ฝึกสมองให้ความจำดีขึ้นได้ เรียนรู้ไวกว่าเดิมกับ 8 เคล็ดลับฝึกสมองให้แข็งแรงและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของสมองให้เก่งครบทุกด้าน
สมองเป็นส่วนที่ลึกลับซับซ้อนที่สุดภายในร่างกายเรา แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังสามารถฟื้นฟูสมองจากความเหนื่อยล้า รวมทั้งกระตุ้นขีดความสามารถของสมองให้เจ๋งขึ้นกว่าเดิมได้ไม่ยาก โดยเริ่มฝึกสมองตามคำแนะนำจาก Lifehack ไปพร้อมกันเลย
1. ฝึกความเคยชินให้ความจำ
จากที่เคยคิดว่าไม่ต้องจดก็จำได้ ลองเปลี่ยนความคิดใหม่ดูค่ะ เพราะเคยมีกรณีของคนที่เจออะไรมาก็จดเอาไว้ในไดอารี เสร็จแล้วก็นำข้อมูลเหล่านั้นไปเม้าท์กับเพื่อน ๆ ทีหลัง เชื่อไหมล่ะว่า เขาคนนั้นมีความจำดีขึ้นจากเมื่อก่อนเยอะเลยทีเดียว โดยทิวล่า ธาร์บ เล่าจากประสบการณ์ตรงของเธอว่า เธอสามารถจดจำสิ่งที่ตัวเองเจอมาได้ 12 อย่างแรกจากทั้งหมด 40 อย่าง ในขณะที่คนอื่นจำได้แค่ไม่เกิน 3 อย่างจากทั้งหมด เก๋ากว่าเห็น ๆ
นอกจากนี้ยังมีแนวทางฝึกความจำให้สมองแบบง่าย ๆ ให้ลองทำ เป็นต้นว่า ลองนั่งนึกชื่อและหน้าของคนที่เพิ่งเจอกันใหม่ ๆ หรือเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน เป็นการฝึกสมองให้ทบทวนข้อมูลเก่า ๆ แทนการอยู่เฉยนั่นเอง
2. หัดทำในสิ่งที่แตกต่าง
ใจความสำคัญของการฝึกในข้อนี้ต้องการเพียงให้คุณได้ทำอะไรที่ต่างไปจากกิจวัตรประจำวันซ้ำ ๆ กัน เหมือนย้อนอดีตไปในวันที่คุณเริ่มเดินเตาะแตะ เริ่มหัดใช้หลอด เริ่มเลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เห็นได้ชัดว่า การเรียนรู้สิ่งใหม่แบบซ้ำไปซ้ำมาจะช่วยให้สมองสร้างพื้นที่ไว้สำหรับจดจำและสั่งให้ร่างกายทำตามอย่างแม่นยำขึ้น ซึ่งกิจกรรมแหวกไปจากเดิมนี้ก็ไม่จำเป็นต้องดูยิ่งใหญ่อะไร เพียงแค่จัดโต๊ะทำงานใหม่ จัดมุมในบ้านใหม่เพื่อให้สมองสร้างความคุ้นเคยในแบบใหม่อย่างนี้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
3. เรียนรู้สิ่งใหม่
ฝึกสมองให้หนักขึ้นอีกด้วยการเรียนรู้สิ่งใหม่ แบบที่ไม่เคยได้ลองมาก่อนเลยในชีวิต เช่น เรียนยูโด เรียนดนตรี หรือกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้สมองถูกใช้งานมากขึ้น ป้องกันสมองฝ่อและหยุดนิ่งจนเกินไป อ๊ะ ! นอกจากนี้ผลการศึกษายังแนะนำให้คนมีอายุไปเรียนเต้น เพื่อป้องกันสมองไม่ให้เสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ด้วยนะ สนใจกันไหมล่ะจ๊ะ
4. เล่นโปรแกรมฝึกสมอง
สำหรับคนที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีสามารถฝึกสมองอยู่กับบ้านได้ง่าย ๆ แค่คลิกไปที่ BrainHQ แล้วประลองความสามารถของสมองให้โลกรู้กันไปข้าง !
5. ออกกำลังกาย
อยากปรบมือให้การออกกำลังกายดัง ๆ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยฟิตร่างกายของเราให้แข็งแรงเท่ากัน ทว่าแค่ออกกำลังกายเรียกเหงื่อเพียง 20 นาทีก็เหมือนได้ฟิตสมองไปพร้อมกันด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่า การเคลื่อนไหวร่างกายไปมาจะช่วยให้สมองเชื่อมโยงระบบเส้นประสาทได้เร็วขึ้น สมองจะถูกกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัว รวมทั้งประสิทธิภาพในการทำงานของสมองก็จะถูกปลุกให้ตื่นเต็มที่
6. ใช้เวลาอยู่กับคนรัก
อยู่กับคนที่เรารักจะสามารถพัฒนาทักษะความรู้ความเข้าใจของสมองได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการที่เราจะดูแลความรู้สึกใครได้ย่อมต้องใช้สมองในการไตร่ตรองความชอบความไม่ชอบของเขาด้วย แถมผลวิจัยยังบอกอีกด้วยว่า หากเป็นคนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้อื่นโดยพื้นฐานอยู่แล้วจะยิ่งพัฒนาทักษะด้านนี้ได้ไวกว่าคนอื่น แหม…คนโสดก็ไม่ต้องน้อยใจไปนะคะ หันไปดูแลคนรอบข้างที่เรารักก็น่าจะช่วยได้เหมือนกัน
7. เล่นครอสเวิร์ด ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง
ไม่แปลกหากเราจะเข้าใจผิดมาตลอดว่าการเล่นครอสเวิร์ดเป็นกิจกรรมฝึกสมองชนิดหนึ่ง เนื่องจากเกมนี้ต้องผ่านการคิดวิเคราะห์ไม่น้อย ทว่าผลการศึกษาอย่างเป็นทางการกลับแย้งข้อมูลพลิกล็อกที่บอกว่า การเล่นครอสเวิร์ดให้แค่ความบันเทิงกับทักษะทางด้านภาษาเท่านั้น จะหวังผลด้านกระตุ้นการทำงานของสมองนั้นแทบไม่เป็นผลเลย ทางที่ดีหันไปฝึกสมองด้วยกิจกรรมอื่นดังที่กล่าวไปยังได้ประโยชน์มากกว่า
8. ดาร์กช็อกโกแลตช่วยได้
ผลการศึกษาทางการแพทย์แนะนำให้รับประทานดาร์กช็อกโกแลตเพิ่มศักยภาพของสมองด้วย เนื่องจากขณะที่เรากินดาร์กช็อกโกแลต สมองจะหลั่งโดพามีน ตัวช่วยให้สมองไวและความจำดีออกมา อีกทั้งในดาร์กช็อกโกแลตยังมีฟลาโวนอลและสารต้านอนุมูลอิสระ ตัวช่วยสำคัญสำหรับการทำงานของสมองอันซับซ้อนของเรา
นอกจากนี้ปลา ผัก และผลไม้ยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์กับสมอง รวมทั้งเหล่าวิตามินต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามิน D มีส่วนสำคัญกับการบำรุงสมอง ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้เป็นอย่างดี ส่วนโอเมก้า 3 ช่วยให้ความจำดี หัวไว ฉลาดหลักแหลมมากขึ้น
ฝึกฝนตัวเองให้ทำกิจกรรมที่ต้องคิดต้องไตร่ตรองอยู่เสมอจะช่วยให้สมองได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด แต่ทั้งนี้เราเองก็ต้องดูแลสุขภาพควบคู่กันไปให้ครบทุกด้านด้วย เสริมส่งกันไปแบบนี้จะได้ประสิทธิภาพที่ครบ 100% นะคะ