย่างชัดเจน เฮนไกลส์ไม่มีเพื่อนคนไหนเล่นด้วย มีเพียงน้องสาวที่อายุห่างกัน 1 ปี เป็นเพื่อนคนเดียวที่เธอมี
การผ่าตัดเนื้องอกบนใบหน้าของเฮนไกลส์ใช้เวลากว่า 12 ชั่วโมง โดยดอกเตอร์วิลเลียมส์ แมกกี ผู้บริหารองค์กรและหนึ่งในแพทย์ที่ร่วมผ่าตัดให้เด็กสาวรายนี้บอกว่า ก้อนเนื้องอกนี้หนักถึง 4 ปอนด์ (ราว 1.8 กิโลกรัม) มันเป็นก้อนเนื้องอกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยผ่าตัดมา แต่อย่างไรก็ดี แม้จะนำเนื้องอกออกไปแล้วก็คงไม่อาจคืนความสามารถในการใช้สายตาข้างซ้ายให้กับเด็กหญิงได้ อีกทั้งยังพบว่าก้อนเนื้องอกได้ดันกระดูกกรามด้านซ้ายของเธอจนผิดรูป ทำให้เฮนไกลส์อาจจำเป็นต้องกลับมารับการผ่าตัดเพิ่มเติมอีกในอนาคต
ด้านมารดาของเด็กหญิงรายนี้กล่าวว่า เธออยากจะพาลูกสาวกลับไปบ้านที่เฮติเร็ว ๆ จะได้ให้คนอื่น ๆ ในครอบครัวเห็นผลของการผ่าตัดไว ๆ อย่างไรก็ดี เฮนไกลส์และมารดากำลังจะเดินทางต่อไปยังเวอร์จิเนียบีช สหรัฐฯ และใช้เวลาอยู่ที่นั่นอีกอย่างน้อย 6 สัปดาห์ จึงจะสามารถกลับบ้านได้