กรดไหลย้อน หรือ โรคกรดไหลย้อน
กรดไหลย้อน โรคอดฮิตของสาวออฟฟิศ (Hair World)
ต้องนับว่าเป็นโรคใหม่ไฟแรงแซงโค้งที่กลับมาฮิตเป็นกันอีกแล้วจริงๆ กับโรคที่ชื่อแปลกๆ ว่า กรดไหลย้อน และที่มีชื่อเช่นนั้นก็เป็นเพราะโรคนี้เกิดจากการที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปบนหลอดอาหาร จึงทำให้ผู้เป็น กรดไหลย้อน เกิดอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ หรือกลางหน้าอกหลังจากกินอาหารเสร็จ เปรี้ยวหรือขมปากและคอ ท้องอืดจุกเสียด แน่นท้อง เจ็บคอหรือแสบปาก แสบลิ้น ตอนเช้าระคายคอ มีเสมหะ เรอ คลื่นไส้บ่อย กระแอมบ่อยๆ
อาการของ กรดไหลย้อน ที่ว่านั้นถือว่ายังเบสิกนักนะคะ เพราะโรค กรดไหลย้อน อาจมีอาการที่ไปพ้องกับโรคอื่นได้อย่างนึกไม่ถึง เช่น เจ็บหน้าอกเหมือนกับโรคหัวใจ เสียงแหบเรื้อรังหรือเสียงเปลี่ยนตอนเช้า ไอเรื้อรังสำลักน้ำลาย หายใจไม่ออกตอนกลางคืน กลืนน้ำหรืออาหารติดขัดเหมือนมีก้อนจุกที่คอ ฟันผุ มีกลิ่นปาก เป็นหืด แต่ไม่สามารถรักษาด้วยยาตามปกติได้ ปอดอักเสบเป็นๆ หายๆ
กลุ่มความเสี่ยงของ โรคกรดไหลย้อน มักเกิดขึ้นกับหนุ่มสาววัยทำงาน ดารานักแสดง โดยเฉพาะสาวออฟฟิศที่ชอบกินจุบกินจิบ กินอาหารไม่เป็นเวลาและเร่งรีบ รวมถึงผู้ชอบอาหารรสจัดดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรค กรดไหลย้อน สูงเลยทีเดียวค่ะ
สาเหตุของโรค กรดไหลย้อน เกิดจาก "หูรูด" ของกระเพาะหรือหลอดอาหารไม่แข็งแรงหรือเกิดการคลายตัว ถามว่าเป็นโรค กรดไหลย้อน นี้อันตรายไหม? คำตอบคือถ้าเป็น กรดไหลย้อน แล้วรีบรักษาก็จะไม่มีอาการแต่อย่างใด แต่หากปล่อยไว้เนิ่นนานอาจทำให้หลอดเลือดเกิดการอักเสบ เป็นแผลรุนแรงจนตีบ หรือถ้าเป็นโรค กรดไหลย้อน ร้ายแรงอาจเป็นมะเร็งที่หลอดเลือดได้
คำแนะนำในการป้องกันโรค กรดไหลย้อน มีดังนี้
1.กินแล้วไม่นอนทันที เนื่องจากท่านอนเป็นท่าที่ กรดไหลย้อน ขึ้นได้ง่าย เปรียบคล้ายขวดน้ำที่ปริ่มๆ จะเต็มอยู่ พอเอียงก็จะทำให้น้ำไหลออกได้ทันที ควรกินอาหารมื้อสุดท้ายก่อนนอนอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรลองเขยิบเวลาทานอาหารให้เร็วขึ้นคราวละ 1 ชั่วโมง เช่น เลื่อนจาก 18.00 น. เป็น 17.00 น. ฯลฯ
2.งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะนิโคตินจะเพิ่มกรดในกระเพาะและทำให้หูรูดอ่อนแอ ส่วนแอลกอฮอล์จะทำให้หูรูดเปิด เสี่ยงเป็นโรค กรดไหลย้อน ได้
3.หลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมัน เช่น ของทอด ครีม เนย เนื้อสำเร็จรูป ซึ่งส่วนใหญ่จะมีไขมันสูง และงด-ลด-ละ-เลิกน้ำอัดลม โซดา เนื่องจากมีแก๊สที่ทำให้ปริมาตรกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น
4.ไม่เคี้ยวหมากฝรั่งมากเกิน การเคี้ยวหมากฝรั่งมีส่วนเพิ่มการหลั่งน้ำลาย ทำให้กลืนน้ำลายลงไปมากขึ้น และเพิ่มการกลืนลมลงไปในท้อง
5.ลดความเครียดที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ และไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดติ้ว หรือเข็มขัดที่รัดแน่นจนเกินไป เพราะจะไปกดที่กระเพาะ
6.หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงขวา เพราะท่านี้จะทำให้กระเพาะอยู่เหนือหลอดอาหารอาจทำให้อาการ กรดไหลย้อน กำเริบได้ เพราะส่วนใหญ่อาการ กรดไหลย้อน จะเกิดตอนนอนราบหรือตอนหลับ วิธีแก้คือเสริมหัวเตียงให้สูงขึ้นที่ไม่ใช่เป็นการนอนหมอนสูง แต่เป็นการเสริมทั้งเตียงให้ยกขึ้นอาจจะใช้ก้อนอิฐหมุนด้านหัวเตียงให้สูงขึ้นราว 6 นิ้ว เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ กรดไหลย้อน ได้
7.หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง จะได้ไม่เป็นโรค กรดไหลย้อน
ถ้าเรารู้จักโรคและรู้จักวิธีปฏิบัติตัว โรคกรดไหลย้อน ก็จะไม่เป็นปัญหาสำหรับตัวคุณแน่นอน แต่ถ้ารู้แล้วยังคงปฏิบัติตัวหรือใช้วิถีชีวิตแบบเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร กรดไหลย้อน ก็จะยังคงย้อนวนเวียนกลับมาหาคุณเหมือนเดิมนั่นเองค่ะ!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก