x close

5 โยคะสำหรับสาวต่างสไตล์ แบบไหนเหมาะกับคุณ?!


โยคะ


5 โยคะสำหรับสาวต่างสไตล์ แบบไหนเหมาะกับคุณ ?! (Lisa)

          ฟิตแอนด์เฟิร์มด้วยโยคะยังคงเป็นเรื่องฮอตฮิตไม่มีทีท่าจะตกเทรนด์ไปง่าย ๆ มีสารพัดแบบสารพันคอร์สออกมาให้เลือกจนตาลาย แต่สาว ๆ อยากอินเทรนด์ไม่ต้องตกใจ เลือกให้เหมาะกับตัวเองไม่ยากเลย ! โดยคุณยุทธนา พลเจริญ (ครูจิมมี่) เลขาธิการองค์กรโยคะนานาชาติ ประจำประเทศไทย (I.Y.F.) บอกว่า พื้นฐานของโยคะเหล่านี้หลายสไตล์ก็ใกล้เคียงกัน หรือไม่ก็พัฒนาต่อยอดกันขึ้นมา แบ่งให้เข้าใจง่าย ๆ ก็มีอยู่ประมาณ 5 กลุ่ม สำหรับสาว 5 สไตล์เท่านั้นเอง


โยคะ

สาวบ้าพลัง

          ถ้าคุณเป็นคนที่ค่อนข้างสมาธิสั้นหรืออยากเสริมสร้างความแข็งแรงและกระชับกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกาย ควรเลือกโยคะที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องไม่มีหยุดพักควบคู่ไปกับการกำหนดลมหายใจ และเน้นใช้พละกำลังความแข็งแรงของร่างกายซึ่งได้แก่ Ashtanga Yoga (อัษฎางคโยคะ) ที่เป็นต้นแบบของโยคะในกลุ่มนี้ทั้งหมด แต่มีท่าทางที่เรียงลำดับอย่างชัดเจน Vinyasa Yoga (วินยาสะโยคะ) ที่ประยุกต์โดยการนำท่าทางของอัษฎางคโยคะมาสลับลำดับ หรือ Power Yoga (พาวเวอร์โยคะ) ที่ครูผู้สอนจะครีเอทลำดับท่าทางโดยเน้นความหนัก-เบาแตกต่างกันไปตามสไตล์ของแต่ละคน


โยคะ


สาวนิ่ง ๆ เนิบ ๆ

          ถ้าคุณไม่ชอบอะไรที่รวดเร็วนัก หรือมีข้อจำกัดทางด้านร่างกายก็ควรเลือกโยคะที่ฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป มีการค้างท่าเล็กน้อยเพื่อพิจารณาท่วงท่าและจัดระเบียบร่างกายควบคู่ไปกับการฝึกหายใจ เช่น Iyengar Yoga (ไอเยนคาร์โยคะ) ที่เน้นการจัดระเบียบท่วงท่าให้เป๊ะและดูสวยงามในเวลาเดียวกัน รวมถึงอาจจะมีการใช้อุปกรณ์เสริมพวกเก้าอี้ช่วยในการเล่นด้วย หรือ Hatha Yoga (หฐะโยคะ) ซึ่งอาจไม่ได้เน้นความสวยเป๊ะมากเท่าไอเยนคาร์ มีการค้างนิ่งในบางท่าที่ต้องการเน้นประโยชน์เท่านั้น


โยคะ

สาวช่างปวด

          เมื่ออาการปวดรุกราน โยคะก็สามารถช่วยบำบัดได้ โดยกลุ่มโยคะบำบัด เช่น Vini Yoga (วินิโยคะ) ครูโยคะก็จะเหมือนกับเป็นหมอที่คอยจัดท่าทางต่าง ๆ ให้เหมาะกับการแก้อาการป่วยของคุณ ไม่ว่าจะเป็นปวดไมเกรน ปวดคอ ไหล่ หลัง หรือแม้แต่ภูมิแพ้ก็สามารถบำบัดได้เช่นเดียวกัน โดยแต่ละคนก็จะได้ท่าทางแตกต่างกันไป จึงอาจจำเป็นต้องเล่นคลาสส่วนตัว ซึ่งค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงพอสมควร


โยคะ

สาวเครียดจัด

          หากเครียดมาก ๆ แล้วอยากผ่อนคลายด้วยโยคะ แนะนำให้เลือกโยคะที่เน้นในเรื่องของสมาธิ ภาวนา และการหายใจ เช่น Kundalini Yoga (กุลฑาลินีโยคะ) ซึ่งผู้ฝึกจะต้องนุ่งขาวห่มขาว มีการสวดมนต์เป็นภาษาสันสกฤต เพื่อสงบอารมณ์ และให้นั่งทำการฝึกหายใจ ทำท่าอาสนะบ้างเบา ๆ ความเครียดทั้งร่างกายและจิตใจก็จะผ่อนคลายลง ทั้งยังเป็นการกระตุ้นระบบหายใจอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ผู้ฝึกโยคะรูปแบบนี้มักจะเป็นผู้ที่ค่อนข้างมีอายุหน่อยเท่านั้น

          สาวสไตล์นี้จะเหมาะกับโยคะร้อน เช่น Bikram Yoga (บิแครมโยคะ) ที่เป็นการเล่นโยคะในห้องที่มีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิร่างกาย คือประมาณ 37-40 องศาเซลเซียส ถือเป็นการฝึกความอดทนอดกลั้นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ความร้อนก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อยืดหยุ่นได้ดีด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีข้อแม้ว่า สาว ๆ จะต้องไม่เป็นภูมิแพ้ โรคหัวใจ รวมทั้งพักผ่อนอย่างเพียงพอก่อนการฝึกด้วยไม่อย่างนั้นอาจเป็นลมหรืออาการกำเริบได้ เพราะออกซิเจนในห้องจะไหลเวียนได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

          Note : อยากลดความอ้วนจะเล่นโยคะร้อนก็ได้ แต่น้ำหนักที่หายไปทันทีหลังเล่นเป็นเพียงน้ำหนักของน้ำที่ร่างกายสูญเสียไปเป็นส่วนใหญ่ อย่าเข้าใจผิดว่าเล่นแล้วจะเฟิร์มไวกว่าโยคะแบบอื่น ๆ นะ

          ครูโยคะแต่ละคนก็จะมีสไตล์การสอนและการฝึกที่แตกต่างกันออกไป หากคุณเพิ่งเริ่มต้นกับโยคะ อาจจะทดลองฝึกทุก ๆ สไตล์ เพื่อหาสไตล์ และครูที่ถูกจริตกับตัวเราเองที่สุดก็ได้ นอกจากนี้ ควรเลือกฝึกในบริเวณที่ใกล้ที่ทำงานหรือที่พักเป็นหลัก จะได้สามารถไปฝึกได้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง



  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
5 โยคะสำหรับสาวต่างสไตล์ แบบไหนเหมาะกับคุณ?! อัปเดตล่าสุด 5 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 13:45:34 21,431 อ่าน
TOP