เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่าบุหรี่นั้นเป็นหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด แต่ก็ยังไม่วายมีผู้ป่วยจากโรคมะเร็งปอดเพราะการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ทั้งในเพศชายและเพศหญิง และในอีกราว 30 ปีข้างหน้านี้ จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดคงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า โดยเฉพาะในอังกฤษ ที่มีแนวโน้มว่าผู้หญิงจะเป็นมะเร็งเพิ่มจากปัจจุบันมากกว่า 3 เท่า คือจาก 26,000 ราย กระโดดไปถึง 95,000 ราย ภายในปี 2040 คิดเป็น 365% !! ... และสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นผลพวงมาจากการโฆษณาของผู้ผลิตบุหรี่ ที่ทำให้พวกเธอคิดว่า "บุหรี่สูบแล้วผอม"
เว็บไซต์เดลิเมลรายงานผลการวิจัยของนักวิจัยจากสถาบัน คิงส์ คอลเลจ กรุงลอนดอน ที่ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารมะเร็งของอังกฤษ ซึ่งศึกษาพบว่า สถิติผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดในผู้หญิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ในขณะที่สถิติการป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดของผู้ชายค่อนข้างคงตัวแล้ว คือภายในปี 2040 จะมีผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดชายราว 42,000 ราย จากปัจจุบันมี 39,000 ราย เพิ่มขึ้นประมาณ 8% เท่านั้น
ผู้หญิงอังกฤษเริ่มหันมาสูบบบุหรี่กันมากขึ้นตั้งแต่ช่วงยุค 60\'s-70\'s ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ผลิตบุหรี่เริ่มกันมาจับกลุ่มลูกค้าสตรีมากขึ้น ด้วยการแฝงความคิดลงไปในโฆษณาเพื่อทำให้ผู้หญิงคิดว่า สูบบุหรี่แล้วจะทำให้ผอมและดูดี สังเกตได้จากภาพโฆษณาบนซองของบุหรี่ยี่ห้อ Virginia Slim ในยุคนั้น ที่ใช้นางแบบหุ่นดีหน้าตาดี ในมือคีบบุหรี่มวนยาวเรียว กอปรกับยังมีสโลแกนออกมาจากบุหรี่หลาย ๆ ยี่ห้อว่า บุหรี่คือสัญลักษณ์ของความมีเสน่ห์ดึงดูด น่าค้นหา เป็นผู้หญิงเก่ง มีสไตล์ ฯลฯ ส่งผลให้สาวอังกฤษในยุคนั้นสูบบุหรี่กันมากขึ้น
สุดท้ายในอีก 30-40 ปีให้หลัง คนกลุ่มนี้ก็ทยอยแสดงอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดออกมา และพบได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สถิติผู้ป่วยมะเร็งปอดในผู้หญิงเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัวอย่างน่าตกใจตามที่กล่าว โดยมันแทบจะกลายเป็นโรคประจำตัวของหญิงอังกฤษวัย 50 ปีขึ้นไปเสียแล้ว นอกจากนี้ เหตุที่ผู้ป่วยหญิงแสดงอาการช้ากว่าผู้ป่วยชายด้วยมะเร็งปอดก็เพราะว่า บุหรี่สำหรับผู้หญิงมีขนาดมวนที่เรียวเล็กกว่า จึงใช้เวลาสะสมมะเร็งนานกว่านั่นเอง
ทั้งนี้ โรงมะเร็งปอด เป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในหญิงอังกฤษ รองลงมาจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ ทว่ามันเป็นหนึ่งในมะเร็งร้ายแรงที่คร่าชีวิตชาวอังกฤษไปมากที่สุดด้วย โดยมีสถิติผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยมะเร็งปอดในอังกฤษมากถึงปีละ 35,000 ราย นับเป็นสถิติที่สูงกว่าโรคมะเร็งร้ายแรงชนิดอื่น ๆ เพราะกว่าโรคจะแสดงอาการให้ผู้ป่วยรู้ตัว ก็มักจะเข้าสู่ระดับที่ยากแก่การรักษาแล้ว ราว 10% ของผู้ป่วยที่พบว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งปอด จะได้รับคำวินิจฉัยจากแพทย์ว่า มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 5 ปีเท่านั้น
แต่ทั้งที่มันมีสถิติคร่าชีวิตผู้ป่วยไปสูงขนาดนี้แล้ว ในประเทศอังกฤษ มันกลับเป็นโรคมะเร็งที่ได้ทุนสนับสนุนการวิจัยต่ำกว่าโรคมะเร็งอื่น ๆ .. ซึ่งสมควรแก่เวลาแล้วที่จะได้รับการปรับปรุงและหันมาตระหนักถึงภัยของมันมากขึ้น ทั้งในแง่ของการวิจัยเพื่อการรักษา และการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่กันอย่างจริงจัง .. เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การสูบบุหรี่ไม่ได้ทำให้ผอมแล้วดูดีอย่างที่เคยเข้าใจ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
