ติด หวัด 2009 มีโรคประจำตัว เสี่ยงตาย! (เดลินิวส์)
โดย นวพรรษ บุญชาญ
พุ่งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับตัวเลขผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) หรือ โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในบ้านเรา
จากข้อมูล นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ล้วนมีโรคประจำตัวทั้งสิ้น บางคนมีตั้งหลายโรค ส่วนคนทั่วไปไม่มีโรคประจำตัว ร่างกายแข็งแรง สาเหตุของการเสียชีวิตเป็นเพราะไปพบแพทย์ช้า คือ มีอาการป่วย นอนซมมาหลายวัน จนอาการหนัก ทำให้แพทย์ไม่สามารถ ยื้อชีวิตจากเงื้อมมือมัจจุราชได้
ท่านผู้อ่านที่มีโรคประจำตัวคงพากันตกใจ ว่า ทำมั้ย ทำไม เมื่อติดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จึงมีความเสี่ยงมากกว่าชาวบ้านเขา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กลุ่มเสี่ยงที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ที่อาจมีอาการรุนแรง จนถึงขั้นเสียชีวิต มีดังนี้
1.โรคหัวใจและหลอดเลือด เมื่อเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ถ้ามีอาการไอ หอบจะทำให้อาการเป็นมากขึ้น หัวใจทำงานมากขึ้น ทำให้การทำงานหัวใจแย่ลง
2.โรคปอด เช่น วัณโรค โรคถุงลมโป่งพอง หอบหืด เมื่อติดเชื้อ คนไข้ไอ การทำงานของถุงลมจะยิ่งแย่ อาการก็แย่ลงไป การแลกเปลี่ยนออกซิเจนไม่ค่อยดี
3.โรคไต ปกติผู้ป่วยโรคไตจะมีภูมิต้านทานต่ำอยู่แล้ว คนไข้จะมีภาวะซีด โดยเฉพาะไตวายเรื้อรัง ทำให้อาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว
4.หญิงตั้งครรภ์ ปกติจะมีระบบฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เนื่องจากร่างกายเตรียมรับสมาชิกใหม่ ร่างกายจะต้องปรับสมดุลของฮอร์โมนทำให้ภูมิต้านทานลดลง ดังนั้นจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย เมื่อติดเชื้อจะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
5.ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ได้แก่ โรคเอดส์ โรคมะเร็งทุกชนิด โรคผิวหนังบางชนิดที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน แค่เป็นหวัดธรรมดา อาการก็แย่อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ จะทำให้ไอ หอบ และอาการรุนแรงได้มากกว่าคนปกติ
6.กลุ่มผู้ที่ได้รับยาแอสไพรินเป็นเวลานานๆ เชื่อว่า ยาแอสไพรินมีผลต่อการทำงานของเนื้อเยื่อตับ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการรุนแรงทางสมอง เรียกว่า "กลุ่มอาการไรย์ ซินโดรม" และเสียชีวิตได้
7.โรคอ้วน ทำให้เกิดการขยายตัวของปอดได้น้อยอยู่แล้ว เหมือนผู้ป่วยโรคหอบหืด เมื่อป่วยจะทำให้เกิดอาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ถ้าผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการไข้หวัด 1-2 วัน กินยาลดไข้ อาการไข้ไม่ลดลงควรรีบไปพบแพทย์ อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะที่ผ่านมาหลายคนไปพบแพทย์เมื่ออาการหนักแล้ว ซึ่งไม่สามารถช่วยชีวิตได้
สิ่งสำคัญ คือ ผู้ป่วยทุกคนไม่ว่าจะมีโรคประจำตัวหรือไม่มีก็ตาม อย่ากินยาแอสไพรินเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอาการไรย์ ซินโดรมได้
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
