มหัศจรรย์พลังสีบำบัด Colour Therapy (Momypedia)
หลักปฏิบัติง่าย ๆ ของ Colour Therapy ที่กำลังนิยมและแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน เน้นไปที่การจัดบรรยากาศรอบ ๆ ตัว ทั้งที่บ้าน โต๊ะทำงาน หรือการแต่งกายด้วยสีสันต่าง ๆ ซึ่งสามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ
แต่งบ้านด้วยสีสัน
ห้องนั่งเล่น : ห้องแรกที่เป็นศูนย์กลางของทุกคนในบ้าน การเลือกสีสำหรับห้องนี้อาจเป็นสีที่ผ่อนคลาย หรือเป็นสีที่มีความสนุกสนานก็ได้ตามความต้องการของสมาชิกในบ้าน เราอาจใช้สีมาช่วยดึงดูดความสนใจที่โซฟาตัวยาว หมอนอิง แจกันดอกไม้ เฟอร์นิเจอร์รูปร่าง สีสันแปลก ๆ หรือรูปภาพขนาดใหญ่ก็ได้ค่ะ ห้องทำงาน ห้องสมุด : เลือกสีที่สร้างสมาธิหรือความคิดสร้างสรรค์ แต่ถ้าบางคนชอบสีขาวสะอาดตา อาจใช้ต้นไม้สีเขียว รูปภาพสีสดใสมาช่วยเบรกอารมณ์ก็ได้ค่ะ ห้องนอน : ห้องนอนเป็นห้องที่เจ้าของจะใช้เวลาอยู่มากที่สุด การเลือกใช้สีในห้องนี้ จึงสามารถเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของเจ้าของได้ค่ะ หรือจะเลือกเปลี่ยนเฉพาะสีของผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนหรือผ้าม่าน ซึ่งของเหล่านี้เปลี่ยนแปลงสีและรูปแบบได้ง่ายตามแต่เจ้าของเลือกจะเปลี่ยน ให้เป็นอารมณ์ไหน หลอดไฟเปลี่ยนสี : อีกวิธีง่าย ๆ ที่คุณ ๆ ต้องการเปลี่ยนสี บรรยากาศภายในห้อง คือการนำกระดาษแก้วที่เป็นสีต่าง ๆ มาพันรอบหลอดไฟ แต่ต้องระวังไม่ให้อยู่ใกล้หลอดไฟ เพราะจะทำให้ไหม้ได้ค่ะ ทีนี้เราก็จะสามารถเปลี่ยนสีของห้องได้ตามอารมณ์ได้เลย
แต่งโต๊ะทำงานด้วยสีสดใส โต๊ะทำงาน : มองเห็นโต๊ะทำงานตัวเองทีไร ละเหี่ยใจทุกที เพราะมีงานกองสุมอยู่เต็มไปหมด แต่จะให้หันไปเปลี่ยนสีออฟฟิศก็คงเป็นไปไม่ได้ (แม้จะแอบฝันอยู่) ลองหาดอกไม้สีสันสดใสสักช่อ หรือต้นไม้สีเขียว ๆ สักต้น เอามาวางไว้ข้าง ๆ คอมพิวเตอร์ หรือรูปภาพวิวทิวทัศน์ ก็ทำให้สมองแล่นได้ค่ะ 
แต่งตัวด้วยสีมีชีวิตชีวาสีสันของเสื้อผ้าสามารถนำมาผสมผสานกันได้หลากหลายเลยทีเดียว สีโทนร้อน โทนเย็นก็สามารถนำมาใส่ตัดกันได้ หรือจะใส่คุมโทนสี เหลืองส้มซาบซ่า ฟ้าขาวสะอาดตาก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด มิหนำซ้ำ ผ้าลายดอกไม้ หรือลายกราฟฟิกสวย ๆ เก๋ ๆ ก็ทำให้อารมณ์ของเราเปลี่ยนเหมือนกัน
ม่วง : สร้างความสงบให้จิตใจและร่างกาย ดีต่อการทำสมาธิหรือสวดมนต์ ส่งเสริมให้สง่าผ่าเผย สีม่วงควรใช้ในห้องพระ หรือห้องสวดมนต์ ฟ้า : สงบ ใจเย็น ระงับความกระวนกระวายได้ดี ช่วยกระตุ้นสัญชาตญาณ ใช้ในสถานที่สงบเงียบ เช่น ห้องนอน ห้องทรีทเม้นท์ หรือนำไปใช้ในห้องสมุดยังช่วยให้เรียนรู้ ความจำดีขึ้นด้วย น้ำเงิน : สงบ ผ่อนคลาย เป็นสีที่ช่วยในการติดต่อสื่อสาร ควรใช้เมื่อต้องการความเป็นระเบียบ หรือบรรยากาศการเป็นพวกพ้อง ไม่ควรใช้เมื่อรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง ใช้ได้ทุกห้อง ยกเว้นห้องกิจกรรมหรือห้องเล่น เขียว : ก่อให้เกิดความสมดุล ประสานงาน ส่งเสริมความเข้าใจ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาทิศทาง ความเป็นตัวของตัวเอง ใช้เมื่อต้องการผ่อนคลายความเครียด สร้างเซลล์ใหม่ให้แก่ร่างกาย เหมาะกับห้องพักผู้ป่วย หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวมาก ๆ เหลือง : เป็นสีของนักแสดง ทำให้เกิดความโดดเด่น ท้าทาย เป็นอิสระ ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น (เหมาะกับร้านอาหารหรือห้องอาหาร) หรือผู้ที่ต้องการอยู่กับความสนุก แต่ไม่ควรใช้เมื่อคุณรู้สึกกลัว หรือไม่ต้องการมีจุดสนใจ ส้ม : เป็นสีของนักกีฬา ความแข็งแรง และพลังสร้างสรรค์ ทะเยอทะยาน เหมาะสำหรับออฟฟิศที่ต้องการเพิ่มพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่ควรใช้เมื่อคุณกำลังเหนื่อยหรือต้องการพักผ่อน แดง : เป็นสัญลักษณ์ของความตื่นตัว ให้พลังอำนาจ เป็นแรงกระตุ้นความกระตือรือร้น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต หากยังตัดสินใจอะไรไม่ได้หรือรู้สึกว่าตนเองกำลังท้อถอย ให้ลองมองจ้องรูปสีแดงสักพักความมหัศจรรย์ของสีเกิดจากคุณสมบัติของสีที่มีความถี่ของคลื่นแม่เหล็กแตกต่างกัน และสามารถนำไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อจัดสมดุล ความรู้สึกที่ได้รับจากสีนั้นไม่เพียงแต่จะรับรู้ทางสายตาเท่านั้น ยังสัมผัสได้ทางความรู้สึกและผิวหนังด้วย โดยร่างกายเราจะรับปฏิกิริยาความถี่ของคลื่นแม่เหล็กของสีแต่ละชนิดต่างกันด้วยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
