ลมหนาวพัดมาเยือน เหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่า เข้าสู่หน้าหนาวแล้ว แต่ด้วยอากาศที่เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวของบ้านเรา อาจทำให้หลายคนมีอาการเป็นเจ็บป่วยได้ง่าย ๆ เว็บไซต์ สสส. ก็เลยมีคำแนะนำดี ๆ ในการดูแลตัวเองในหน้าหนาวนี้ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ป่วย มาบอกให้ลองทำตามกันดู
หน้าหนาว ดูแลตัวเองยังไงดี อ.แววตา เอกชาวนา นักโภชนาการบำบัดและผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ให้คำแนะนำว่า ไม่ใช่แค่หน้าหนาวเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็ตาม ทุกคนมีความจำเป็นต้องกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพราะจะได้รับพลังงานเพียงพอ แต่หลายคนเข้าใจว่า หน้าหนาวต้องกินอาหารให้เยอะกว่าปกติ ซึ่งจริง ๆ แล้วหน้าหนาวมีสิ่งที่ต้องระวังคือ การป่วยเป็นไข้หวัด เนื่องจากหน้าหนาวของประเทศไทยไม่ได้หนาวเย็นทั้งวัน แต่แค่ช่วงเช้ากับกลางคืน ตอนกลางวันก็จะมีอากาศร้อน เมื่ออากาศเปลี่ยน ร่างกายปรับไม่ทัน รับประทานอาหารไม่ถูกประเภทและไม่ครบถ้วนก็จะเป็นหวัดได้ง่าย
ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส ไม่แตกแห้ง และควรดื่มหรือจิบน้ำบ่อย ๆ โดยเน้นดื่มน้ำอุ่น เพราะทำให้ร่างกายอบอุ่น ส่วนน้ำสมุนไพร อย่างน้ำขิง น้ำมะนาว จะมีสรรพคุณทางยา ที่ช่วยให้เลือดลมหมุนเวียน เกิดความอบอุ่นในร่างกาย หรือจะนำขิงมาประกอบอาหารก็ได้อย่าง ไก่ผัดขิง มันต้มขิง บัวลอยน้ำขิง เป็นต้น จึงควรให้เป็นเมนูประจำหน้าหนาวเนื่องจากช่วยป้องกันไม่ให้เป็นไข้หวัดได้
"อาหารประเภทไขมัน เป็นอาหารที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย และเหมาะกับหน้าหนาวด้วย เนื่องจากช่วยให้ร่างกายอบอุ่น สำหรับไขมันดีที่ร่างกายควรได้รับมาจากอาหารประเภท ถั่วต่าง ๆ อย่างเช่น ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนต์ แมคคาเดเมีย โดยสามารถกินเป็นอาหารว่างได้ วันละ 1 กำมือ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย และมีไขมันที่ดีทำให้หัวใจแข็งแรง" อ.แววตา แนะนำเพิ่มเติม
อ.แววตา เสริมว่า ช่วงวัยที่ควรดูแลเป็นพิเศษในหน้าหนาวคือ "ผู้สูงอายุ" ไม่ควรให้ผู้สูงอายุกินอาหารที่มีไขมันมากหรือน้อยเกินไป และไม่ควรให้กินอาหารผิดประเภทอย่าง มันหมู หนังหมู แต่ควรให้กินน้ำมันที่มีคุณภาพดีอย่าง น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง และที่สำคัญคือ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ใช้น้ำมันปรุงอาหารซ้ำหลายครั้ง
เคล็ดลับสร้างความสดใสในหน้าหนาวอ.แววตา บอกเคล็ดลับง่าย ๆ คือ ตอนกลางคืนควรนอนให้เพียงพอ เมื่อตื่นมาก็ดื่มน้ำเปล่า และอาจจะดื่มน้ำสมุนไพรอุ่น ๆ เพิ่มด้วย หรือกินน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งอุ่น ๆ ในตอนเช้า เพื่อสร้างความสดชื่น หากผู้ป่วยเบาหวานอาจเปลี่ยนจากน้ำผึ้งเป็นน้ำตาลเทียม แต่ถึงแม้ว่าจะกินอาหารดีอย่างไร แต่พักผ่อนไม่เพียงพอก็ไม่ทำให้ร่างกายสดชื่น แจ่มใสได้ เพราะฉะนั้น ต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วย
หน้าหนาวหลาย ๆ คน เป็นหวัดกันเยอะ การกินผลไม้ตามฤดูกาลเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยอย่าง ส้ม ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ก็ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้ และควรใช้เครื่องเทศสมุนไพรทำอาหารมากขึ้น อย่างเช่น กระเทียม ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เป็นต้น อีกทั้งควรกินเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดหนัง หรือติดมัน ควรกินเนื้อปลาเป็นประจำ เพราะในปลามีน้ำมันโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนเด็ก ๆ สามารถกินอาหารที่มีเครื่องเทศได้ แต่ควรลดความเข้มข้นและมีรสเผ็ดให้น้อยลงด้วย
หน้าหนาวแบบนี้ อย่าปล่อยให้กายและใจต้องหนาวตามไปด้วยนะคะ มาสร้างความอบอุ่นพร้อมสุขภาพที่ดีกันดีกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เรื่องโดย : พิมพ์ชนก ศรเพชร Team Content www.thaihealth.or.th
