ไขมันทรานส์แฝงอยู่ในขนม เบเกอรี่ใกล้ตัวเราหลายชนิด มาเช็กลิสต์กันหน่อยว่าขนมไขมันทรานส์สูงจะมีของโปรดเราอยู่สักกี่อย่าง
ไขมันทรานส์ หรือ Transfat เป็นกรดไขมันชนิดหนึ่ง โดยเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ทั้งนี้สามารถพบไขมันทรานส์ได้จากธรรมชาติ โดยเฉพาะไขมันที่อยู่ในเนื้อสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัว ควาย (รวมไปถึงน้ำนมจากสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ด้วย) เนื่องจากสัตว์ประเภทนี้มีเอนไซม์ที่ไปทำปฏิกิริยากับกรดไขมันไม่อิ่มตัว ทำให้ไขมันไม่อิ่มตัวเกิดเป็นไขมันทรานส์ขึ้นมา ทว่าไขมันทรานส์ที่พบจากธรรมชาติก็ถือว่ามีจำนวนน้อยมากนะคะ
แต่ไขมันทรานส์ที่ถูกพบได้มากมักจะมาจากกระบวนการผลิตอาหาร ที่มีการเติมไฮโดรเจนบางส่วนลงไปในน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันพืช ไขมันพืช เพื่อให้น้ำมันมีสภาพแข็งขึ้นหรือเป็นของกึ่งเหลว โดยไขมันทรานส์จากกระบวนการเติมไฮโดรเจนจะพบได้ในอุตสาหกรรมเนยเทียม (Magarine) หรือเนยขาว (Shortening) มาร์การีน ครีมเทียม เป็นต้น
ไขมันทรานส์ อันตรายใกล้ตัว
ไขมันทรานส์ พบได้ในอาหารประเภทไหน
จากข้อมูลข้างต้นเราจะเห็นว่า ไขมันทรานส์แฝงตัวมากับผลิตภัณฑ์อย่างเนยแข็ง มาร์การีน เนยขาว ซึ่งเป็นวัตถุดิบในขนมอบและเบเกอรี่บางชนิด โดยจากข้อมูลของกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ศึกษาปริมาณไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์อาหารอบและอาหารทอดที่เก็บตัวอย่างมาในปริมาณ 100 กรัม เท่า ๆ กัน ก็พบไขมันทรานส์แฝงอยู่ในอาหารหลายชนิด ซึ่งเราขอยกตัวอย่างขนมที่พบไขมันทรานส์ในปริมาณสูงมา 10 ชนิด ดังนี้
โดนัทบาวาเรียน
พบปริมาณไขมันทรานส์ 675 มิลลิกรัม/100 กรัม หรือหากกินโดนัทบาวาเรียน 1 ชิ้น ปริมาณ 55 กรัม จะมีไขมันทรานส์ 371 มิลลิกรัมต่อชิ้น โดยให้พลังงาน 177 กิโลแคลอรีต่อชิ้น
เค้กเนย
เค้กเนย 100 กรัม พบว่ามีปริมาณไขมันทรานส์ 400 มิลลิกรัม ในส่วนของเค้กเนยจำนวน 2 ชิ้น ปริมาณ 80 กรัม มีไขมันทรานส์ 320 มิลลิกรัม ให้พลังงาน 302 กิโลแคลอรี
เวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลต
ไขมันทรานส์ 396 มิลลิกรัม/เวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลต 100 กรัม หรือเทียบง่าย ๆ อย่างกินเวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลต 3 ชิ้น (ปริมาณ 30 กรัม) จะได้รับไขมันทรานส์ 119 มิลลิกรัม พลังงาน 163 กิโลแคลอรี
พายทูน่า
พายทูน่า 100 กรัม พบไขมันทรานส์ 395 มิลลิกรัม ส่วนพายทูน่า 1 ชิ้น 55 กรัม พบไขมันทรานส์ 217 มิลลิกรัม ให้พลังงาน 225 กิโลแคลอรี
เค้กสอดไส้ครีมคัสตาร์ด
ในปริมาณ 100 กรัม เค้กสอดไส้ครีมคัสตาร์ดมีไขมันทรานส์ 378 มิลลิกรัม หรือถ้ากินจำนวน 2 ชิ้น (ปริมาณ 55 กรัม) มีไขมันทรานส์ประมาณ 208 มิลลิกรัม ให้พลังงานงาน 239 กิโลแคลอรี
ทอฟฟี่เค้ก
ทอฟฟี่เค้ก 100 กรัม มีไขมันทรานส์ 374 มิลลิกรัม ในขณะที่ทอฟฟี่เค้ก 1 ชิ้น ปริมาณ 40 กรัม ให้พลังงาน 189 กิโลแคลอรี และมีไขมันทรานส์ 149 มิลลิกรัม
คุกกี้เนยปริมาณ 100 กรัม มีไขมันทรานส์ 309 มิลลิกรัม แต่ถ้ากินคุกกี้เนย 3 ชิ้น (30 กรัม) จะได้ไขมันทรานส์ 93 มิลลิกรัม พร้อมพลังงาน 156 กิโลแคลอรี
ขนมขาไก่
บราวนี่
บราวนี่ 100 กรัม มีไขมันทรานส์ 286 มิลลิกรัม ในขณะที่บราวนี่ขนาดครึ่งชิ้น (30 กรัม) มีไขมันทรานส์ 86 มิลลิกรัมโดยประมาณ ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี
ขนมปังไส้กรอก
ขนมปังไส้กรอกปริมาณ 100 กรัม มีไขมันทรานส์ 263 มิลลิกรัม ถ้ากินขนมปังไส้กรอกเพียง 1 ชิ้น ก็จะได้ไขมันทรานส์ราว ๆ 79 มิลลิกรัม โดยให้พลังงานที่ 100 กิโลแคลอรี
อ๊ะ ! แต่จะดีที่สุดหากเราลดปริมาณการกินขนม นม เนย ลง แล้วหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นด้วยการกินผัก-ผลไม้ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
สวทช.
เฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์
แม้จะรู้กันอยู่บ้างว่าขนม เบเกอรี่ ครีมเทียม อาหารทอด ๆ มัน ๆ ไม่จัดอยู่ในหมวดอาหารเพื่อสุขภาพ ทว่าพอ อย. ประกาศให้ไขมันทรานส์เป็นไขมันอันตราย ห้ามผลิตและขายผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันทรานส์ [อ่านข่าว : กระทรวงสาธารณสุข ประกาศห้ามผลิต-นำเข้าไขมันทรานส์ มีผลอีก 180 วัน] หลายคนก็เพิ่งจะตระหนักถึงอันตรายของไขมันทรานส์กันอย่างจริงจัง พร้อมกับเริ่มสงสัยว่าไขมันทรานส์มีอยู่ในอาหารประเภทไหนบ้าง ว่าแล้วก็มาเช็กกันเลย
ไขมันทรานส์คืออะไร
ไขมันทรานส์ หรือ Transfat เป็นกรดไขมันชนิดหนึ่ง โดยเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ทั้งนี้สามารถพบไขมันทรานส์ได้จากธรรมชาติ โดยเฉพาะไขมันที่อยู่ในเนื้อสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัว ควาย (รวมไปถึงน้ำนมจากสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ด้วย) เนื่องจากสัตว์ประเภทนี้มีเอนไซม์ที่ไปทำปฏิกิริยากับกรดไขมันไม่อิ่มตัว ทำให้ไขมันไม่อิ่มตัวเกิดเป็นไขมันทรานส์ขึ้นมา ทว่าไขมันทรานส์ที่พบจากธรรมชาติก็ถือว่ามีจำนวนน้อยมากนะคะ
แต่ไขมันทรานส์ที่ถูกพบได้มากมักจะมาจากกระบวนการผลิตอาหาร ที่มีการเติมไฮโดรเจนบางส่วนลงไปในน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันพืช ไขมันพืช เพื่อให้น้ำมันมีสภาพแข็งขึ้นหรือเป็นของกึ่งเหลว โดยไขมันทรานส์จากกระบวนการเติมไฮโดรเจนจะพบได้ในอุตสาหกรรมเนยเทียม (Magarine) หรือเนยขาว (Shortening) มาร์การีน ครีมเทียม เป็นต้น
ไขมันทรานส์มีผลทำให้ไขมันชนิดเลวในร่างกาย (LDL) และไตรกลีเซอร์ไรด์เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้ไขมันชนิดดี (HDL) ในร่างกายมีปริมาณลดลง ทำให้ร่างกายมีปริมาณไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูง นำไปสู่โรคหลอดเลือดแดงแข็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ รวมไปถึงโรคเส้นเลือดอุดตันในสมองได้ เรียกได้ว่าไขมันทรานส์เป็นภัยเงียบใกล้ตัวเลยทีเดียวค่ะ
ดังนั้นจึงมีข้อแนะนำว่า ไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันทรานส์เกินร้อยละ 1 ของพลังงาน ซึ่งพลังงานเฉลี่ยที่ควรได้รับอยู่ที่ 2,000 กิโลแคลอรีต่อวันในเพศชาย ก็แสดงว่าไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันทรานส์เกิน 2.2 กรัมต่อวัน หรือคิดเป็น 0.5 กรัม (500 มิลลิกรัม) ต่อหน่วยบริโภค
จากข้อมูลข้างต้นเราจะเห็นว่า ไขมันทรานส์แฝงตัวมากับผลิตภัณฑ์อย่างเนยแข็ง มาร์การีน เนยขาว ซึ่งเป็นวัตถุดิบในขนมอบและเบเกอรี่บางชนิด โดยจากข้อมูลของกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ศึกษาปริมาณไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์อาหารอบและอาหารทอดที่เก็บตัวอย่างมาในปริมาณ 100 กรัม เท่า ๆ กัน ก็พบไขมันทรานส์แฝงอยู่ในอาหารหลายชนิด ซึ่งเราขอยกตัวอย่างขนมที่พบไขมันทรานส์ในปริมาณสูงมา 10 ชนิด ดังนี้
เค้กเนย
เวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลต
พายทูน่า
เค้กสอดไส้ครีมคัสตาร์ด
ทอฟฟี่เค้ก
คุกกี้เนย
ขนมขาไก่
ขนมขาไก่แสนอร่อย 100 กรัม มีไขมันทรานส์ 288 มิลลิกรัม เทียบง่าย ๆ คือขนมขาไก่ 60 ชิ้น (30 กรัม) มีไขมันทรานส์ 86 มิลลิกรัม และให้พลังงาน 162 กิโลแคลอรี
ขนมปังไส้กรอก
นอกจากนี้แล้ว ยังพบไขมันทรานส์ได้ในขนมอีกหลายชนิด เช่น พายกรอบ แยมโรล เค้กกล้วยหอม เค้กผลไม้ แซนด์วิช เอแคลร์ แฮมเบอร์เกอร์ ข้าวโพดอบกรอบ ข้าวโพดคั่ว โดนัท แครกเกอร์ พัฟ พิซซ่า รวมทั้งอาหารทอดอย่างมันฝรั่งทอด นักเก็ต ปาท่องโก๋ ไก่ทอด หมูทอด ปลาซิวแก้ว ฯลฯ
เห็นข้อมูลแล้ว สายหวานก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจว่าจะกินขนมหรือเบเกอรี่ไม่ได้แล้วนะคะ เพราะจริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่แต่ละร้านใช้ในการประกอบอาหารด้วย อย่างขนมที่ยกตัวอย่างมาว่ามีไขมันทรานส์สูง ก็เป็นเพียงแค่การเก็บตัวอย่างอาหารบางส่วนมาทดสอบเท่านั้น แต่ก็มีให้เลือกกินแบบไม่มีไขมันทรานส์เหมือนกัน เช่น เบเกอรี่โฮมเมดที่มักไม่ได้ใช้มาร์การีน หรือบางร้าน บางแบรนด์ก็ระบุไว้เลยว่า "ไม่มีไขมันทรานส์" เพราะใช้น้ำมันที่มีการเติมไฮโดรเจนแบบสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นก่อนจะกินอะไรก็ลองเลือก ลองอ่านข้อมูลโภชนาการดูก่อนเลย หรือรอจากนี้อีก 6 เดือน ผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันทรานส์จะถูกจำกัดออกไป ทำให้อาหารและขนมส่วนใหญ่ที่วางขายน่าจะเป็นชนิดที่ไม่มีไขมันทรานส์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
สวทช.
เฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์