สองภาษาชะลออัลไซเมอร์ (ไทยโพสต์)
งานวิจัยชิ้นใหม่แนะนำให้ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ ว่าควรเรียนรู้ภาษาที่ 2
ทั้งนี้ นักวิจัยใช้การเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มคนพูดภาษาเดียวกับผู้ที่พูดได้อย่างน้อย 2 ภาษา และพบว่าการเรียนรู้และพูดภาษาที่ 2 จะช่วยในการปรับปรุงทักษะด้านความจำและการรู้คิด และชะลอภาวะสมองเสื่อมได้นานขึ้นโดยเฉลี่ยอย่างน้อย 4 ปี
สำหรับในกลุ่มเด็ก เด็กที่พูดได้สองภาษาจะเก่งในการจัดลำดับความสำคัญของการทำงานพร้อมกันหลายชิ้น มากกว่าเด็กที่พูดได้แค่ภาษาเดียว
"การพูดได้สองภาษาจะช่วยด้านทักษะในการรู้คิด และกระตุ้นการทำงานของสมอง โดยเฉพาะในส่วนที่มีความสำคัญที่สุดที่เรียกกันว่า ระบบบริหารควบคุม" เอลเลน เบียลีสต็อก นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยยอร์ก โทรอนโต กล่าวในที่การประชุมประจำปีของสมาคม เพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ อเมริกัน ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ระบบของสมองส่วนดังกล่าวจะเสื่อมไปตามอายุขัย แต่นักวิจัยพบว่า ในทุกช่วงอายุ สมองส่วนนี้ยังทำงานได้ดีในหมู่คนที่พูดสองภาษา ซึ่งจะทำให้คนกลุ่มนี้เป็นโรคสมองเสื่อมช้ากว่า
ในการวิจัยซึ่งเผยแพร่ ในวารสาร Neurology เบียลีสต็อก สังเกตผู้คน 211 รายที่อาจเป็นโรคสมองเสื่อม ในกลุ่มนี้ 102 รายพูดได้สองภาษา และ 109 รายพูดได้ภาษาเดียว โดยได้บันทึกช่วงอายุของผู้ป่วยที่เริ่มแสดงอาการความจำเสื่อม ผลที่ได้ ชี้ว่า ผู้ป่วยที่พูดสองภาษา จะเข้ารับการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ช้ากว่าโดยเฉลี่ย 4.3 ปี และแสดงอาการเริ่มต้นช้ากว่าผู้ป่วยที่พูดภาษาเดียวเฉลี่ย 5.1 ปี
นักวิจัยรายนี้กล่าวว่า การเปลี่ยนไปมาระหว่างสองภาษา น่าจะเป็นตัวกระตุ้นสมองซึ่งจะช่วยเก็บสะสมคลังปัญญาสำรองไว้
"มันเหมือนกับถังน้ำมันสำรองของรถ เมื่อน้ำมันหมดคุณก็สามารถวิ่งต่อไปได้อีกสักระยะ เพราะคุณมีน้ำมันสำรอง"
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
