x close

กินแบบมือโปรยังไงก็ไม่อ้วน


สูตรลดน้ำหนัก


กินแบบมือโปรยังไงก็ไม่อ้วน (E-magazine)

          สำหรับบางคนที่รักการกินแต่ไม่ชอบออกกำลังกาย บรรดาอาหารที่เข้าสู่ร่างกายก็อาจกลายร่างมาเป็นไขมัน ขณะเดียวกันก็ยังมีบางคนที่ชอบออกกำลังกายและชอบกิน ๆๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องลงเอยกับความอ้วน ซึ่งจะมีหนทางใดบ้าง ที่จะทำให้เราได้อิ่มเอมไปกับอาหารโดยไม่ต้องกลัวหุ่นพะโล้ถามหา

          วันนี้เรามีสูตรลดน้ำหนักที่ไม่ว่าจะคุณจะทานมากแค่ไหน แต่ก็ยังดูดีเพียวระหงอยู่เสมอกับ 3 วิธีไดเอท ด้วยอาหารที่ทั้งอิ่มแถมยังเฟิร์มได้ไม่ยาก

ลดน้ำหนักด้วยอาหารไฟเบอร์สูง

          ไฟเบอร์ (Fiber) คือเส้นใยอาหาร ซึ่งมี 2 ชนิดคือ ไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ และไฟเบอร์ชนิดที่ไม่ละลายน้ำ ภายใน 1 วัน ผู้หญิงควรได้รับไฟเบอร์ 25 กรัม ขณะที่ผู้ชายควรได้รับ 30 กรัม โดยไฟเบอร์ที่ปัจจุบันนี้หลายคนนำไปผสมกับเครื่องดื่มหรืออาหาร เป็นสิ่งที่ไม่ให้พลังงานแต่ช่วยให้อาหารเดินทางเร็วขึ้นจึงมีการดูดซึมน้อย อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณอาหารที่ต้องการรับประทาน จึงสามารถช่วยลดน้ำหนักได้

          นอกจากนี้ ไฟเบอร์สามารถช่วยขจัดสิ่งตกค้างในร่างกายและระบบทางเดินอาหาร แม้จะเห็นข้อดีมากมายขนาดนี้ เจ้าไฟเบอร์ก็มีข้อควรระวังคือ การทานไฟเบอร์ในปริมาณมาก จำเป็นต้องดื่มน้ำเปล่าในปริมาณมาก ๆ อย่างน้อยวัน 6-8 แก้วขึ้นไป เนื่องจากไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำ จะดูดซึมน้ำในระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้มีปัญหาท้องผูก ส่วนในระยะยาวอาจส่งผลให้เป็นโรคริดสีดวงทวารได้


สูตรลดน้ำหนัก


ลดน้ำหนักด้วยการทานอาหารที่มีน้ำตาลน้อย

          การบริโภคสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งของผู้ชื่นชอบรับประทานรสหวานแต่ไม่อยากมีน้ำหนักเกิน สำหรับคนปกติควรได้น้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม ใน 1 วัน ซึ่งหมายถึงทานให้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อสุขภาพ เนื่องจากคนเราได้รับน้ำตาลทางอ้อมจากอาหารประเภท แป้ง ผักผลไม้ อยู่แล้ว การบริโภคน้ำตาลมาก ๆ อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน เบาหวาน หัวใจ และความดัน

          ดังนั้นหลายคนจึงพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลแล้วหันมาทานอาหารที่ใส่สารให้ความหวานแทน ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี แต่คุณควรศึกษาส่วนประกอบแต่ละชนิด อย่างชนิดของสารให้ความหวานที่นิยมใช้ เช่น

          แซคคาริน ที่มีค่าปริมาณซึ่งได้รับต่อวันโดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ คือ 0-5 มก.ต่อน้ำหนักตัวต่อวัน

          ซูคราโลส ค่าปริมาณที่ได้รับกำหนดไว้ที่ 0-15 มก.ต่อกก.น้ำหนักตัวต่อวัน

          แอสพาร์เทม สำหรับสารให้ความหวานชนิดนี้มีข้อควรระวังของการใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารคือ ผู้ที่เป็นโรคฟีนิลคีโตนูเรีย (Phenylketonuria) จะไม่สามารถบริโภคอาหารที่มีสารนี้ประกอบได้ จึงต้องระบุคำเตือนบนฉลาก ค่าปริมาณที่ได้รับต่อวันกำหนดไว้ที่ 0-40 มก.ต่อ กก.น้ำหนักตัวต่อวัน

          อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้ถูกต้อง ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก ซึ่งการค่อย ๆ ลดน้ำตาลโดยไม่ใช้ความหวานทดแทนในอาหาร จึงเป็นวิธีการบริโภคที่ถูกต้องที่สุด


ถั่วเหลือง

ลดน้ำหนักด้วยการกินผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง

          สาว ๆ หลายคนมักมองข้ามถั่วเหลืองเพราะเวลากินจะรู้สึกอิ่ม จนทำให้คิดไปเองว่าตนเองจะอ้วนหากรับประทานเข้าไปในปริมาณที่มาก แต่คุณรู้หรือไม่ว่า "ถั่วเหลือง" เป็นแหล่งรวมโปรตีนที่มีคุณภาพสูง มีไขมันไม่อิ่มตัว และไม่มีโคเลสเตอรอล

สารสำคัญในถั่วเหลืองประกอบด้วย

          สารไอโซฟลาโวนส์ ช่วยลดการสะสมไขมันในร่างกาย และเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ จากการทำกิจวัตรประจำวัน

          สารซาโพนินในถั่วเหลือง มีคุณสมบัติไม่ละลายในเลือด ไม่เป็นสารพิษต่อร่างกาย ช่วยป้องกันน้ำตาลที่ร่างกายดูดซึม ไม่ให้แปรสภาพเป็นไขมันทำให้เยื่อบุลำไส้ทำงานดีขึ้น และการดูดซึมอาหารสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

          เส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ สามารถย่อยได้โดยจุลินทรีย์ในลำไส้ของคนเรา และเกิดเป็นพลังงานที่ไม่สามารถรวมตัวกับไขมัน ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว

          ในถั่วเหลืองมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน B1, B6, B12 วิตามิน C, D, E โพแทสเซียมและฟอสฟอรัสมาก ถั่ว 100 กรัม มีโปรตีน 38 กรัม ไขมัน 18 กรัม และให้พลังงาน 355 แคลอรี ในขณะที่เนื้อ 100 กรัม ให้โปรตีนเพียง 9 กรัม ไขมัน 13 กรัม และพลังงาน 195 แคลอรี

          ดังนั้นในกรณีที่น้ำหนักเท่ากัน เนื้อสัตว์ให้โปรตีนน้อยกว่าถั่วเหลืองมาก จึงให้แคลอรีที่น้อยกว่า การกินถั่วเหลืองจะทำให้ไม่อ้วน โดยเฉพาะนมถั่วเหลือง 200 มิลลิลิตร ให้โปรตีนเท่ากับนมวัว แต่ให้พลังงานประมาณ 80 แคลอรี ดังนั้นคนที่ต้องการลดน้ำหนักสามารถใช้วิธีดื่มนมถั่วเหลืองได้ แต่การดื่มแต่นมถั่วเหลืองอาจจะไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะแคลเซียมซึ่งพบน้อยกว่าในนมวัว ควรจะรับประทานกับอาหารที่เสริมกันอย่างผักคะน้า ที่ให้พลังงานต่ำเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

          นอกจากนี้ ควรระวังในการเลือกทานผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองที่ให้รสหวานด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การควบคุมน้ำหนักที่ถูกต้อง ก็ควรรับประทานอาหารสลับกันบ้างเป็นบางมื้อ และให้ครบ 5 หมู่ ไม่ควรทานอาหารซ้ำ ๆ กันบ่อย ๆ เพราะจะได้รับสารอาหารเหมือนเดิม และมากเกินความต้องการของร่างกายสุดท้ายก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพอย่างอื่นตามมา


  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 






ลิขสิทธิ์บทความของ e-magazine.info
ติดตามบทความ สุขภาพ หรืออ่าน แมกกาซีน




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กินแบบมือโปรยังไงก็ไม่อ้วน อัปเดตล่าสุด 16 ธันวาคม 2556 เวลา 16:26:39
TOP