x close

รวมมิตรเรื่องเด็ดสุดฮอตกับเทรนด์สุขภาพปี 2011


สุขภาพ

รวมมิตรเรื่องเด็ดสุดฮอตกับเทรนด์สุขภาพปี 2011 (Lisa)

          ย้อนหลังไป 12 เดือนกับทอล์กออฟเดอะทาวน์เรื่องสุขภาพทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมือถือกับมะเร็ง เชื้อโรคท้องร่วงที่ระบาด หรือแม้แต่เปลี่ยนสีตาด้วยเลเซอร์ คนทั้งโลกเค้ากำลังอินเรื่องอะไรกันอยู่ และเราจะดูแลสุขภาพตัวเองในปี 2555 อย่างไรดี มาดูกันเลย

เรื่องวุ่น ๆ ของสุขภาพที่มีการถกเถียงมากที่สุดในปีนี้

          ถ้ามีอะไรที่เราบอกได้เกี่ยวกับข่าวสารสุขภาพเมื่อปีที่ผ่านมาละก็ เราบอกได้คำเดียวว่าแซบเหลือหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินมัจจุราช ไปจนถึงผลวิจัยกลับลำ เกี่ยวกับผลของโทรศัพท์มือถือกับโรคมะเร็ง เรื่องเด่นที่ผ่านมาในปีที่แล้วมีอะไรบ้างน้า...

1.แมมโมแกรมกับตรวจเต้านมด้วยตัวเอง คุ้มมั้ย

          เมื่อปี 2009 หน่วยงาน U.S. Prevntive Services Task Force ชี้ว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องตรวจแมมโมแกรมก่อนอายุ 50 ปี แต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีงานวิจัยมากกว่าหนึ่งชิ้นที่ชี้ว่า ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ใช่ผู้หญิงยุโรป ควรตรวจแมมโมแกรมทุกปี จากนั้น ในเดือนกรกฎาคมก็มีงานวิจัยอีกชิ้นซึ่งบ่งบอกว่าการตรวจแมมโมแกรมโดยใช้คอมพิวเตอร์เข้าช่วยนั้นไม่เที่ยงตรงนัก และในเดือนกันยายนก็มีงานวิจัยอีกชิ้นที่บอกว่าทั้งแมมโมแกรมและการตรวจเต้านมด้วยตัวเองทุก ๆ เดือนนั้นเป็นประโยชน์ในการตรวจหามะเร็งเต้านม แม้แต่ในสาวรุ่นก็ตาม แล้วข้อสรุปคืออะไรล่ะ? ลองไปปรึกษาแพทย์กันก่อนดีกว่ามั้ย

2.วิตามินเสริมกำลังฆ่าคุณอยู่รึเปล่า

          เมื่อเดือนตุลาคม งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Archives of Internal Medicine ชี้ว่า หญิงสูงอายุที่กินวิตามินเสริมเป็นประจำ เช่น เหล็ก กรดโฟลิก วิตามินบี และสังกะสี กลับมีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคหัวใจและมะเร็งมากกว่าคนที่ไม่กินอะไรเลย อย่างไรก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวศึกษาแค่ความเกี่ยวข้อง ไม่ได้ชี้ว่าวิตามินเสริม ทำให้เกิดโรค และก็ไม่ได้ถามกลุ่มตัวอย่างถึงปัญหาสุขภาพที่มีอยู่แล้ว ดังนั้น ก็ยังจะต้องมีการศึกษาต่อไปอยู่ดี

3.เปลี่ยนสีตาได้ด้วยเลเซอร์

          อาจเป็นเพราะคอนแท็กเลนส์ไม่ถาวรมากพอ โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท Stroma Medical ก็ออกมาประกาศว่าเทคโนโลยีเลเซอร์ตัวใหม่ของเขาสามารถเปลี่ยนสีตาจากสีน้ำตาลให้กลายเป็นสีฟ้าได้ในระยะเวลาแค่ 20 วินาที และแม้ว่าเลเซอร์ ดังกล่าวจะยังไม่พร้อมใช้จริงในอีก 3 ปีข้างหน้า แต่ก็ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันว่า สีตาเป็นลักษณะทางพันธุกรรมอย่างหนึ่งที่สืบทอดกันมาหลายชั่วคน แล้วการเปลี่ยนสีตาโดยใช้เลเซอร์นั้นดีจริง ๆ เหรอ

4.วิ่งเท้าเปล่าดีกว่า...แน่เหรอ?

          มีการโปรโมตเรื่องวิ่งเท้าเปล่าว่าเป็นการวิ่ง ที่แท้จริงของมนุษย์ สามารถป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้รองเท้ากีฬาซึ่งไม่เป็นธรรมชาติต่อเท้าของเรา แต่ยิ่งมีคนวิ่งเท้าเปล่ามากเท่าไหร่ นักวิจัยก็ยิ่งตั้งข้อสงสัยว่ามันจะดีจริงเหรอ เพราะนั่นหมายความว่าเท้าเปล่าของเราจะต้องรับน้ำหนัก ที่ฝ่าเท้า ปลายเท้า หรือแม้แต่ส้นเท้าโดยไม่มีซัพพอร์ต ช่วยรับน้ำหนัก

5.แพทย์เตือนเด็กห้ามดูทีวีก่อน 2 ขวบ

          คำแนะนำนี้มีมานานแล้ว แต่ American Academy of Pediatrics เพิ่งประกาศอย่างเป็นทางการว่าไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบดูทีวี แต่ควรให้เล่นอย่างอิสระมากกว่า นี่อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับพ่อแม่ที่ชอบให้เด็กดู "วิดีโอเพื่อการศึกษา" ก็เป็นได้

6.กินเกลือมากอาจเสี่ยงตาย แต่กินเกลือน้อยก็เสี่ยงเหมือนกัน

          มีคำแนะนำว่าการกินโซเดียมมากจะทำให้ความดันโลหิตของเราสูงขึ้น แต่การศึกษากลับพบว่าคนที่กินเกลือน้อยต่างหากที่มีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจมากกว่าถึง 56% และแม้การลดเกลือจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคน แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังแนะนำว่าคนที่มีความดันโลหิตสูงควรจะกินเกลือให้น้อยลง

7.มือถืออาจไม่เกี่ยวกับมะเร็งก็ได้นะ

          เล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้องกันไปทั้งโลก เพราะเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกออกมา เตือนว่าการใช้โทรศัพท์มือถืออาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งจริง แต่ต่อมาในเดือนกรกฎาคม การศึกษาจากเดนมาร์กที่เผยแพร่ในวารสาร BMJ กลับบอกว่าไม่พบความเกี่ยวข้องระหว่างมือถือกับมะเร็งสักหน่อย แล้วมันยังไงกันล่ะเนี่ย? เราก็ยังต้องรอการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปน่ะสิ


สุขภาพ


เรื่องสุขภาพที่มีคนค้นหามากที่สุด

          จากคำถามเกี่ยวกับสุขภาพทั้งหลาย เว็บไซต์หมอชาวบ้าน WebMD เปิดเผยว่าในปีที่ผ่านมา "มะเร็งตับอ่อน" กลายเป็นหัวข้อที่ถูกเสิร์ชหามากที่สุดหลังการเสียชีวิตของ สตีฟ จ็อบส์ ในขณะเดียวกันก็มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเรียงตามลำดับดังนี้

          1."อาการของมะเร็งตับอ่อน" เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าพ่อ Apple สตีฟ จ็อบส์ เสียชีวิตจากมะเร็งดังกล่าว ทำให้ประชาชนทั่วไปก็อยากรู้เรื่องมะเร็งตับอ่อนมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น การเสิร์ชค้นหาสัญญาณเตือนและอาการของมะเร็งชนิดนี้จึงเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนก่อน ๆ ถึง 50% เช่นเดียวกับเมื่อสองปีที่แล้วที่นักแสดงอย่าง ไมเคิล ดักลาส ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำคอจนทำให้มีการสืบค้นมากขึ้นเช่นกัน

          2."Listeria" ในเมืองไทยเราอาจได้รับผลกระทบไม่มากนัก แต่สำหรับสหรัฐฯ แล้วปีนี้แบคทีเรีย Listeria ซึ่งส่งผ่านทางอาหารทำให้คนหลายร้อยคนป่วยและเสียชีวิตกว่า 29 ราย จากการกินแคนตาลูป กลายเป็นแบคทีเรียที่ได้รับความสนใจแทนแซลโมเนลล่า ซึ่งทำให้คนท้องร่วงในปีที่แล้ว และตั้งแต่เกิดการระบาดในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยอดชมบทความของ Listeria ก็พุ่งถึง 2,000%

          3."Bullying" เรื่องของสุขภาพจิตวัยรุ่นก็สำคัญไม่แพ้กัน เมื่อเด็กหนุ่มชาวมะกันวัย 14 ปี ฆ่าตัวตายหลังจากถูกล้อเลียนว่าเป็นเกย์ ทำให้หัวข้อเสิร์ช "การกลั่นแกล้ง" พุ่งขึ้นถึง 186% ภายในเดือนเดียว และมายงานบอกว่า 1 ใน 4 ของเด็กมัธยมล้วนเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งขณะเดียวกัน เลดี้ กาก้า ก็ออกมาตั้งมูลนิธิเพื่อต่อต้านการกลั่นแกล้งอย่างจริงจัง

          4."Dukan Diet" แม้จะเป็นเพียงข่าวลือ แต่เสียงเล่าอ้างที่บอกต่อกันว่า เคต มิดเดิลตัน ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ ใช้การลดน้ำหนักแบบ Dukan Diet เพื่อเตรียมตัวสำหรับเสกสมรส ก็ทำให้ประชาชนให้ความสนใจกับการลดน้ำหนักสูตรนี้มากมาย แม้ว่าสมาคม British Dietetic Association จะชี้ว่า Dukan Diet เป็นหนึ่งในไดเอ็ตที่แย่ที่สุดก็เถอะ (ส่วนสูตรลดน้ำหนักที่ดีที่สุดก็คือ Low-Glycemic Diet หรือการกินอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำนั่นเอง)

          5."Bath Salts" ไม่ได้หมายถึงการอาบน้ำเกลือ แต่มีชื่อการตลาดว่า "วานิลลา" หมายถึงยาเสพติดสูตรใหม่ที่นำเอาโคเคนหรือยาบ้ามาผสมกับสารอันตรายอื่น ๆ โดยเป็นตัวยากระตุ้นประสาท ทำให้ผู้เสพมีอาการก้าวร้าวรุนแรง ส่วนสาเหตุที่คนเสิร์ชกันมากก็เพราะว่ามีการประกาศแบนจาก DEA จนทำให้ยอดเสิร์ชพุ่งขึ้นกว่า 5,500%



   เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย   



ขอขอบคุณข้อมูลจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รวมมิตรเรื่องเด็ดสุดฮอตกับเทรนด์สุขภาพปี 2011 อัปเดตล่าสุด 26 มกราคม 2555 เวลา 11:03:14
TOP