6 วิธีกินกระชับผิว ต้านเซลลูไลต์ (MODERNMOM)
เรื่อง : น้ำต้น
อย่างที่รู้กันค่ะว่า เจ้าเซลลูไลต์ก็คือเซลล์ไขมันพองตัวที่มีกรดไขมันและสารพิษสะสมอยู่ด้วย และการจะสลายเซลลูไลต์ที่มีให้หมดไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และจะใช้การกินอย่างเดียวเข้าจัดการก็ไม่มีวันสำเร็จ แต่ต้องทำร่วมกับการออกกำลังกาย และต้องทำอย่างสม่ำเสมอทั้งวิธีการกินและออกกำลังกายค่ะ
ยังไม่มีรายงานการวิจัยที่ชัดเจนว่า อาหาร หรือสารใดที่ช่วยลดเซลลูไลต์ได้โดยตรง แต่เชื่อกันว่าอาหารการกินและแนวทางการกินที่ช่วยส่งเสริมระบบการเผาผลาญอาหาร การไหลเวียนเลือด และขับล้างสารพิษตกค้าง มีส่วนช่วยลดการสะสมของเซลลูไลต์และไขมันส่วนเกินได้ แม้มันจะเป็นวิธีการทางอ้อมในการจัดการกับเซลลูไลต์ แต่การกินเพื่อมุ่งผลลัพธ์เหล่านี้ก็เป็นผลดีกับสุขภาพ และรูปร่างทรวดทรงที่คุณห่วงใย ถ้าทำได้ย่อมเป็นผลดีกับตัวเองค่ะ
1.ครบและหลากหลาย
เป็นหลักครอบจักรวาลที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ คือ กินอาหารให้ครบหมวดหมู่และหลากหลาย เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งไป เพียงแต่ลดสัดส่วนของอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมันลง และพยายามเน้นหนักที่ผักผลไม้ให้มาก เพราะกากใยจะช่วยขับล้างสารพิษตกค้างในร่างกาย อีกทั้งวิตามินซีและวิตามินอีนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ผิวหนังกระชับขึ้น
ควรเน้นอาหารกลุ่มที่มีกรดไขมัน ถั่ว น้ำมันปลา เมล็ดพืชที่ช่วยการไหลเวียนของโลหิต และกินอาหารโปรตีนไขมันต่ำเป็นประจำ เนื่องจากร่างกายใช้พลังงานในการย่อยอาหารพวกโปรตีน มากกว่าการย่อยไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรตถึงสองเท่า เรียกว่าอิ่มเท่ากัน แต่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญมากกว่า นอกจากนี้ สารแอลบูมินที่มีอยู่ในอาหารกลุ่มโปรตีนไขมันต่ำจำพวกถั่ว ยังสามารถช่วยลดระดับของเหลวที่สะสมในเซลล์ไขมันได้ ทำให้กระบวนการไหลเวียนของโลหิตกับน้ำเหลืองคล่องตัว และเพื่อให้ได้ผล ควรลดอาหารเค็มควบคู่ไปด้วย
2.ลดให้อาหารเซลลูไลต์
เพราะยิ่งกินเท่ากับสนับสนุนให้ร่างกายสะสมเซลลูไลต์และไขมันส่วนเกิน อาหารกลุ่มนี้ได้แก่
อาหารทั้งมันและหวาน อาหารที่ให้พลังงานสูง ๆ โดยเฉพาะอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ซึ่งจะไปเพิ่มอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหนังหย่อนยานลง เกิดริ้วรอย และเพิ่มแคลอรี่ให้กับร่างกายด้วย ถ้ากินมากไปร่างกายใช้ไม่หมดก็จะเกิดการสะสมเซลลูไลต์และไขมันส่วนเกิน ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น
น้ำตาลแลคโตสในผลิตภัณฑ์นมวัว เพราะยิ่งอายุมากขึ้นความสามารถในการย่อยน้ำตาลชนิดนี้จะลดลง
กาเฟอีนจากน้ำชา กาแฟ เพราะจะไปกดสมดุลฮอร์โมน ทำให้ร่างกายขาดน้ำ แม้แต่กาแฟที่อ้างว่าดื่มแล้วช่วยลดความอ้วนก็ควรเลี่ยงค่ะ ยิ่งถ้าปกติเป็นคนไม่ดื่มกาแฟอยู่แล้วยิ่งไม่ควรซื้อมาดื่ม เพราะปกติเราไม่ได้ดื่ม แต่พอหันมาดื่ม ร่างกายก็ต้องรับสารให้ความหวานเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ แต่ถ้าเป็นคนดื่มชา กาแฟเป็นนิสัย แนะนำให้ค่อย ๆ ปรับมาเป็นชาเขียว หรือชาผลไม้ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
อาหารที่ผ่านกระบวนการแปลงสภาพมากจนจำไม่ได้ว่าทำมาจากอะไร เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอก แหนม หมูแผ่น หมูหย็อง ขนมปัง คุกกี้ เบเกอรี่ทุกชนิด เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นสปาเกตตี อาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูป เพราะอาหารเหล่านี้มักมีสารปนเปื้อนและสารพิษที่จะไปตกค้างในร่างกายและเซลล์ไขมันได้
อาหารเค็มจัด เพราะจะยิ่งเพิ่มการคั่งของสารน้ำในเซลล์ไขมันมากขึ้น
แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในเบียร์และไวน์ เพราะหากดื่มมาก ๆ จะกลายเป็นสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกายและเซลล์ไขมัน ซึ่งนั่นคือที่มาของเซลลูไลต์ กลุ่มนี้งดหรือเลิกขาดได้ก็เยี่ยมเลยค่ะ
3.กินอย่าได้อด
แม้จะมีข้อแนะนำให้ควบคุมอาหาร ป้องกันตัวเองไม่ให้อ้วนขึ้น แต่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใจร้อนด้วยการปล่อยให้ร่างกายขาดอาหารหวังกระชากน้ำหนักลงในเวลาอันสั้น หรือจำกัดปริมาณอาหารมากจนเกินไป น้ำหนักที่ลดฮวบไปในช่วงแรกเป็นมวลกล้ามเนื้อถูกเผาผลาญไม่ใช่ไขมัน เมื่อกล้ามเนื้อหายไป การเผาผลาญก็จะแย่ลง คุณจึงกลับมาอ้วนได้ง่ายกว่าเดิมอีก ทางที่ดีกินอาหารให้เพียงพอกับความต้องการ โดยเลือกกินตามข้อแนะนำข้างต้น และแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ 3-4 มื้อต่อวัน จะเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่า โดยมื้อสุดท้ายของวันควรเป็นมื้อเบา ๆ และลดหรืองดแป้งและน้ำตาลในมื้อนี้
4.อย่างดมื้อเช้า
การอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ระบบสงวนพลังงาน โดยการลดอัตราการเผาผลาญลง และทำให้ร่างกายเก็บสะสมพลังงานอย่างเต็มที่ในรูปของไขมัน
5.เน้นอาหารธรรมชาติ
ปรุงแต่งให้น้อย แน่นอนว่าหลักการนี้จะคิดถึงอะไรไปไม่ได้ นอกจากผักผลไม้สด ๆ โดยจะกินเป็นสลัด ตำ ยำ กับน้ำพริก ก็เลือกได้ตามชอบ หรือเมนูที่ผ่านความร้อนไม่เกิน 100 องศา ใช้เวลาปรุงไม่นาน ประโยชน์จากการกินอาหารแบบนี้คือ ช่วยฟื้นฟูพลังงานและผิวพรรณ ทั้งยังช่วยดูแลระบบย่อยอาหารและควบคุมน้ำหนักได้ แถมคุณค่ายังรับไปแบบเต็ม ๆ ตัดโอกาสการตกค้างของเสียได้อีกด้วย
6.ดื่มน้ำให้มาก
น้ำเป็นส่วนสำคัญในการเผาผลาญไขมันและการไหลเวียนของเลือด ของเสียในร่างกาย ถ้าร่างกายขาดน้ำ การทำงานของระบบเหล่านี้ก็จะคล่องตัวน้อยลง ดังนั้นควรดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน ลองใช้สูตร 1 2 3 3 1 คือดื่มน้ำเปล่า 1 แก้วหลังตื่นนอน 2 แก้วในตอนสาย 3 แก้วสำหรับช่วงบ่าย และอีก 3 แก้วสำหรับช่วงเย็น สุดท้าย 1 แก้วก่อนนอน
โดยหากแก้วแรกของวันเป็นน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวครึ่งซีกและพริกป่นอีกหยิบมือหนึ่ง ก็จะช่วยทั้งระบบเผาผลาญและล้างพิษไปด้วยในตัว รสเปรี้ยวของมะนาวจะกระตุ้นน้ำย่อยและการปล่อยน้ำดีจากตับ ส่วนพริกป่นก็จะช่วยกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารและเร่งอัตราการเผาผลาญ รวมทั้งช่วยขับสารพิษจากเซลล์ไขมัน ประโยชน์หลายสถานในแก้วเดียวค่ะ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก