สรุปประเด็นโดยกระปุกดอทคอม
ขึ้นชื่อว่า "เชื้อรา" แล้ว ไม่ว่าจะอากาศร้อน หรือฝนตก ก็ย่อมโผล่มากวนใจเราได้เสมอ หากเราไม่รู้จักระวัง และป้องกันให้ดี โดยเฉพาะคนที่ชอบสะสมผ้าซักเป็นรายสัปดาห์ มีสิทธิ์แจ๊กพอตเจอเจ้า "เชื้อรา" มาเคาะประตูรอได้มากทีเดียว แถมหากเจอมันแล้ว ยังอาจทำให้คุณเป็นโรคผิวหนังชนิดร้ายแรงได้ด้วย
เอาล่ะ! ในเมื่อเชื้อราบนผืนผ้าไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่ควรมองข้าม วันนี้เราจึงมีความรู้เกี่ยวกับเชื้อราบนเสื้อผ้า และวิธีง่าย ๆ ในการกำจัดมันออกไปซะมาฝากกัน
ยิ่งร้อน...ยิ่งคัน เพราะมันอยู่ในร่มผ้า
การนุ่งกางเกงยีนส์รัด ๆ ทำให้เกิดความอบร้อน อับชื้นภายใน การศึกษาวิจัยยืนยันว่า ผู้หญิงที่นุ่งยีนส์เป็นประจำ มีโอกาสเป็นเชื้อราในร่มผ้ามากกว่าผู้หญิงที่นุ่งกระโปรงชุดชั้นในที่รัดแน่น ผลิตจากผ้าใยสังเคราะห์ จะทำให้เกิดการอับชื้นภายในจุดซ่อนเร้น และอากาศถ่ายเทไม่สะดวก เหงื่อออกมากจนเกิดการหมักหมม และเป็นบ่อเกิดของเชื้อราได้เมื่อนอนหลับหรืออยู่ในห้องส่วนตัว ผู้หญิงควรลองนุ่งกางเกงในบ็อกเซอร์ หรือกางเกงขาสั้นตัวเล็ก ๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก มีรายงานว่า ผู้หญิงในเมืองจีนนิยมนุ่งกางเกงชั้นในแบบนี้ และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเชื้อราในส่วนเร้นลับควรตากผ้าเช็ดตัว ชุดชั้นใน ในที่อากาศถ่ายเท ได้รับแสงแดด การตากในห้องน้ำ หรือหน้าห้องน้ำที่มีความชื้นสูง จะทำให้เชื้อราแพร่ขยาย และส่งผ่านมาถึงตัวเรา เมื่อนำมาเช็ดถูหรือสวมใส่วิธีกำจัดเชื้อรา
กำจัดเชื้อราบนผ้าวิธีที่ 1บีบมะนาวลงบนรอยจุดที่เป็นเชื้อรา โรยเกลือป่นทับลงไป นำเสื้อไปตากแดดสัก 1-2 ชม. หลังจากนั้นให้นำเสื้อมาล้างตรงที่บีบมะนาวกับเกลือให้สะอาด ก่อนนำไปซักตามปกติ
กำจัดเชื้อราบนผ้าวิธีที่ 2แช่ชุดที่ขึ้นราในน้ำผงซักฟอกที่ผสมน้ำยาซักผ้าขาว หรือสีที่มีขายเป็นขวด ๆ สัก 2-3 ฝา ทิ้งไว้ข้ามคืน ราจะหายไปหมด หลังจากนั้นก็เอาไปซักให้หมดกลิ่นน้ำยา เชื้อราที่ขึ้นบริเวณเสื้อผ้าต้องนำไปซักใหม่ และตากให้แห้งอย่าปล่อยให้ชื้นอีก
กำจัดเชื้อราในตู้เสื้อผ้าทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าด้วยการปัดกวาด และขัดถูโดยใช้ยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ น้ำยาที่มีส่วนผสมของคลอรีน (น้ำยาล้างห้องน้ำ) เช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว ตากแดดหรือปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วทาสีหรือทาแล็กเกอร์ทับ สุดท้ายให้นำสารดูดความชื้น เช่น ซิลิก้าเจล มาใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า แล้วพยายามอย่าปล่อยให้ตู้เสื้อผ้าชื้นอีก
กำจัดเชื้อราออกจากอ่างอาบน้ำ, ห้องอาบน้ำ,พื้นกระเบื้อง หรือกำแพงห้องน้ำใช้แปรงขัด โดยใช้น้ำยากัดผ้าขาวแบบมีคลอรีน 1/2 ถึง 1 ถ้วยผสมกับน้ำ 1 แกลลอน ควรสวมถุงมือกันน้ำ เพื่อป้องกันมือของคุณสัมผัสกับน้ำยากัดผ้าขาวโดยตรง ให้ใช้แปรงสีฟันเก่า ๆ แปรงยาแนว (ระหว่างกระเบื้อง) ใช้ส่วนผสมของน้ำยากัดผ้าขาวกับน้ำที่กล่าวแล้วข้างต้น ราดผ้าม่านพลาสติกที่ใช้ในห้องอาบน้ำ แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
