กลเม็ด (ไม่) ลับ ดับกลิ่นปากให้อยู่หมัด


ดับกลิ่นปาก

          กลิ่นปาก ของฝากที่ไม่พึงประสงค์ งั้นเราก็ต้องรีบกำจัดกลิ่นปากตั้งแต่ต้นเหตุ ก่อนคนรอบข้างจะพากันเบือนหน้าหนี

          คงไม่มีใครอยากถูกว่าเป็น "คนสวยหรือหล่อแต่รูป แต่จูบไม่หอม" ซึ่งในบางครั้งการละเลยสุขภาพช่องปากและฟัน ทำให้มีกลิ่นเหม็นจากช่องปากมารบกวนใจก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำลายความสุขของคุณและคนใกล้ชิดอย่างไม่คาดฝันได้เหมือนกัน คลินิกกลิ่นปาก โรงพยาบาลกรุงเทพ จึงมีกลเม็ดง่าย ๆ สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากให้ปราศจากกลิ่นอันไม่พึงประสงค์มาฝากกันค่ะ

          ทันตแพทย์หญิง มัณฑารพ ชัยมุสิก ทันตแพทย์ คลินิกกลิ่นปาก ศูนย์ทันตกรรมกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้ข้อมูลว่า กลิ่นปากมีสาเหตุมาจากทั้งภายใน และภายนอกช่องปาก แต่สาเหตุส่วนใหญ่ประมาณ 90% มาจากภายในช่องปาก เพราะกลิ่นปากเกิดจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่มหนึ่งในปาก ไปทำการย่อยสลายสารประกอบประเภทโปรตีนที่ตกค้างอยู่ในช่องปากและลำคอ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นขึ้น

          สาเหตุที่สำคัญและพบได้บ่อยที่สุดคือการมีฝ้าขาวบนลิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โคนลิ้นด้านใน เราสามารถทดสอบกลิ่นได้โดยใช้ช้อนขูดที่บริเวณนี้ ปล่อยทิ้งไว้สักครู่แล้วดม กลิ่นที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นกลิ่นเหม็นของก๊าซไข่เน่า แต่ถ้าหากฝ้าหนามาก ๆ จะมีกลิ่นเหมือนอุจจาระเลยทีเดียว

          สำหรับสาเหตุอื่น ๆ ในช่องปากยังมีอีกมากมาย เช่น ฟันผุ ยิ่งฟันผุเป็นรูลึก ยิ่งมีกลิ่นเหม็นมาก หรือมีเศษอาหารตกค้างอยู่ตามซอกฟัน โรคเหงือกอักเสบซึ่งเกิดจากการแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้มีแผ่นคราบฟันและหินปูนสะสม หากไม่ได้รับการรักษาโรคเหงือกอักเสบก็จะลุกลามมากขึ้นกลายเป็นโรคปริทันต์อักเสบซึ่งจะมีกลิ่นเหม็นรุนแรงยิ่งขึ้น

วิธีดับกลิ่นปาก

          สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปากคือ ภาวะปากแห้ง น้ำลายน้อย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ เมื่อมีน้ำลายน้อย เชื้อโรคต่าง ๆ จะตกค้างอยู่ในช่องปากเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดกลิ่นมากขึ้น ในบางขณะจะมีการหลั่งของน้ำลายลดลงตามธรรมชาติก็จะทำให้เกิดกลิ่นปากได้ เช่น เวลานอน ภาวะอดอาหาร หรือหิว ตลอดจนภาวะเครียด อาชีพที่ใช้เสียงมาก ๆ เช่น ครู ทนายความ จะมีผลให้น้ำลายลดลง ทำให้มีกลิ่นปากได้เช่นกัน ดังนั้นน้ำจึงเป็นยาที่ดีที่สุดในการลดกลิ่นปาก

          ส่วนสาเหตุจากภายนอกช่องปาก มักมาจากระบบทางเดินหายใจ และระบบทางเดินทางอาหาร โดยที่สาเหตุจากระบบทางเดินหายใจส่วนใหญ่เกิดจากการมีน้ำมูกไหลลงคอทางด้านหลังโพรงจมูก และการมีเศษอาหารติดอยู่ตามร่องของต่อมทอนซิล

          ส่วนสาเหตุจากระบบทางเดินอาหารส่วนใหญ่เกิดจากการมีแบคทีเรียส่วนเกินในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ซึ่งมักจะมีอาการท้องอืด แน่น เรอมีกลิ่นเหม็น นอกจากนี้อาหารบางชนิดเมื่อรับประทานจะมีกลิ่นขับออกมาทางลมหายใจ เช่น กระเทียม ทุเรียน หัวหอม เครื่องเทศ ผู้ที่ดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ หรือท้องผูกหลาย ๆ วัน ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้
 
          สำหรับกลิ่นปากในเด็กนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุภายในช่องปากและระบบทางเดินหายใจ ที่พบบ่อย ได้แก่ การมีสุขอนามัยในช่องปากไม่ดี เช่นฟันผุ เศษอาหารตกค้างตามซอกฟัน เหงือกบวมเป็นหนอง หรือไซนัสอักเสบ ทอนซิลอักเสบ และการติดเชื้อทางเดินหายใจอื่น ๆ ตลอดจนโรคภูมิแพ้ ก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นปากได้ การดูแลรักษาสุขภาพในช่องปากให้ดีตั้งแต่เด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ปกครองควรสอนให้เด็กแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เลือกแปรงที่มีขนาดเหมาะสมและมีขนอ่อนนุ่ม


วิธีลดกลิ่นปาก

          สรุปว่ากลิ่นปากเกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ การรักษาคือการแก้ไขสาเหตุเหล่านั้น ประกอบกับการปรับพฤติกรรมให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีในช่องปาก
  
          ที่สำคัญที่สุดคือ อย่าปล่อยให้ปากแห้ง เพราะเมื่อปากแห้ง แบคทีเรียในปากจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ การดื่มน้ำจะช่วยขจัดแบคทีเรียและช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในช่องปาก ช่วยขจัดคราบบนลิ้นและเสมหะในลำคอ ตลอดจนเศษอาหารที่ติดอยู่ตามร่องของทอนซิล และทำให้มีน้ำลายเพิ่มขึ้น

          ควรแปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร และอย่าลืมแปรงด้านบนของลิ้น อันเป็นที่สะสมของแบคทีเรียด้วย

          เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในช่องปากให้เหมาะสมที่ไม่ทำให้ปากแห้ง

          ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งก่อนนอน

          ถ้าไม่สะดวกจะแปรงฟันให้รับประทานผลไม้รสเปรี้ยวหลังอาหารก็จะสามารถลดกลิ่นปากได้บ้าง

          พยายามงดอาหารกลิ่นแรง เช่น กระเทียม กะปิ หอมใหญ่ เครื่องเทศ และเนยแข็ง

          หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก เช่น แอลกอฮอลล์

          รับประทานผัก ผลไม้ให้ได้ประมาณ 1 ใน 3 ของปริมาณอาหารทั้งหมด

          ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคกลุ่มนี้ได้ดี

          ทำจิตใจให้ผ่องใส ไม่เครียด เพราะความเครียดจะทำให้น้ำลายลดลง

          เลิกสูบบุหรี่

          ตรวจสุขภาพฟันสม่ำเสมอ

          ทำได้เพียงเท่านี้ก็ทำให้ไม่มีกลิ่นปากมารบกวนใจได้แล้วค่ะ 







ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องโดย ทันตแพทย์หญิง มัณฑารพ ชัยมุสิก คลินิกกลิ่นปาก ศูนย์ทันตกรรมกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กลเม็ด (ไม่) ลับ ดับกลิ่นปากให้อยู่หมัด อัปเดตล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 14:52:29 7,004 อ่าน
TOP
x close