โรคกระดูกพรุน
โรคกระดูกพรุน ...คุณรู้จักดีแค่ไหน? (ไทยรัฐ)
ด้วยวัยที่มากขึ้นมักมาพร้อมกับความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย" โรคกระดูกพรุน " ก็ เป็นภาวะเสื่อมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกันปัจจุบันจึงมักพบเห็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเกี่ยวกับกระดูกออกวางจำหน่ายในท้องตลาดมากมายเพื่อยื้อความแข็งแรงของโครงสร้างของร่างกายเอาไว้ให้นานเท่าที่จะทำได้
โดยปกติกระดูกของคนเราเป็นอวัยวะที่มีชีวิต กระดูกจะมีเซลล์หลักอยู่ 2 ชนิดชนิดแรกมีหน้าที่สลายกระดูกเรียกว่า Osteoclastและอีกชนิดหนึ่งมีหน้าที่สร้างกระดูกใหม่เรียกว่า Osteoblastซึ่งเซลล์ทั้ง 2 ชนิดนี้ทำงานอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เกิดจนตายโดยช่วงเวลาของการสร้างและสลายกระดูกสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วงดังนี้
1. ช่วงของการสร้างมวลกระดูกเริ่มต้นเมื่อแรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 30 ปีช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการสร้างมวลกระดูกมากกว่าการสลายมวลกระดูกมวลกระดูกของร่างกายจึงเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดที่เรียกว่า Peak Bone Mass
2. ช่วงของการคงมวลกระดูก หลังจากอายุ 30 ปีไปแล้วการสร้างกระดูกจะลดลงจนเท่ากับการสลายกระดูก มวลกระดูกรวมจึงคงที่ไปจนถึงอายุประมาณ 45 ปี
3. ช่วงการสลายมวลกระดูก จากอายุ 45 ปีขึ้นไป การสร้างมวลกระดูกจะลดลงเรื่อยๆมวลกระดูกรวมของร่างกายจึงลดลงตามลำดับ สตรีในช่วงหมดประจำเดือนการสลายมวลกระดูกจะรวดเร็วมากทำให้มวลกระดูกลดลงอย่างรวดเร็ว
โรคกระดูกพรุน คือ โรคที่ผู้ป่วยมีมวลกระดูกต่ำกว่าปกติ และมีแนวโน้มจะต่ำลงเรื่อยๆจนเป็นสาเหตุให้เกิดกระดูกหักจากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยและมีโอกาสที่กระดูกที่หักอาจไม่สามารถติดกันได้
อาการสำคัญของ โรคกระดูกพรุน ได้แก่ ปวดตามกระดูกส่วนกลางที่รับน้ำหนัก เช่น กระดูกสันหลัง กระดูกสะโพกและอาจมีอาการปวดข้อร่วมด้วย ต่อมาความสูงของลำตัวจะค่อยๆ ลดลงหลังจะโก่งค่อมหากหลังโก่งค่อมมากๆ จะทำให้ปวดหลังมากเสียบุคลิกเคลื่อนไหวลำบากระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหารถูกรบกวนเมื่อเป็นโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจจะหายยาก ระบบย่อยอาหารผิดปกติท้องอืดเฟ้อ และท้องผูกเป็นประจำ
โรคกระดูกพรุน อันตรายอย่างไร?
โรคแทรกซ้อนที่อันตรายที่สุดของ โรคกระดูกพรุน คือ กระดูกหัก บริเวณที่พบมากได้แก่ กระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก และกระดูกข้อมือซึ่งหากกระดูกสันหลังหัก จะทำให้เกิดอาการปวดมากจนไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้
การพักรักษาตัวเป็นเวลานานย่อมทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ขึ้นได้ เช่นภาวะถุงลมโป่งพอง ภาวะการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุให้สุขภาพโดยรวมแย่ลงอย่างรวดเร็ว จนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
เมื่อผู้ป่วย โรคกระดูกพรุน ได้รับอุบัติเหตุทำให้เกิดภาวะกระดูกหักกระดูกจะใช้เวลาในการเชื่อมต่อตัวเองนานกว่ากระดูกปกติหรืออาจไม่ติดเลยก็ได้ผู้ป่วย โรคกระดูกพรุน จะต้องอยู่ในเฝือกนานขึ้นเป็นสาเหตุให้เกิดอาการข้อยึดติดไม่สามารถใช้ร่างกายส่วนนั้นได้เป็นระยะเวลานานหรืออาจต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดยึดกระดูกซึ่งผลการรักษามักไม่ได้ผลดี
การตรวจหา โรคกระดูกพรุน
ปัจจุบันมีเครื่องมือวัดความหนาแน่นของกระดูก Bone DEXA scan (Dual Energy X-rayAbsorptiometry) เป็นเครื่องมือเอ็กซเรย์ระบบ 2 พลังงานที่ใช้ในการประเมินผลว่าผู้มารับบริการมีความเสี่ยงต่อ โรคกระดูกพรุน มากน้อยเพียงใดและยังช่วยในการตัดสินใจวางแผนการรักษา โรคกระดูกพรุน และติดตามผลการรักษาอย่างเหมาะสมโดยทั่วไปแพทย์จะพิจารณาส่งตรวจส่วนที่ต้องการตามรอยโรคของผู้ป่วยแต่หากต้องการตรวจเพื่อสุขภาพ จะแนะนำให้ตรวจ 2 บริเวณ คือกระดูกสันหลังและกระดูกสะโพกซึ่งเป็นวิธีที่จะทราบถึงสภาวะมวลกระดูกของเราได้ดีที่สุดการตรวจหามวลกระดูกจะแปรผลออกมาเป็นค่าทางสถิติโดยใช้การเปรียบเทียบมวลกระดูกของเรากับมวลกระดูกของประชากรในอายุและเพศเดียวกัน
การแปรผลการตรวจมวลกระดูกจะแปรผลออกมา คือ
มวลกระดูกปกติ (Normal) หมายถึง มีมวลกระดูกหนาแน่นเป็นปกติในคนที่อายุยังน้อย
มวลกระดูกบาง (Osteopenia) หมายถึง มีมวลกระดูกน้อยกว่าปกติแต่ยังไม่ถึงขั้นเป็น โรคกระดูกพรุน เป็นภาวะที่ต้องรับการรักษาก่อนที่จะเป็น โรคกระดูกพรุน กระดูกพรุน(Osteoporosis) หมายถึงมีมวลกระดูกน้อยกว่าปกติมากจนเสี่ยงต่อกระดูกหักหรือกระดูกยุบตัว
ภาวะเสี่ยงต่อการเกิด โรคกระดูกพรุน
หญิงวัยหมดประจำเดือน การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้กระดูกสลายตัวในอัตราที่เร็วขึ้น
หญิงที่มีประจำเดือนหมดเร็ว หรือ หญิงที่ตัดรังไข่
กรรมพันธุ์จากมารดาสู่บุตร
ชาวเอเชีย และคนผิวขาว มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากกว่าคนยุโรป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก