เมล็ดเชีย (เมล็ดเจีย) มีดีตรงไหน เผยความลับธัญพืชตัวจิ๋วที่ไม่ยอมรู้คนเดียวแน่


          เมล็ดเชียหรือเมล็ดเจีย (Chia Seed) คือ ธัญพืชประโยชน์แน่นเว่อร์จนอยากให้ทุกคนได้รู้จักประโยชน์ของเม­­­ล็ดเชียอย่างลึกซึ้งมากขึ้น และนาทีนี้ใครไม่คุ้นชื่อเมล็ดเชียก็ไม่รู้สินะ แต่ว่าเช้ยเชยอ่ะ

          นึกถึงคำว่าธัญพืชขึ้นมาก็รู้แล้วว่าต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน­­­์กว่าอาหารธรรมดาที่เราคุ้นลิ้นกันอยู่ทุกวัน แต่ภายในวงการธัญพืชก็ต้องมีดาวเด่นที่มีดีเกินหน้าเกินตาเพื่อ­­­นธัญพืชด้วยกัน ซึ่งเมล็ดเชียก็นับเป็นดาวเด่นของวงการธัญพืชตัวหนึ่ง ที่ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าไม่ได้มีดีแค่ช่วยลดน้ำหนักแค่นั้น เพราะเมล็ดเชียจิ๋วจี๊ดนั้นเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์เน้น ๆ อย่างคาดไม่ถึง ไม่เชื่อก็มาอึ้งกับความลับและประโยชน์ของเมล็ดเชียกันเถอะ

เมล็ดเชียมีดีตรงไหน เผยความลับธัญพืชตัวจิ๋วที่ไม่ยอมรู้คนเดียวแน่
 

1. เมล็ดเชียเคยถูกลืมมาก่อน

          ในยุคล่าอาณานิคมของสเปนเมื่อหลายพันล้านปีก่อนเมล็ดเชียได้ถูก­­­ลืมจนหายสาบสูญไป เพียงเพราะเป็นธัญพืชประจำทวีปอเมริกาที่ในยุคนั้นดันตกเป็นเมื­­­องขึ้นของสเปนนั่นเอง ทว่าต่อมาในยุคอเมริกาสมัยใหม่ เมล็ดเชียก็ถูกค้นพบอีกครั้งด้วยฝีมือของนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งทำการพิสูจน์และพบว่า เมล็ดเชียมีคุณค่าทางสารอาหารและเป็นธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพอย่าง­ยิ่ง จนทุกวันนี้เราก็ยังได้เห็นและมีโอกาสรับประทานเมล็ดเชียกันต่อ­ไป

2. เมล็ดเชียกับกะเพราเป็นญาติกัน

          เมล็ดเชียเป็นพืชตระกูลเครื่องเทศเช่นเดียวกับกะเพราและมินต์ แต่กลับมีหน้าตาคล้ายเมล็ดแมงลักซะอย่างนั้น แถมยังพองน้ำได้เหมือนกันเป๊ะ ต่างกันตรงที่เมล็ดเชียมีทั้งสีขาวและดำ

3. คุณประโยชน์ดี ๆ ที่เหนือกว่า

เมล็ดเชียมีดีตรงไหน เผยความลับธัญพืชตัวจิ๋วที่ไม่ยอมรู้คนเดียวแน่

          จะมีธัญพืชสักกี่ชนิดที่สามารถเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารให้อาหารช­­­นิดอื่นได้ แต่เมล็ดเชียทำได้นะจ๊ะ อย่างเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระเมื่อผสมเมล็ดเชียลงไปในน้ำผลไม้ท­­ี่มีส­ารเรสเวอราทรอล เช่น น้ำทับทิมหรือน้ำผลไม้ตระกูลเบอร์รี เป็นต้น ทีนี้รู้ยังว่าเมล็ดเชียเจ๋งแค่ไหน

4. เมล็ดเชียแค่หยิบมือเดียวพ่วงสารอาหารหลายสิบ

          เมล็ดเจียเพียง 28 กรัม อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ดี ๆ กว่า 22 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำ, โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, ไฟเบอร์, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, โซเดียม, สังกะสี, วิตามินเอ, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินบี 3, วิตามินบี 6, โฟเลต, กรดไขมันอิ่มตัว, กรดไขมันไม่อิ่มตัว, กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ในขณะที่ให้พลังงานเพียงแค่ 137 กิโลแคลอรีเท่านั้น

5. ไฟเบอร์สูงปรี๊ด

          หากคุณเป็นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่ายก็ขอให้เชื่อมือเมล­­­็ดเชียได้เลยว่าช่วยคุณได้แน่ เนื่องจากเมล็ดเชียมีไฟเบอร์ค่อนข้างสูง อีกทั้ง 20% ของไฟเบอร์ทั้งหมดในเมล็ดเชียยังเป็นไฟเบอร์ชนิดดูดซึมได้ง่าย ดีต่อระบบลำไส้ ขับถ่ายก็คล่องปรื๋อ ช่วยในเรื่องลดน้ำหนักก็เริดเว่อร์ด้วย

6. พองตัวทำให้อิ่มนาน

          จุดเด่นของเมล็ดเชียอย่างหนึ่งคือดูดซึมน้ำได้ดี และเมื่อเจอน้ำก็จะพองตัวอยู่ภายในท้อง ส่งผลให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดอาการกินจุบจิบพาอ้วน เหนือกว่านั้นยังเป็นการป้องกันเราจากอาหารไร้สาระทางอ้อมด้วยน­­­ะคะ


7. แปรรูปได้หลายอย่าง

เมล็ดเชียมีดีตรงไหน เผยความลับธัญพืชตัวจิ๋วที่ไม่ยอมรู้คนเดียวแน่เมล็ดเชียมีดีตรงไหน เผยความลับธัญพืชตัวจิ๋วที่ไม่ยอมรู้คนเดียวแน่

          ส่วนมากอาจจะคุ้นเคยกับเมล็ดเชียในนม โยเกิร์ต หรืออาหารชนิดอื่น ๆ แต่อันที่จริงแล้วเมล็ดเชียสามารถแปรรูปเป็นน้ำมันสกัดจากเมล็ด­­­เชีย เชียบราน และเมล็ดเชียบดละเอียดได้อีก แถมยังเก๋าตรงที่เมื่อถูกแปรรูปแล้วคุณประโยชน์ดี ๆ ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม

8. โอเมก้า 3 สูง

          โดยปกติแล้วเราจะหาโอเมก้า 3 ให้ร่างกายได้ก็จากอาหารประเภทปลา ทว่าหากคุณรับไม่ค่อยไหวกับกลิ่นคาวของเนื้อปลาก็ลองเปิดใจให้ร­­­่างกายได้รับโอเมก้า 3 จากธัญพืชอย่างเมล็ดเชียดูบ้างก็ได้ ซึ่งก็ไม่อยากจะอวดเลยว่าโอเมก้า 3 ในเมล็ดเชียยังสูงกว่าโอเมก้า 3 จากปลาแซลมอนถึง 9 เท่าด้วยกัน เพียงแต่โอเมก้า 3 ในเมล็ดเชียอาจย่อยได้ยากกว่าโอเมก้า 3 ในเนื้อปลา จึงอยากแนะนำให้คุณเลือกทานเมล็ดเชียบดละเอียดซึ่งก็จะช่วยให้ร­­­่างกายดูดซึมเอาสารอาหารดี ๆ จากเมล็ดเชียเข้าไปได้ง่ายขึ้น คราวนี้ก็ได้สารอาหารดี ๆ จากโอเมก้า 3 เข้าไปบำรุงระบบประสาทและสมองแล้วล่ะ

9. เมล็ดเชีย 1 ช้อนโต๊ะ=ไข่ไก่ 1 ฟอง

          ในช่วงที่กินเจหรือต้องการลดเนื้อ นม ไข่ ก็ไม่ต้องกังวลว่าร่างกายจะขาดสารอาหารเลยล่ะ เพียงแค่คุณผสมเมล็ดเชีย 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำสะอาด 3 ช้อนโต๊ะ เท่านี้ก็ได้สารอาหารครบถ้วนเหมือนกินไข่ไก่ 1 ฟองยังไงยังงั้น

10. ต้านโรคเบาหวานชนิดที่ 2

          ด้วยคุณสมบัติชะลอระบบย่อยอาหารในกระเพาะ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานค่อนข้างอยู่ในจุดที่­­­คงที่ได้นานขึ้น ก็เท่ากับช่วยต่อต้านอาการข้างเคียงของเบาหวานไม่ให้กำเริบนั่น­­­เอง

11. เสริมความแข็งแรงให้กระดูก

เมล็ดเชียมีดีตรงไหน เผยความลับธัญพืชตัวจิ๋วที่ไม่ยอมรู้คนเดียวแน่

          ในเมล็ดเชียประกอบไปด้วยแคลเซียมที่ร่างกายควรได้รับถึง 18% สามารถบำรุงกระดูก ฟัน และป้องกันเราจากโรคกระดูกพรุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทว่าก็ควรรับประทานเมล็ดเชียเป็นประจำด้วยนะจ๊ะ

12. อุดมไปด้วยแมงกานีส

          เมล็ดเชียเพียง 28 กรัมก็อุดมไปด้วยธาตุแมงกานีสถึง 30% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวันแล้วนะคะ ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าธาตุแมงกานีสมีความสำคัญต่อสุขภาพในด­­­้านของการช่วยบำรุงความแข็งแรงของกระดูก และเป็นกองหนุนให้ร่างกายดึงไบโอตินและไทอามีนมาใช้มากขึ้น

13. สลายพุงกะทิให้ราบเรียบ

          สาเหตุที่แท้จริงของพุงป่อง ๆ ไม่ได้อยู่ที่พฤติกรรมการกินของเราเพียงอย่างเดียว แต่ในบางเคสพุงป่อง ๆ ก็เป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายเรา เช่น เกิดภาวะต่อต้านอินซูลิน เป็นต้น ซึ่งปัญหานี้หรือแม้แต่อาการอ้วนลงพุงเพราะตามใจปากก็สามารถสล­­­ายไปได้ง่าย ๆ ด้วยเมล็ดเชียนี่เอง

14. บำรุงหัวใจ

          อย่างที่บอกว่าเมล็ดเชียมีคุณสมบัติในด้านคงระดับน้ำตาลในเลือด­­­ให้มีระเบียบวินัย ซึ่งก็ส่งผลดี ๆ ไปถึงการเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลดี ในขณะที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ มารหัวใจตัวร้ายของร่างกายเรา ดังนั้นก็หมายความว่า คุณจะห่างไกลจากภาวะโรคหัวใจแน่นอนหากสมัครตัวเป็น FC ของเมล็ดเชียอย่างเหนียวแน่น

15. สมานแผลอย่างไว



          โอเมก้า 3 ในเมล็ดเชียสามารถเปลี่ยนรูปเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งมีคุณสมบัติลดอาการอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อของบาดแผล สมานแผลให้หายเร็วไม่เรื้อรัง พร้อมทั้งบรรเทาฤทธิ์เจ็บปวดจากบาดแผลได้อีกต่างหาก

16. ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

          ทั้งโปรตีนและฟอสฟอรัสที่มาพร้อมเมล็ดเชียมีส่วนช่วยซ่อมแซมเนื­­­้อเยื้อที่สึกหรอในร่างกาย อีกทั้งบำรุงดูแลเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายให้สมบูรณ์พร้อมทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

17. กินแล้วอารมณ์ดี๊ดี

          เนื่องจากกรดอะมิโนทริปโตเฟนในเมล็ดเชียซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดเ­­­ดียวกับที่พบในนม จึงช่วยให้ร่างกายลดความอยากอาหาร ช่วยให้หลับสบายและปรับอารมณ์ของเราให้เป็นปกติ ไม่มีอาการขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างคนวัยทองแน่นอน

18. ดูอ่อนเยาว์ขึ้น

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเมล็ดเชียจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มากก­­­ว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รีหลายเท่า ด้วยเหตุนี้จึงดีต่อผิวพรรณ บำรุงผมและเล็บให้เงางามน่าสัมผัส ลดปัญหาสิว ชะลอริ้วรอยแห่งวัย เรียกได้ว่าสวยได้ครบสูตรแค่เพียงมีเมล็ดเชียอยู่ในชีวิตเชียวล­­­่ะ

19. เติมเต็มสารอาหาร

เมล็ดเชียมีดีตรงไหน เผยความลับธัญพืชตัวจิ๋วที่ไม่ยอมรู้คนเดียวแน่

          ได้รู้กันไปแล้วว่าเมล็ดเชียเม็ดจิ๋วนั้นแจ๋วแค่ไหน ทั้งอุดมไปด้วยสารอาหารที่ร่างกายต้องการแทบจะครบถ้วน บวกกับคุณสมบัติเด่นที่ช่วยบำรุงดูแลร่างกายในด้านอื่น ๆ อีกสารพัด ดังนั้นหากกินเมล็ดเชียก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าร่างกายจะขาดสารอาห­­­ารชนิดไหนไป

20. หาซื้อได้จากที่ไหน ?

          โชคดีที่คนสมัยนี้หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เราเลยเห็นเมล็ดเชียวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำทั่วไป ร้านขายอาหารชีวจิต ร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ร้านขายสินค้าโอท็อป โดยมาในรูปบรรจุหีบห่อ ทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบสด หรืออยากจะทดลองปลูกเมล็ดเชียที่บ้านก็สามารถซื้อเมล็ดพันธุ์ได­­­้ตามร้านค้าทางการเกษตรทั่วไปเช่นกันค่ะ ส่วนสนนราคาของเมล็ดเชียก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาและคุณภาพของเมล็ดเชีย

          ทั้งนี้เมล็ดเชียเองก็มีข้อจำกัดไม่น้อย เช่น ไม่เหมาะกับคนที่แพ้กลูเตน คนที่มีปัญหาลำไส้และกระเพาะอาหาร คนที่จะเข้ารับการผ่าตัดหรือทำศัลยกรรม คนที่ป่วยโรคความดันโลหิตต่ำ คุณผู้ชายก็ไม่ควรกินเมล็ดเชียมาก เพราะมีกรดไขมันตัวหนึ่งที่อาจไปกระตุ้นให้เกิดความเสี่ยงโรคมะ­­เร็งต่อมลูกหมาก รวมไปถึงหญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่ให้นมบุตร

          อีกทั้งก็อยากแนะนำว่าอย่ากินเมล็ดเจียติดต่อกันนานเกินไป ทางที่ดีควรเว้นระยะเป็นพัก ๆ ไม่เช่นนั้นอาจตกเป็นทาสของเมล็ดเชีย เสพติดเกินไปจนร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่หลากหลายนั่นเอง







อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Huffington Post
The Stone Soup









เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมล็ดเชีย (เมล็ดเจีย) มีดีตรงไหน เผยความลับธัญพืชตัวจิ๋วที่ไม่ยอมรู้คนเดียวแน่ อัปเดตล่าสุด 11 ตุลาคม 2563 เวลา 07:07:51 34,881 อ่าน
TOP
x close