อาหารต้องห้ามทำร้ายสมอง รู้แล้วต้องรีบหยุด อย่ามัวตามใจปาก สมองพังขึ้นมาแล้วจะเสียใจ
เรามักจะได้ยินกันแต่ว่าอาหารชนิดใดช่วยบำรุงสมอง ทำให้มีความจำดี แต่เราไม่เคยนึกถึงกันเลยว่าจริง ๆ แล้ว อาหารบางชนิดนั้นก็สามารถทำลายสมองได้เช่นกัน ทำให้คิดไม่ออก หรือมีปัญหาเรื่องความจำ ซึ่งขอบอกเลยล่ะว่าอาหารเหล่านั้นน่ะเป็นอาหารที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง แต่จะเป็นอาหารอะไรบ้างนั้น ไปดูคำตอบที่เว็บไซต์ Woman\'s Health นำมาบอกเรากันดีกว่า เผื่อใครที่กำลังติดใจกับอาหารเหล่านี้จะได้รีบเลิกก่อนที่ปากท้องจะพาปัญหาสุขภาพมาให้
1. อาหารทะเล
ถ้าบอกว่าอาหารทะเลเป็นหนึ่งในอาหารที่ทำร้ายสมอง หลายคนคงอาจจะไม่เชื่อ แต่นี่คือความจริงค่ะ เพราะมีการศึกษาหนึ่งของมหาวิทยาลัยเซาท์ฟอริด้าได้เปิดเผยว่า ผู้ที่มีระดับปรอทในกระแสเลือดสูงกว่าระดับที่ปลอดภัย จะมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ซึ่งสารปรอทส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่ในอาหารทะเลที่มีการปนเปื้อนนั่นเอง ดังนั้นถ้าหากจะรับประทานอาหารทะเล ก็ควรจะเลือกที่สะอาดและมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการปนเปื้อนของสารปรอท เพื่อที่จะได้ไม่ห่างไกลจากสารปรอทที่ทำลายการทำงานสมองนะคะ
2. น้ำมันพืชเติมไฮโดรเจน
น้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน มีสารชนิดหนึ่งที่เรารู้จักกันดีว่ามีอันตรายต่อสุขภาพสุด ๆ นั่นก็คือไขมันทรานส์ ซึ่งเจ้าไขมันทรานส์เหล่านี้ล่ะที่ส่งผลทำให้คุณอ้วน แถมยังทำลายสุขภาพหัวใจ และที่สำคัญเจ้าไขมันชนิดนี้สามารถทำลายสมองได้อีกด้วย เพราะอาหารที่มีไขมันชนิดนี้สูงนั้นจะไปทำให้สารเบต้า-อะมีลอยด์ (beta-amyloid) เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสารชนิดนี้นี่ล่ะที่เป็นต้นเหตุของโรคอัลไซเมอร์
โดยการศึกษาหนึ่งที่ถูกตีพิมพ์ใน Neurology ได้เปิดเผยว่า ผู้ที่บริโภคอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงจะมีความสามารถในการรับรู้และทำความเข้าใจที่ลดลง รวมทั้งยังทำให้สมองมีขนาดเล็กลงอีกด้วย โดยอาหารที่มีไขมันทรานส์ก็ไม่ใช่อาหารที่อยู่ไกลตัวเราเลยค่ะ ก็เป็นพวกอาหารทอด บรรดาขนมปังและขนมอบ หรือแม้แต่อาหารที่ผ่านการแปรรูป เลี่ยงอาหารเหล่านี้ได้ก็ดีนะ
3. น้ำตาล
ระดับน้ำตาลในเลือดที่ผกผันจากการบริโภคน้ำตาลในปริมาณมาก สามารถส่งผลให้หลอดเลือดและเส้นประสาทเกิดความเสียหายได้ โดยหนึ่งในการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Brain, Behavior and Immunity ได้เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำตาลในเลือดที่สูงมากเกินไปจะส่งผลกระทบกับสมองในส่วนฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) ที่ควบคุมการทำงานของสมองในส่วนของความทรงจำ ทำให้สมองเกิดขุ่นมัวและไม่สามารถทำงานได้เต็มที่
นอกจากนี้ระดับน้ำตาลที่สูงก็ยังเชื่อมโยงกับอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการเลี่ยงน้ำตาลก็ไม่ยาก นอกจากการเลี่ยงการเติมน้ำตาลลงในอาหารที่รับประทานแล้ว การอ่านฉลากให้อย่างถี่ถ้วน หากน้ำตาลเป็นส่วนประกอบของอาหารที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ในฉลากละก็เลี่ยงได้เลย เพราะอาหารเหล่านั้นน่ะน้ำตาลเพียบเลยล่ะ
4. น้ำตาลฟรุกโตส
น้ำตาลฟรุกโตสก็ถือเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งเช่นกัน แต่ว่าผลกระทบต่อสมองที่ได้รับจากน้ำตาลชนิดนี้น่ะร้ายแรงกว่าเยอะเลยล่ะค่ะ ยกตัวอย่างเช่นหนึ่งในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Physiology พบว่าหนูที่กินอาหารที่มีน้ำตาลฟรุกโตสสูง เมื่อนำเข้าไปใส่ในเขาวงกตที่สร้างไว้หนูเหล่านี้จะมีปัญหาในการนำทาง ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าการบริโภคน้ำตาลฟรุกโตสเข้าไปมากเกินไปอาจจะไปขัดขวางการใช้และการกักเก็บน้ำตาลเพื่อเป็นพลังงานในการคิดและการเรียนรู้ต่าง ๆ
และถึงแม้น้ำตาลฟรุกโตสจะมีในผลไม้สูงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าควรจะเลิกกินผลไม้นะคะ เพราะน้ำตาลฟรุกโตสในผลไม้นั้นไม่ส่งผลต่อสมองค่ะ แต่ควรเลี่ยงน้ำตาลฟรุกโตสในอาหารต่าง ๆ จะดีกว่า
5. ไขมันอิ่มตัว
ไขมันอิ่มตัว ถ้าหากมีสูงมากเกินไปก็อาจทำให้ความสามารถของสมองในการต่อสู้กับการก่อตัวของคราบพลัคที่เป็นสาเหตุของอัลไซเมอร์ได้ แต่ก็จะเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น เพราะการศึกษาในปี 2013 ของ JAMA Neurology นั้นแสดงให้เห็นว่าไขมันอิ่มตัวจะสร้างความเสียหายให้กับความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ หรือแม้แต่ในเรื่องของความจำในช่วง 10 นาทีแรกที่เรารับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงเข้าไปหลังจากนั้นอาการจะค่อย ๆ ลดลงจนเป็นปกติค่ะ
6. อาหารแปรรูป
แม้ว่าอาหารแปรรูปบางชนิดจะมีน้ำตาลหรือไขมันต่ำ แต่อาหารเหล่านี้ก็ยังมีโซเดียมสูงอยู่ดี ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจพบว่าอาหารแปรรูปเป็นอาหารที่มีโซเดียมสูงมากที่สุดที่คนนิยมบริโภค โดยการศึกษาที่ตีพิมพ์ระบุว่า การบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูงจะทำให้สมองขุ่นมัว รวมทั้งส่งผลต่อระดับความดันโลหิตและสุขภาพหัวใจอีกด้วย
ขณะที่ความดันโลหิตที่สูงเกินไปก็จะทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ลดลง ไม่อยากมีปัญหาสุขภาพทั้งสมองและหัวใจ เลี่ยงอาหารแปรรูปเถอะ โดยอาหารแปรรูปที่มีโซเดียมได้แก่ เนื้อสัตว์แปรรูปเช่น แฮม เบค่อน กุนเชียง หรือผักดองต่าง ๆ เป็นต้น
7. อาหารฟาสต์ฟู้ด
อาหารฟาสต์ฟู้ดที่เราเห็นว่าสะดวกนี่ล่ะ คือวายร้ายที่ทำลายสมองเลย เพราะทั้งไขมันทรานส์ ไขมันอิ่มตัว โซเดียม น้ำตาล ล้วนแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารประเภทนี้ โดยการศึกษาแสดงให้เห็นว่าคนที่รับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดเข้าไปมีความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนทั่วไปที่ไม่ค่อยกินอาหารฟาสต์ฟู้ดถึง 40% นอกจากนี้ก็ยังมีผลกระทบที่มาจากสารอาหารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกเพียบเลยนะ
8. อาหารเสริมธาตุเหล็กและทองแดง
อาหารเสริม เราอาจจะคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่การบริโภคอาหารเสริมมากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อสมองได้ โดยการศึกษาที่ถูกตีพิม์ในรายงานของ Neurobiology of Aging แสดงให้เห็นว่าอาหารเสริมที่มีทองแดงและธาตุเหล็กมากเกินไปส่งผลต่อสมองในการขจัดสารเบต้า-อะมีลอยด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคราบพลัคที่ขัดขวางการสื่อสารกันระหว่างเซลล์ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เซลล์ประสาทตายอีกด้วย
อาหารแต่ละชนิดแม้ว่าจะอร่อย แต่ก็อย่าลืมว่าสารอาหารบางชนิดในอาหารนั้นก็มีโทษต่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังนั้นอย่ามัวแต่ตามใจปากนะคะ คิดให้ถี่ถ้วนทุกครั้งก่อนจะหยิบอะไรเข้าปากจะดีกว่า เพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรงห่างไกลจากโรคภัยต่าง ๆ คงไม่คุ้มกันแน่ถ้าจะสบายปากแต่ลำบากกายในอนาคต จริงไหมคะ