อร่อยและดี สไตล์เอเชีย (Lisa)
ผักและผลไม้เชื้อสายเอเชียใกล้ตัวพร้อมเสิร์ฟด้วยสรรพคุณเต็มเปี่ยมกับรสชาติไม่เป็นสองรองใคร
มันต่อเผือก
แม้ว่าการไดเอ็ตโลว์-คาร์บ จะลดความนิยมไปแล้ว แต่อาหารพวกมันฝรั่งก็ยังมีชื่อเสียงแย่อยู่ อย่างไรก็ดี การศึกษาจาก University of Scranton ชี้ว่า หัวมันสีม่วงนั้นมีประโยชน์ดี โดยเฉพาะในคนอ้วนที่มีปัญหาความดันโลหิตสูงด้วย โดยการกินมันต่อเผือกที่มีสีม่วงเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนจะทำให้ความดันโลหิตลดลงถึงร้อยละ 4.3
Tip : อบมันต่อเผือกกับน้ำมันมะกอก และเกลือ หรือกินเหมือนมันทั่ว ๆ ไปก็ได้
สาลี่
สาลี่ผลใหญ่เพียงลูกเดียวจะให้ใยอาหารถึง 10 กรัม ซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่งของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ใยอาหารจะช่วยทั้งลอคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาล และทำให้คุณอิ่มนาน
Tip: ใส่สาลี่ร่วมกับสลัดก็ได้นะ ลองสลัดผักโขมและสาลี่ ถั่ว ดูสิ
ลิ้นจี่
จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition เมื่อปี 2006 เปิดเผยว่า ลิ้นจี่มีสารโพลีฟีนอลสูงที่สุดเป็นอันดับสองรองจากสตรอวเบอร์รี่ และมีสารดังกล่าวมากกว่าองุ่นถึงร้อยละ 15 นอกจากนี้ การวิจัยของมหาวิทยาลัยเสฉวน ยังชี้ว่า สารต้านอนุมูลอิสระในลิ้นจี่จะช่วยลดการก่อตัวของเซลล์มะเร็งเต้านมอีกด้วย
Tip: ลิ้นจี่กระป๋องก็ไม่ได้มีสารอาหารต่างกันนัก ตราบใดที่ไม่ได้แช่ในน้ำเชื่อมหวาน ลองใส่ลิ้นจี่กับสลัดก็เป็นทางเลือกที่ดีนะ
ฝรั่ง
ฝรั่งมีวิตามินซีอยู่มากกว่าส้มขนาดกลางถึง 5 เท่า ยิ่งถ้าเป็นฝรั่งขี้นกซึ่งมีเนื้อสีแดงยังมีไลโคปีน ซึ่งจะช่วยป้องกันคุณจากโรคหัวใจ และอิงจากการศึกษาโดยนักจุลชีววิทยาในบังกลาเทศ ชี้ว่า ฝรั่งยังปกป้องคุณจากเชื้อที่ติดต่อทางอาหาร เช่น Listeria และ Staph ถ้านี่ยังไม่พอ ฝรั่งขี้นกก็ยังมีทั้งใยอาหาร โพแทสเซียม โฟเลต ธาตุเหล็ก แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระชื่อแคโรทีนอยด์ในปริมาณเท่า ๆ กัน ดังนั้น ฝรั่งขี้นกจึงดีกว่าแอปเปิล กล้วย หรือองุ่นเสียอีกนะ
กวางตุ้ง
ผักใบเขียวชนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นผักอันดับหนึ่งจากแดนมังกรที่มีวิตามินเอมากกว่าปริมาณที่ต้องการต่อวันถึง 10 เท่า ภายในถ้วยเดียวเท่านั้น ด้วยความที่มันมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูงเช่นเดียวกับเพื่อนในตระกูลเดียวกันอย่างคะน้า หรือบร็อกโคลี่ จึงไม่น่าแปลกใจที่มีการศึกษาพบว่า กวางตุ้งช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งบางชนิด รวมถึงมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย
Tip: ผัดกวางตุ้งร่วมกับขิง ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก