อุ๊ย ทำไมเห็นหน้าเขาแล้วเราใจเต้นแรง แค่จับมือ กอด ก็รู้สึกร้อนวูบวาบ ใจสั่นสะท้านราวกับแผ่นดินไหว เกิดอะไรขึ้นกับสมองของเรากันนะเนี่ย
ความรัก ความรู้สึกอันแสนมหัศจรรย์ของมนุษย์
ที่สามารถทำให้คนเราสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้
และยังทำให้ร่างกายของมนุษย์เกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ทั้งหมดนี่เกิดจากสมองสั่งการทั้งนั้นล่ะค่ะ
แต่ทำไมสมองถึงสั่งการให้เรารู้สึกใจสั่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
แถมยังหน้าแดงเขินอายอย่างบอกไม่ถูกเมื่อคุณตกหลุมรัก
ไปจนถึงเป็นเจ้าข้าวเจ้าของใครสักคน คำตอบอยู่ข้างล่างนี้แล้ว
อาการวาบหวิวคล้ายกับมีผีเสื้อนับร้อยตัวบินวนเวียนอยู่ในท้อง เวลาที่เราเจอหน้าคนที่แอบปลื้มเนี่ย เป็นอาการที่สมองสั่งการมานั่นเองค่ะ เพราะเมื่อเราเจอหนุ่มหรือสาวคนนั้น สมองจะผลิตฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หัวใจเต้นแรง รู้สึกร้อนผ่าว และท้องไส้ปั่นป่วน หรือที่มีคนเปรียบเปรยว่ามีผีเสื้อบินอยู่ในท้องนี่แหละ แถมบางคนยังมีอาการเหงื่อออก ปากแห้ง และพูดผิด ๆ ถูก ๆ ตะกุกตะกักอีกด้วยนะ
เรื่องของรักแรกพบแม้จะไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุและผล แต่สำหรับทางวิทยาศาสตร์นั้น ความรู้สึกรักแรกพบเกิดจากการที่ประสาทการรับรู้กลิ่นสัมผัสได้ถึงฟีโรโมนของเพศตรงข้าม และส่งสัญญาณไปยังสมองทำให้เกิดความรู้สึกสนใจและหลงใหลในทันทีทันใด นอกจากนี้กลิ่นยังช่วยทำให้บรรเทาความรู้สึกคิดถึงและสร้างความพึงพอใจให้คนรักได้อีกด้วย อย่างเช่น การที่อีกฝ่ายนำเสื้อผ้าของอีกฝ่ายมาสวมใส่เพื่อให้ตนเองรู้สึกคลายความคิดถึงเมื่อต้องอยู่ห่างกันค่ะ
เมื่อเกิดความรักขึ้นแล้ว สมองล่ะเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อคนเรามีความรัก สมองของเราในส่วนความพึงพอใจจะถูกกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าโดปามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารความสุขออกมา ทำให้ความเครียดลดลงและทำให้เรามีความสุขมากขึ้น โดยมีการศึกษาหนึ่งที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับสมองพบว่า เมื่อให้อาสาสมัครดูภาพของคนที่รัก ระบบประสาทจะกระตุ้นสมองส่วนความพึงพอใจให้ทำงานมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเมื่อระดับโดปามีนสูงขึ้น ระดับของเซโรโทนิน (Serotonin) สารความสุขอีกชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่ในการควบคุมอารมณ์จะทำให้คุณรู้สึกกระวนกระวาย และว้าวุ่นใจในช่วงเวลาที่มีความรักค่ะ
สัมผัส กอด จูบ ทำไมถึงรู้สึกผูกพันจัง
เฮเลน ฟิชเชอร์ (Helen Fisher) นักมานุษยวิทยาด้านชีวภาพ บอกให้เรารู้ว่า เวลาที่เราได้สัมผัสคนที่รัก ไม่ว่าจะเป็นการโอบกอด หรือการจูบ สารออกซิโทซิน (Oxytocin) จะถูกหลั่งออกมาทำให้เรารู้สึกสงบและเกิดความผูกพันกับคนคนนั้น โดยปกติแล้วระดับของสารออกซิโทซินนั้นจะมีปริมาณสูงในมารดาที่เพิ่งคลอดลูกซึ่งทำให้เกิดการผลิตนมให้กับทารกมากขึ้น และทำให้เกิดความผูกพันกับทารกค่ะ ดังนั้น ถ้าหากคุณรู้สึกว่าอยากจะกอดหรือสัมผัสคนที่รักละก็ นั่นแปลว่าสารออกซิโทซินกำลังอยู่ในระหว่างการทำงานอยู่ในร่างกายนี่ล่ะค่ะ
สมองและความปรารถนา ส่งผลต่อการหลั่งของฮอร์โมนอย่างไร
ความรู้สึกปรารถนา จะส่งสัญญาณให้สมองกระตุ้นร่างกายในการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ให้สูงขึ้น ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะไปกระตุ้นให้เกิดความต้องการทางเพศมากขึ้น และนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งโดยปกติแล้วฮอร์โมนชนิดนี้จะมีสูงในเพศชายเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าคนเราสามารถถ่ายทอดฮอร์โมนดังกล่าวด้วยการจูบ การสัมผัส และการมีเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย
เมื่อรักจนผูกพัน และรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ สมองทำงานอย่างไร
เมื่อความรักของคนเราก้าวข้ามไปสู่ความผูกพันและความรู้สึกเป็นเจ้าของแล้ว สมองก็จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลิน (Adrenaline) ออกซิโทซิน ซึ่งทำให้คนเราเกิดความลุ่มหลงในความรัก รวมทั้งสารวาโซเพรสซิน (Vasopressin) และกระตุ้นให้สารโดปามีนหลั่งออกมาด้วย ทำให้คนเราจะให้ความสนใจแต่กับเรื่องของคนที่เรารักมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ โดยสารโดปามีนนั้นจะหลั่งออกมาแค่เพียงในช่วงเริ่มรู้สึกรักใครครั้งแรก และอีกครั้งเมื่อรู้สึกผูกพันค่ะ
เห็นไหมล่ะคะว่าสมองของเรามีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกรักมากขนาดไหน ความรักนั้นไม่ได้แค่เพียงเกิดจากความรู้สึกเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับสมองอีกด้วย แต่ถึงแม้สมองจะสั่งการให้รักคนอื่น แต่ก็อย่าลืมรักตัวเองให้มาก ๆ เพราะถึงอย่างไรตนเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรจะรักนะ