อยู่ออฟฟิศก็ออกกำลังได้ ! (Lisa)
8 ชั่วโมงสำหรับการทำงานต่อวัน 3 ชั่วโมงสำหรับการเดินทาง 2 ชั่วโมงเพื่อดูละคร หนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นกับการเล่นเฟซบุ๊กอินสตาแกรม และอื่น ๆ อีกมากมาย ตารางชีวิตที่แน่นซะจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย หากยังเป็นอย่างนี้อีกไม่กี่ปีคงไม่โอ.เค. เท่าไหร่ ไหนจะเรื่องอาหารการกินที่มีแต่จะเพิ่มน้ำหนักให้คุณอีก จะดีกว่ามั้ย...ถ้าสามารถปรับเปลี่ยนชีวิตการทำงานแบบนั่งโต๊ะให้กลายเป็นการออกกำลังกายได้ในเวลาเดียวกัน ก็เพียงแค่จัดระเบียบใหม่เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเอง
เข้างานปุ๊บ ออกกำลังปั๊บ
ทันทีที่นั่งหน้าโต๊ะทำงาน เริ่มจากอะไรง่าย ๆ ด้วยท่าบริหารที่แทบไม่มีใครสังเกตได้ โดยนั่งหลังตรงขนานกับพนักเก้าอี้แล้วยกขาขึ้นมาเก้าสิบองศา เหมือนท่าเหยียดขาเวลานั่งบนพื้น ค้างไว้ 5 วินาทีแล้วทำซ้ำเรื่อย ๆ จะรู้สึกได้ถึงการเผาผลาญ ลองทำติดต่อกันสักหนึ่งสัปดาห์จะเริ่มสัมผัสได้ว่าหน้าท้องและบั้นท้ายกระชับขึ้น
ยกเครื่องออกกำลังกายมาไว้บนโต๊ะ
อย่าเพิ่งตกใจว่าจะให้ยกเครื่องวิ่งมาไว้ในห้องทำงาน เพียงแค่ให้เพิ่มอุปกรณ์ออกกำลังชิ้นเล็ก ๆ อย่างดัมบ์เบลล์ขนาดเล็กไว้ สำหรับบริหารต้นแขนในเวลาว่างนี่อาจจะดูตลกสำหรับเพื่อนร่วมงาน แต่ไม่นานก็จะเปลี่ยนเป็นค่าชมเมื่อต้นแขนของคุณดูดีขึ้น
เล่นเกมโภชนาการ
เราต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าอะไรที่ควรกินและไม่ควรกิน แต่ในเวลาที่จำกัดก็ทำให้เลือกกินได้ลำบากมากขึ้นการสร้างนิสัยการกินอาหารสุขภาพ จะต้องมีการวางแผน เริ่มต้นจากของกินเล่นก่อนก็ได้ แน่นอนว่าต้องหลีกเลี่ยงน้ำตาลและแป้งแล้วหันมาหาอะไรที่พอจะถูกปากและแคลอรีไม่สูงนัก เช่น ถั่วอบ ผลไม้สด มันดีกว่าที่จะหาซื้อของกินเล่นตามที่อารมณ์พาไป
เปลี่ยนเก้าอี้ช่วงบ่ายหายง่วงชัวร์
หลังมื้อกลางวันที่คุณมักจะรู้สึกง่วงเป็นประจำ แทนที่จะดื่มกาแฟเย็นแคลอรีสูง ลองมาลดอาการง่วงกันด้วยการเปลี่ยนจากการนั่งเก้าอี้มานั่งบนลูกบอลออกกำลังกายแทนเพียงวันละหนึ่งชั่วโมง ลูกบอลไม่เพียงแค่ส่งผลดีกับรูปร่างเท่านั้น แต่ยังเป็นการบังคับร่างกายให้นั่งหลังตรง และต้องเกร็งส่วนเขาเพื่อการทรงตัว และท่านั่งที่ไม่สบายอย่างนี้ สามารถถอดอาการง่วงได้ชะงัดนักแล
ฟิตกันเป็นกลุ่ม
ทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ออฟฟิศก็คือการมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ลองชวนเพื่อนร่วมงานเดินกลับบ้านด้วยกันแทนการนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ทำอาหารสุขภาพแล้วนำมากินร่วมกัน หรือจับกลุ่มกันออกกำลังกาย นอกจากจะได้หุ่นที่ดีขึ้นแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานยังจะดีขึ้นอีกด้วย
เทรนเนอร์คนพิเศษ
เทรนเนอร์คนสำคัญที่จะทำให้คุณไม่หลุดโฟกัสก็คือ "น้ำเปล่า" หลายคนมักดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวันทำให้มักเข้าใจผิดว่าความกระหายน้ำเป็นความหิวอาหาร หันมาดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร ไม่เพียงแต่ทำให้รูปร่างดีขึ้น แต่ยังช่วยรักษาระดับน้ำในร่างกาย ไม่ให้คุณเผลอกินจุบจิบด้วยล่ะ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย