เทรนด์สุขภาพที่มาแรงมาก ๆ ในปีที่แล้วและยังแรงต่อเนื่องข้ามปีก็คงหนีไม่พ้นอาหารคลีน และเทรนด์สุขภาพในปี 2560 ที่ก็น่าจะแรงไม่แพ้อาหารคลีนก็ยังคงเน้นไปที่การปรับความสมดุลของร่างกายจากภายในสู่ภายนอก โดยเฉพาะใครที่มักจะรู้สึกเครียดง่าย นอนไม่ค่อยหลับ จำอะไรไม่ค่อยได้ ใช้ชีวิตเหมือนมีสติไม่เต็มร้อย ในปีนี้เทรนด์สุขภาพที่คุณควรต้องลองก็คือการนอนคลีน ซึ่งการนอนคลีนคืออะไรนั้น เราไปทำความรู้จักกันเลยค่ะ
การนอนคลีนเป็นเทรนด์สุขภาพที่กวินเน็ธ พัลโทรว์ ดาราฮอลลีวูดชื่อดังแนะนำมา โดยเธอบอกว่าการดูแลสุขภาพและรูปร่างให้ดีนั้นไม่ใช่แค่ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน แต่เรื่องสุขภาพการนอนหลับก็ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่งเชียวล่ะ
ทั้งนี้กวินเน็ธ พัลโทรว์ และทีมวิจัย Groop ได้ให้คำนิยามของการนอนคลีนเอาไว้ว่า การนอนคลีนคือการนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง หรือ 10 ชั่วโมงได้เลยยิ่งดี โดยต้องไม่มีสิ่งใด ๆ รบกวนตลอดการนอนหลับนั้นด้วย เพราะหากเรานอนไม่หลับหรือนอนไม่ได้คุณภาพ สุขภาพของเราจะแกว่ง ทั้งรู้สึกหงุดหงิดง่าย อ่อนเพลียบ่อย ๆ และอาจเป็นต้นเหตุสำคัญของความอ้วน ปัญหากวนใจของสาว ๆ หลายต่อหลายคน ดังนั้นหากอยากมีสุขภาพดี ก็ควรต้องดูแลสุขภาพการนอนหลับให้ดีเสียก่อน ซึ่งหลักในการนอนคลีนก็มีดังนี้ค่ะ
1. นอนให้ได้ 9 ชั่วโมง
Dr.Laura Lefkowitz ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนการและฮอร์โมน แนะนำว่า การนอนหลับให้ได้ 9 ชั่วโมงทุกวันจะช่วยปรับสมดุลการทำงานของร่างกายได้ดีที่สุด เรียกได้ว่าเป็นทริคนอนหลับเพื่อความสวยงามของร่างกายก็ไม่ผิดนัก เพราะการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่ปรวนแปรจนอาจนำไปสู่ภาวะอ้วนจากการหิวโหยของหวานเพื่อเติมพลังงานให้ร่างกายสดชื่น ลดภาวะความเครียด และการนอนหลับให้ครบ 9 ชั่วโมงยังเป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมสำหรับการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย รวมไปถึงการขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้ดูอ่อนวัยกว่าอายุจริงอีกด้วย
การฝึกโยคะนิทราจะช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับ และแก้ปัญหาสะดุ้งตื่นระหว่างคืนจนทำให้การนอนหลับของคุณไม่สมบูรณ์ โดยท่าฝึกให้นอนหงายท่าศพอาสนะ หงายฝ่ามือทั้งสองข้างวางไว้ข้างลำตัว ค่อย ๆ หลับตาและพยายามเพ่งสมาธิไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ค่อย ๆ ไล่สมาธิไปทีละจุด พร้อมทั้งผ่อนลมหายใจและผ่อนคลายร่างกายในท่าที่สบายที่สุด ซึ่งจะช่วยคลายความตึงเครียดและฝึกสมาธิก่อนเข้านอนให้เราสามารถนอนหลับได้ลึก ได้พักผ่อนร่างกายอย่างแท้จริง
3. อย่ากินมื้อดึก
Dr.Alejandro Junger ผู้เชี่ยวชาญด้านการดีท็อกซ์ แนะนำว่า เราควรเว้นระยะห่างระหว่างมื้ออาหารเย็นกับเวลาในการเข้านอนสักราว ๆ 4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้ระบบย่อยมีเวลาจัดการอาหารที่เรากินเข้าไปให้เสร็จสิ้นกระบวนการเสียก่อน ทำให้เมื่อเราล้มตัวลงนอนหลับ ระบบย่อยอาหารจะได้เบาการทำงานและไม่ขัดขวางการนอนหลับของเรานั่นเองค่ะ
อ้อ ! และเมื่ออาหารในท้องถูกย่อยอย่างสมบูรณ์ ร่างกายก็จะลดสิ่งตกค้างลงไปด้วย ซึ่งนี่แหละคือเคล็ดลับของการดีท็อกซ์ หนึ่งในหลัก Sleeping Beauty เขาล่ะ
Trigger Point บริเวณศีรษะเป็นจุดที่ถ้าลองได้นวดจะช่วยบำบัดความเครียดและส่งผลให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากพอจะช่วยให้นอนหลับสนิทได้ โดยเราสามารถใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงเบา ๆ บริเวณหลังกกหูหรือช่วงต้นคอที่ต่อกับไหล่ คลึงไปสักพักจะรู้สึกสบายขึ้น ชวนให้ง่วงงุนซะเหลือเกิน
5. บำบัดความเครียดด้วยการดูแลฝ่าเท้า
ฝ่าเท้าเป็นจุดรวมของเส้นประสาทในร่างกายเรา ดังนั้นก่อนเข้านอนควรผ่อนคลายด้วยการเอาเท้าแช่น้ำอุ่น หรือนวดคลึงเท้าให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้น เพื่อช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของระบบประสาทและกล้ามเนื้อไปในตัว คราวนี้ก็นอนหลับสนิทมากขึ้นแล้ว
ความสะอาดคือสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง ทั้งห้องหับ เครื่องนอน ควรต้องสะอาดและพร้อมสำหรับนอนหลับเสมอ นอกจากนี้ในห้องนอนควรเป็นห้องที่ปิดไฟแล้วจะมืดสนิท ไม่มีแสงไฟจากมุมไหนเล็ดลอดเข้ามาได้ และพยายามใช้ห้องนอนและเตียงนอนสำหรับนอนหลับพักผ่อนเท่านั้นด้วยนะคะ
เพราะปัญหานอนไม่หลับไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ ที่ควรมองข้าม เนื่องจากสามารถส่งผลกระทบให้สุขภาพร่างกายเราทรุดโทรมลงไปเรื่อย ๆ เลยนะคะ ดังนั้นหากปีที่แล้ว ๆ มามักจะนอนไม่หลับหรือหลับไม่ค่อยสนิทเป็นกิจวัตรประจำวัน ปี 2017 นี้เราลองมานอนคลีนกันเถอะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
dailymail
metro