x close

กลิ่นปาก..ของฝากที่ไม่อยากได้

แปรงฟัน


กลิ่นปาก..ของฝากที่ไม่อยากได้ (Modern Mom)
โดย: ท.พญ.โฉมไฉไล เอกจิตต์
 
          ใครมีกลิ่นปาก จะขาดความมั่นใจจนถือเป็นข้อด้อยประจำตัวทีเดียว บางคนก็มีมากจนเจ้าตัวรู้สึกได้เอง หรือบางคนมีน้อยจนอาจไม่รู้ตัว นอกจากจะได้เห็นปฏิกิริยาจากคู่สนทนา จนต้องมาแอบดมดู... กว่าจะรู้เกือบเสียเพื่อนแน่ะ

          ส่วนใหญ่หาวิธีแก้ไขด้วยการใช้น้ำยาบ้วนปาก อมยาอม หรือใช้สเปรย์ดับกลิ่นปาก แม้กระนั้นก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังมีกลิ่นปากอยู่ เพราะกำจัดมันไปแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ใช่การรักษาถาวร ซึ่งคือการกำจัดสาเหตุ ซึ่งมีทั้งมาจากภายในและภายนอกปากเราค่ะ
           
เหตุภายในช่องปาก มีที่มาที่ไปมากมายแหละค่ะ ไม่ว่าจะเป็น...
 
จากคราบสกปรกในช่องปาก
       
          เพราะขาดการเอาใจใส่ดูแลสุขภาพช่องปาก คือแปรงฟันไม่สะอาด มีเศษอาหารตกค้างอยู่บริเวณซอกฟัน ซึ่งควรใช้ไหมขัดฟันช่วยในการทำความสะอาดบริเวณซอกฟัน เพราะขณะนอนหลับหลายชั่วโมงนั้น อุณหภูมิในช่องปากจะค่อนข้างคงที่ ไม่ถูกรบกวนจากสิ่งต่าง ๆ ที่เราทานเข้าไป จึงเหมาะที่เชื้อโรคจะเจริญเติบโต จากการทำปฏิกิริยากับเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ ซึ่งผลที่ตามมาคือทำให้เกิดการมีกลิ่นปากที่ไม่โสภาขึ้น
         
ฟันผุ
          
          การแปรงฟันไม่สะอาดก่อให้เกิดฟันผุ และหากฟันมีรู โดยรูฟันไม่ได้รับการอุดรักษา ก็จะกลายเป็นที่กักเก็บเศษอาหาร เพราะเศษอาหารจะลงไปตกค้างได้ง่าย แต่ขจัดออกได้ยาก แม้ตั้งใจแปรงฟันเป็นอย่างดีแล้ว แต่เศษอาหารที่ตกค้างอยู่ในรูฟันจะเกิดการบูดเน่า ก่อให้เกิดกลิ่นปาก แม้จะใช้ยาสีฟันยี่ห้อที่ดีที่สุด แพงที่สุด ก็ไม่อาจกำจัดกลิ่นน่ารังเกียจนี้ได้
         
          วิธีการแก้ไขคือ ให้ทันตแพทย์อุดฟันที่ผุนั้นเสีย ถ้าผุมากจนรักษาไม่ได้ก็อาจจะต้องถอนค่ะ
          
เหงือกอักเสบ
      
          การแปรงฟันไม่สะอาด ยังก่อให้เกิดการอักเสบของเหงือกด้วย โดยแคลเซียมจากน้ำลายจะตกตะกอนทับถมบนคราบอาหารที่ตกค้างอยู่ตามคอฟัน และซอกฟัน เกิดเป็นหินปูนหรือหินน้ำลาย ซึ่งก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อเหงือก ทำให้เหงือกอักเสบ ถ้ายิ่งอักเสบรุนแรง จะมีเลือดออกตามไรฟัน จนถึงเกิดอาการเหงือกบวมเป็นหนอง มีน้ำเหลืองไหลซึม เป็นที่มาของกลิ่นปากได้
          
          การแก้ไขก็ควรแปรงฟันให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ และพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดโรคเหงือกอักเสบ
            
การใส่ฟันปลอม
            
          คนที่ใส่ฟันปลอมนั้น ต้องการการดูแลฟันเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะใส่ชนิดถอดได้ หรือติดแน่นก็ตาม โดยฟันปลอมชนิดถอดได้ ควรถอดออกมาล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร และไม่ควรใส่ฟันปลอมนอน ส่วนฟันปลอมชนิดติดแน่น ควรแปรงตามขอบให้สะอาด และใช้ไหมขัดฟันทุกครั้ง ซึ่งหมอฟันจะให้คำแนะนำไว้ตอนไปใส่
          
การมีแผลเรื้อรังในช่องปาก
          
          เช่น แผลของโรคซิฟิลิส มะเร็ง หรือวัณโรค รวมทั้งแผลของเนื้องอกต่าง ๆ จะมีการอักเสบของเนื้อเยื่อช่องปาก เช่น ลิ้น กระพุ้งแก้ม ริมฝีปาก เพดานปาก เป็นต้น ซึ่งทำให้เกิดกลิ่นได้โดยมีเลือด และน้ำเหลืองหรือหนองไหลซึมปนมากับน้ำลายและเสมหะ

          นอกจากนี้ แผลที่เกิดจากการถอนฟัน ซึ่งไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อาจมีเลือดไหลซึมออกมาปะปนกับเศษอาหารที่รับประทาน ทำให้เชื้อโรคในช่องปากทวีจำนวนขึ้น ซึ่งมีผลให้เกิดกลิ่นปากได้           

การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นจัด

          เช่น ปลาร้า กะปิ หัวหอม กระเทียม แอลกอฮอล์ รวมทั้งผลไม้บางชนิด เช่น ทุเรียน แม้จะมีรสอร่อย แต่กลิ่นรุนแรงไม่แพ้รสชาติเช่นกัน และสามารถติดค้างอยู่ในช่องปาก หรือก็เรอเอิ๊กออกมาได้ และสารที่เป็นสาเหตุของกลิ่น ยังอาจถูกดูดซึมเข้ากระแสโลหิต และถูกขับออกมาทางลมหายใจ ทำให้รู้สึกว่ามีกลิ่นปากได้ แม้ว่าจะแปรงฟันอย่างสะอาดที่สุดแล้วก็ตาม
       
          การแก้ไขทำได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเหล่านี้ หากต้องออกไปพบปะผู้อื่นหลังอาหาร การแปรงฟันให้สะอาดจะช่วยลดกลิ่นลงได้ระดับหนึ่งค่ะ แต่กลิ่นจะยังคงอยู่จนกว่าสารก่อกลิ่นจะถูกขับออกมาจนหมด จึงจะหมดกลิ่นค่ะ
         
เหตุภายนอกช่องปาก
      
          โรคของอวัยวะที่อยู่ใกล้เคียงกับช่องปาก โรคของระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดเรื้อรัง เช่น วัณโรค ในระยะที่มีการทำลายเนื้อปอดมาก
      
          โรคของโพรงจมูก หรือไซนัสอักเสบ ซึ่งถ้าอักเสบมากจนเป็นหนอง น้ำหนองจะไหลเข้ามาในคอและช่องปากได้ ซึ่งก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น
      
          โรคบางอย่างของกระเพาะอาหาร เช่น มีแผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และมีการติดเชื้อเกิดเป็นหนอง ซึ่งสามารถส่งกลิ่นออกมาได้ทางปากพร้อมกับการเรอ ฯลฯ
 
ทดสอบกลิ่นปาก
           
          วิธีทดสอบที่มาของกลิ่นปากทำได้ไม่ยากค่ะ..เริ่มด้วยการส่องกระจกสำรวจภายในช่องปาก ว่ามีอะไรที่อาจเป็นสาเหตุของการมีกลิ่นปากได้ เริ่มมีฟันผุ มีเหงือกอักเสบหรือไม่ มีแผลในช่องปากหรือเปล่า ถ้ามีสิ่งเหล่านี้อยู่ ลองอุดจมูกให้แน่นแล้วค่อย ๆ หายใจทางปาก ถ้าได้กลิ่นเหม็น ก็แสดงว่าสาเหตุของกลิ่นมาจากภายในช่องปาก
          
          แต่ถ้าไม่พบว่าลมหายใจทางปากนั้นมีกลิ่น ก็ให้เปลี่ยนวิธีเป็นหุบปากให้แน่นแล้วหายใจออกแรง ๆ ทางจมูก ถ้าได้กลิ่นจากลมหายใจแสดงว่า กลิ่นนั้นเกิดจากสาเหตุภายนอกช่องปาก ซึ่งอาจจากอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ก็ต้องให้หมอดูค่ะ
 
          การหมั่นดูแลรักษาความสะอาดช่องปาก ไปหาหมอฟันปีละ 2 ครั้ง และเอาใจใส่ลมหายใจของตัวเองอยู่เสมอ ๆ จะทำให้เรา (และคนอื่น) ไม่ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดกับกลิ่นที่โชยมาจากปากเราค่ะ
 


  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย

 คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ


 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กลิ่นปาก..ของฝากที่ไม่อยากได้ อัปเดตล่าสุด 24 กันยายน 2553 เวลา 14:54:43 7,121 อ่าน
TOP