เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คุณสามารถตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูโดยไม่ปวดแขนได้ไหม หรือสามารถเข็นรถที่น้ำมันหมดไปจอดหลบข้างทางได้หรือเปล่า คำตอบสำหรับผู้หญิงในสมัยรุ่นคุณทวดยังสาวคงจะบอกว่า "ใช่" อย่างไม่ต้องลังเล แต่สำหรับผู้หญิงยุคนี้แล้วล่ะก็ ส่วนใหญ่แค่ฟังชื่อภารกิจแต่ละอย่างก็รีบส่ายหน้าแล้วว่าคง "ทำไม่ได้" อย่างแน่นอน
สิ่งที่กำลังคุกคามคนทั่วโลกอยู่ในตอนนี้ คือ ผู้คนในยุคปัจจุบันอ่อนแอกว่าคนรุ่นก่อนมากมาย ไม่ต้องเทียบย้อนกลับไปไกลถึงสมัยดึกดำบรรพ์ แค่รุ่นปัจจุบันไปเทียบกับรุ่นทวดก็พอ โดยเฉพาะในผู้หญิงซึ่งสาว ๆ สมัยนี้ที่รักจะมีรูปร่างอ้อนแอ้นบอบบาง ต่างคนต่างโหมลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารจนท้องไส้แห้งกิ่ว และกลับมองว่าร่างกายที่มีมัดกล้ามเนื้อนั้นดูไม่สวยงามไม่สมเป็นผู้หญิงเอาเสียเลย ผลการศึกษาสำรวจเรื่องความแข็งแรงของร่างกาย ของดอกเตอร์แกรนท์ ทอมป์กินสัน มหาวิทยาลัยเซาธ์ออสเตรเลีย พบว่าความอึดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในเพศหญิงแถบประเทศยุโรปอย่างอังกฤษ อเมริกา และแคนาดา ลดลงจากผู้หญิงวัยเดียวกันในยุค 80\'s ราว 8-10% ดูอย่างจำนวนครั้งในการซิทอัพหรือวิดพื้นลดลงจากแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด
"ดูเหมือนว่าช่วงที่ผู้คนจะมีร่างกายฟิตและแข็งแรงที่สุดในช่วงปี 1985 จากนั้นคนเราก็เริ่มมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกลับลดถดถอยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิง สาว ๆ หลายคนไร้ซึ่งกล้ามเนื้อลำตัวที่แข็งแรงพอที่จะช่วยพยุงกระดูกสันหลัง ในขณะที่สาวอ้วนจำนวนมากก็ไม่มีกล้ามเนื้ออยู่ใต้ชั้นไขมันของพวกเธอเลยแม้แต่น้อย"
ภาวะกล้ามเนื้อขาดความแข็งแรงในผู้หญิงเป็นปัญหาสุขภาพที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มันไม่ใช่แค่ส่งผลเรื่องการออกกำลังในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่านั้น เช่น โรคกระดูกพรุน ข้อต่ออักเสบ และอาการปวดหลังด้วย
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหากล้ามเนื้อไร้กำลังในผู้หญิงขึ้น เนื่องจากค่านิยมที่อยากจะรูปร่างดี แต่เป็นความรูปร่างดีที่อยู่บน "ความผอม" หาใช่ "ความแข็งแรง" พวกเธอพยายามกำจัดไขมัน พยายามเผาผลาญพลังงานให้ได้มาก ๆ ด้วยหนทางสารพัดอย่างที่ไม่ใช่การออกกำลังกาย เธอหลีกเลี่ยงการยกน้ำหนัก ไม่วิดพื้น เพราะกลัวว่ากล้ามจะขึ้นแล้วจะทำให้เธอดูบึกบึนไม่สวยงาม แต่ความจริงแล้วร่างกายของผู้หญิงนั้นเป็นร่างกายที่สะสมไขมัน และบึกบึนได้ยากกว่าผู้ชายหลายเท่า เนื่องด้วยเพศหญิงมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอันเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อน้อยกว่าผู้ชาย ซ้ำร้ายความคิดที่ว่าไม่ชอบออกกำลังกายยังเริ่มตั้งแต่วัยแรกสาว จากการสำรวจเด็กวัย 14 ปีจำนวน 1,500 ราย ของมูลนิธิ Women’s Sport and Fitness พบว่าเด็กสาวกว่าครึ่งบอกว่าการออกกำลังกายและมีเหงื่อ "ดูไม่เป็นผู้หญิง" นอกจากนี้เด็กชาย 2 ใน 3 ก็ยังบอกว่าเด็กหญิงที่เล่นกีฬาเก่งดูไม่น่ารักสมเป็นเด็กผู้หญิงอีกด้วย
ความคลั่งผอมและควบคุมอาหารอย่างเข้มข้นของผู้หญิง ยังทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะขาดโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญมากต่อกล้ามเนื้อ โดยโปรตีนจะถูกใช้เพื่อเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนที่เสียหาย นอกจากนี้หากร่างกายได้รับไปรตีนจากอาหารไม่เพียงพอ ก็จะดึงโปรตีนสะสมที่อยู่ในกล้ามเนื้อออกมาใช้ จึงยิ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอลงกว่าเดิมด้วย
ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนในยุคนี้มีกล้ามเนื้อที่อ่อนแอลง ในปัจจุบันเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นานา มีลิฟต์ที่ช่วยให้ไม่ต้องเดินขึ้นบันได มีรถขับเพื่อช่วยให้การเดินทางไปที่หมายง่ายขึ้น มีรีโมทที่ช่วยให้การเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ง่ายเพียงปลายนิ้ว และยังมีชั่วโมงการทำงานที่อยู่กับที่อีก 8 ชั่วโมง ที่ทำให้เราได้นั่งอยู่กับเก้าอี้มีเอกสาร และจอคอมพิวเตอร์อยู่ด้านหน้าทั้งวัน โดยไม่ต้องลุกขยับหรือละสายตาไปไหน ทุกสิ่งอย่างล้วนแต่ทำให้เราใช้กล้ามเนื้อน้อยลง กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง และไม่สามารถออกแรงทำงานหนัก หรือต้องใช้พละกำลังมาก ๆ ได้ดีอีกต่อไป
กล้ามเนื้อที่แข็งแรงสำคัญต่อสุขภาพของร่างกาย เพราะมันทำหน้าที่ช่วยโยงใยและพยุงร่างกายเอาไว้ ทั้งยังปกป้องกระดูกและข้อต่อ การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงทำให้สามารถออกแรงและควบคุมร่างกายให้เคลื่อนไหวได้อย่างใจ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังจะล้มลง คุณก็สามารถจะควบคุมท่าที่คุณจะล้มได้เพื่อลดอาการบาดเจ็บให้น้อยลง เป็นต้น นอกจากนี้การที่กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงเพียงพอ โดยเฉพาะบริเวณรอบ ๆ ลำตัว ยังส่งผลถึงปัญหาปวดหลังอีกด้วย ปกติแล้วกล้ามเนื้อรอบ ๆ ลำตัวจะช่วยพยุงแกนกลางขณะที่ยืดตัว แต่หากกล้ามเนื้อส่วนนี้ไม่แข็งแรง ภาระการพยุงแกนกลางหรือกระดูกสันหลังก็จะไปตกอยู่กับกล้ามเนื้อมัดเล็กที่หลัง และทำให้เกิดอาการปวดหลังตามมาเนื่องจากกล้ามเนื้อส่วนนี้ถูกเหยียดออกและใช้งานมากเกินไป ไม่ใช่แค่เพียงกล้ามเนื้อที่หลังเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเส้นเอ็น และหมอนรองกระดูกสันหลังก็จะรับแรงกดมากขึ้น หากเป็นเช่นนี้ไปนาน ๆ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง ตามมาด้วยปวดคอ ปวดไหล่ ปวดข้อเท้า และแม้แต่หัวเข่า โดยปัญหาเหล่านี้จะยิ่งรุนแรงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น แต่ก็สามารถป้องกันได้ง่าย ๆ และมีประสิทธิภาพด้วยการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงเท่านั้นเอง
การเป็นผู้หญิงสวย ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องผอม บอบบาง การเป็นคนแรงน้อยไม่ได้ทำให้ผู้หญิงดูน่าทะนุถนอม หรือน่าปกป้องเสมอไป การสวยแบบสุขภาพดีมีรูปร่างที่สมส่วน และแน่นอนว่ามีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงสามารถใช้แรงออกกำลังได้ตามสมควร ดีต่อสุขภาพของคุณมากกว่า แถมการออกกำลังกายก็ทำให้คุณควบคุมน้ำหนักและรูปร่างได้ดีด้วย .. หันมาดูแลตัวเองอย่างถูกต้องกันดีกว่านะคะสาว ๆ เพื่อสุขภาพของคุณในตอนนี้และต่อไปในระยะยาว .. ในวัยที่ควรจะฟิตสุด ๆ อย่างนี้ถ้าโดนบอกว่าเหลาะแหละอ่อนแอกว่าคนรุ่นทวดนี่อายแย่เลยเนอะ ;)
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
