สีของผม...สะท้อนสุขภาพของเธอ (ไทยโพสต์)
เส้นผมคือสิ่งที่สะดุดตาที่สุดในตัวคนเรา เราหลายคนจึงหมกมุ่นอยู่กับมันตลอดเวลา แต่ถึงแม้คนเราจะใช้เวลามากมายไปกับการเสริมแต่งผม แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งซึ่งน่าสนใจทีเดียว ที่พวกเราอาจไม่รู้ว่า ภายใต้ความเงางามและสีสันของเส้นผมนั้นก็เป็นตัวชี้วัดถึงสุขภาพได้เหมือนกัน
หากว่าคุณผมสีบลอนด์...
ปกป้องดวงตาของคุณ
ผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งอาจทำให้ตาบอดมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงผมสีอ่อน การบริโภคสารประกอบธรรมชาติอย่างลูทีนและซีแซนธีน ซึ่งพบในกะหล่ำเขียว ผักโขม และถั่วลันเตา จะช่วยป้องกันโรคได้ คุณควรกินผักสีเขียวอย่างน้อย 1 ถ้วยทุก ๆ วัน และการกินสลัดนั้นคือวิธีที่ดีที่จะทำให้คุณกินผักได้เพียงพอ
ปกปิดผิวกาย
เมลานีนคือเม็ดสีผิวซึ่งช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ผู้หญิงผมบลอนด์นั้นผลิตเมลานีนได้น้อยกว่า ทำให้ผิวของพวกเธอ โดยเฉพาะบริเวณหนังศีรษะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งเมลาโนมา ควรใช้ครีมกันแดดเอสพีเอฟ 30 ที่ช่วยปกป้องสูงสุดจากรังสียูวีเอและยูวีบี และสวมหมวกทุกครั้งที่ออกไปเผชิญกับแสงแดดโดยตรง
หากว่าคุณผมสีเข้ม...
จงห่วงผมของคุณ
ผู้หญิงอเมริกันกว่าครึ่งจาก 30 ล้านคนที่มีปัญหาผมร่วงนั้นมีผมสีเข้ม นั่นอาจเป็นเพราะว่าพวกเธอมีผมที่บางกว่า ผมสีน้ำตาลมีความหยาบและหนากว่าสีบลอนด์หรือแดง ร่างกายจึงผลิตเส้นผมน้อยลง ดังนั้น เมื่อรูขุมขนเริ่มฝ่อตัว จึงทำให้มองเห็นรอยผมแหว่งได้ชัดเจน การมีธาตุเหล็กต่ำนั้นเกี่ยวข้องกับผมร่วง คุณควรกินธาตุเหล็ก 18 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย จะช่วยเติมเต็มในส่วนนี้ได้
เลิกสูบบุหรี่ซะ
ผมสีเข้มนั้นเกิดจากการมีเมลานีนมาก และนั่นอาจทำให้คุณติดนิโคตินง่ายขึ้น เนื่องจากเมลานีนทำให้ตับกำจัดสารเสพติดได้ช้าลง และยิ่งสารตกค้างอยู่ในร่างกายคุณนานเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเสพติดเร็วขึ้นเท่านั้น วิตามินซีช่วยให้ตับมีสุขภาพดี คุณจึงควรกินวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัมในรูปของพริกแดงครึ่งถ้วยหรือส้มขนาดกลางหนึ่งลูก แต่แน่นอนว่าวิธีที่ดีที่สุดคือไม่ต้องหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีก
หากว่าคุณผมสีแดง...
ยังไม่ค่อยชา
ผู้หญิงผมแดงมีดีเอ็นเอกลายพันธุ์ซึ่งได้รับสืบทอดทางพันธุกรรม ทำให้พวกเธอทนทานต่อสารระงับความรู้สึกทั้งแบบทั่วไปและแบบท้องถิ่น สาวผมแดงนั้นอาจต้องรับยาชามากกว่าสาวผมบลอนด์หรือผมเข้มถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ได้ผลเท่ากัน ครั้งหน้าที่คุณไปหาหมอฟัน คุยกับหมอก่อนเรื่องการระงับปวดก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ หรือกินยาแก้ปวด 500 มิลลิกรัมก่อนออกจากบ้าน
ระวังโรคพาร์กินสัน
ผลวิจัยจากฮาร์วาร์ดเผยว่า คนที่มีผมสีแดงมีโอกาสถึงเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นโรคพาร์กินสัน ทำไมน่ะเหรอ อาจเพราะการกลายพันธุ์ของยีนแบบเดียวกันนั่นแหละ มันมีผลกระทบต่อยีนอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งเมื่อกลายพันธุ์แล้วจะสามารถมีความเชื่อมโยงกับโรคพาร์กินสัน กรดโฟลิกนั้นอาจช่วยชะลอการลุกลามของโรค คุณควรกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน โดยกินในรูปของวิตามินรวมก็ได้
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก