เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เครื่องดื่มถือว่าเป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มอีกสารพัดชนิดที่เราดื่มกันเป็นประจำ แล้วแต่เวลาไหนอยากจะดื่มอะไร แต่ทราบไหมคะว่า หากเราดื่มเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะเวลาของมันสักนิด ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด แถมยังดีต่อสุขภาพแบบคูณ 2 อีกต่างหาก ว่าแล้วก็มาดูข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้จากเว็บไซต์ Huffington Post ให้ชัด ๆ กันอีกทีดีกว่า เวลาไหนควรดื่มอะไร ตามมาดูกันเลย !
สร้างกล้ามเนื้อ ต้องดื่มนม
ในน้ำนมมีโปรตีนอย่างเวย์โปรตีน และเคซีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สำคัญกับการสร้างกล้ามเนื้อของร่างกาย ดังนั้นหนุ่มสาวคนไหนอยากให้ร่างกายแน่นเปรี๊ยะไปด้วยกล้ามเนื้อ นมนี่ล่ะคือคำตอบ
อยากลดน้ำหนัก จัดชาเขียวสิ
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ชาเขียวสามารถช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ผลเร็วขึ้น ด้วยการกระตุ้นระบบเมตาลอลิซึมให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และหากคุณอยากลดน้ำหนักให้ได้ผลอย่างยั่งยืน ก็ต้องดื่มชาเขียวอุ่น ๆ วันละ 4 แก้วเป็นประจำนะจ๊ะ
เพิ่มความกระฉับกระเฉง ต้องนมช็อกโกแลตเลย
ในเวลาที่ร่างกายอ่อนล้า ต้องการความสดชื่น เพื่อให้รู้สึกกระฉับกระเฉง แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเย็น ๆ นมช็อกโกแลต หรือเครื่องดื่มชูกำลังทุกชนิดก็ได้ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีส่วนผสมของโปรตีน โซเดียม และโพแทสเซียม ซึ่งจะช่วยเติมพลังให้เราหลังจากการเสียเหงื่อเยอะได้จ้า
หลังวิ่ง น้ำมะพร้าวสิเด็ด !
นอกจากน้ำเปล่าเย็น ๆ สักขวดแล้ว หลังจากเหนื่อยหนักจากการวิ่งเป็นระยะเวลานาน เราควรดื่มน้ำมะพร้าวให้ชื่นใจด้วย เพราะน้ำมะพร้าวมีทั้งสารกระตุ้นร่างกาย ช่วยเพิ่มความอึด และความทนทาน และเป็นน้ำที่ให้พลังงานกับร่างกายได้พอ ๆ กับเครื่องดื่มชูกำลัง แต่มีปริมาณแคลอรี่ที่น้อยกว่าด้วย หรือคุณจะดื่มน้ำมะพร้าวก่อนเริ่มวิ่งสัก 1-2 ชั่วโมงก็ดี แล้วคุณจะวิ่งได้นาน 90 นาทีแบบไม่ค่อยรู้สึกล้าเท่าไรเลยล่ะ
น้ำขิง ช่วยบรรเทาอาการมวนท้อง
ใครที่มักจะปวดท้องบ่อย ๆ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรืออาหารไม่ย่อย รวมทั้งอาการปวดท้องจากประจำเดือน ลองดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ ดูสิ เนื่องจากน้ำขิงมีส่วนช่วยคลายอาการเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าท้อง และช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ด้วย
บรรเทาอาการหวัด ด้วยน้ำผึ้งมะนาว
น้ำผึ้งมีสารช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย และอาการอักเสบ ส่วนมะนาวก็มีวิตามินซีสูงมาก เมื่อน้ำทั้ง 2 อย่างมารวมกันเป็นเครื่องดื่มอุ่น ๆ ไว้จิบในช่วงที่คุณป่วยเป็นไข้หวัด เชื้อไวรัสที่อยู่ในร่างกายก็จะถูกทำลายไป อาการไข้ก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ และหายไปในที่สุด
จิบน้ำผึ้งอุ่น แก้อาการไอ
ใครที่กำลังมีอาการไอ ให้จิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ อย่างน้ำผึ้งผสมน้ำร้อนเป็นประจำ เนื่องจากน้ำผึ้งมีส่วนช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก อีกทั้งความหวานของน้ำผึ้งยังช่วยขับน้ำลาย และเสลดในคอเราได้ด้วย ก็เลยส่งผลให้อาการไอลดน้อยลงด้วยนั่นเอง
ชาขมิ้น บรรเทาอาการเจ็บคอ
อาการเจ็บคอมักจะมาพร้อมกับอาการไอ และไข้หวัด ซึ่งสิ่งที่ทำให้คุณเจ็บคอก็คือเชื้อไวรัส ที่ทำให้เกิดการอักเสบในคอนั่นเอง ดังนั้นเราก็เลยต้องจัดชาขมิ้น ซึ่งมีคุณสมบัติแก้อาการอักเสบ และกำจัดเชื้อแบคทีเรียให้ร่างกายสักหน่อย อาการเจ็บคอที่ทรมานอยู่จะได้หายไปนะจ๊ะ
กะทิ ลดอาการแสบร้อนในปาก จากอาหารเผ็ด
เวลาที่กินอะไรเผ็ด ๆ เข้าไปมักจะเกิดอาการแสบร้อนปาก ทำให้เผ็ดไม่หายอยู่อย่างนั้น และต่อให้ดื่มน้ำเย็น ๆ เข้าไปมากเท่าไรความเผ็ดร้อนก็ไม่หายไปสักที ถ้าอย่างนั้นลองหาขนมหวานน้ำกะทิมากินดูสิคะ เพราะไขมันจากกะทิมีโปรตีนช่วยลดอาการเผ็ดร้อนได้ หรือจะลองดื่มนมที่มีแลคตินช่วยลดอาการแสบร้อนเนื่องจากความเผ็ดก็ได้จ้า
น้ำว่านหางจระเข้ แก้อาการท้องผูก
สำหรับคนที่ท้องผูกเป็นประจำ ลองดื่มน้ำว่านหางจระเข้วันละ 1 แก้วเป็นอย่างต่ำดูสิจ๊ะ เพราะน้ำว่านหางจระเข้อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่จะช่วยปรับสมดุลในลำไส้ กระตุ้นระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นได้ง่าย ๆ เลยล่ะ
แก้ง่วงด้วยกาแฟ น้ำเปล่า และสไปรูลิน่า
ตกบ่ายทีไรเป็นต้องง่วงจนตาจะปิดทุกที ยังงี้คงต้องหากาแฟสักแก้วมาดื่มกระตุ้นร่างกายสักหน่อย แต่หากใครไม่ใช่คอกาแฟ ก็สามารถดื่มน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบ หรือน้ำเปล่าผสมผงสาหร่ายสไปรูลิน่าสักหน่อยก็ได้ โปรตีนจากสาหร่ายชนิดนี้จะช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายได้อีกเยอะเลยจ้า
นอนไม่หลับ ต้องจัดนมอุ่น ๆ และชาคาโมมายล์
นมอุ่น ๆ มีโปรตีนและกรดอะมิโนที่สามารถกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนเมลาโธนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ ส่วนชาคาโมมายล์ก็ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกาย ช่วยให้คุณนอนหลับสบายไปตลอดทั้งคืนเชียวล่ะ
ลดความดันด้วยเลมอนบาล์ม
เลมอนบาล์มเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่ช่วยผ่อนคลายร่างกาย และลดความดันโลหิต กระตุ้นระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ดังนั้นใครที่มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูงเกินปกติ ก็ลองดื่มชาเลมอนบาล์มบรรเทาอาการก่อนก็ได้ค่ะ
ดื่มน้ำเปล่าระหว่างมื้อ ช่วยย่อยอาหาร
การดื่มน้ำระหว่างที่รับประทานอาหาร หรือหลังจากรับประทานอาหารอิ่ม สามารถช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารของเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การดื่มชาสมุนไพร เช่น ชามิ้นต์ หรือชาเปปเปอร์มิ้นต์ ก็สามารถกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้เราได้ด้วยเช่นกันจ้า
ดื่มนม-โยเกิร์ต แก้เผ็ด
อย่างที่บอกไปว่า โปรตีน และไขมันจากนมสามารถลดอาการเผ็ดของอาหารได้เป็นอย่างดี เนื่องจากโปรตีนและไขมันเหล่านี้ จะไประงับสารแคปไซซิน สารที่ให้รสเผ็ดในพริก ดังนั้นต่อให้กินอาการเผ็ดร้อนแค่ไหน แต่ถ้าตบท้ายด้วยการดื่มนม หรือกินโยเกิร์ต อาการเผ็ดร้อนก็จะหายไปอย่างรวดเร็วจนแทบไม่รู้สึกเลยล่ะ ไม่เชื่อลองดูสิ
เมาแฮ้งค์ กล้วยปั่นช่วยได้
นักปาร์ตี้ที่มักจะตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดหัวตุบ ๆ เนื่องจากอาการแฮ้งค์ แนะนำให้ดื่มน้ำเย็น ๆ สักแก้ว หรือถ้ายังไม่รู้สึกดีขึ้น ลองหาน้ำส้มคั้น หรือน้ำกล้วยปั่นมาดื่มก็ได้ เพราะในน้ำผลไม้เหล่านี้จะมีโพแทสเซียม น้ำตาล และอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งช่วยให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
น้ำเปล่า ลดกลิ่นปาก
เครื่องดื่มประเภทกาแฟ นม หรือน้ำผลไม้บางชนิดมีกลิ่นแรง และมักจะติดปากเราไปตลอด ซึ่งหากต้องการดับกลิ่นปาก และทำให้ลมหายใจสดชื่น ต้องดื่มน้ำเปล่า หรือบีบน้ำมะนาวลงไปในน้ำเปล่าด้วยก็ได้ ซึ่งนอกจากจะได้ล้างคราบกลิ่นเหม็น ๆ ในช่องปากแล้ว ยังช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวอีกด้วยนะจ๊ะ
ขจัดความหิวด้วยนม
การดื่มน้ำระหว่างมื้ออาหารสามารถช่วยให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น แต่นั่นก็ต้องแลกกับการหิวบ่อยด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากคุณกำลังอยู่ในช่วงไดเอต และไม่อยากกินเยอะ ทุกครั้งที่รู้สึกหิวในระหว่างวัน แนะนำให้ดื่มน้ำแคลอรี่ต่ำสักกล่อง ให้โปรตีนและความหวานของนมช่วยลดความหิวของคุณก็ดีจ้า
บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ด้วยเบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดาประมาณ 1/2 ช้อนชา ผสมกับน้ำเย็น 1 แก้วเต็ม คนให้เข้ากัน แล้วนำมาดื่ม เป็นสูตรเครื่องดื่มช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเบกกิ้งโซดามีโพรไบโอติกที่ช่วยย่อยอาหาร ลดแก๊สในกระเพาะ ทำให้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อลดลงนั่นเอง
ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่า ปัญหาสุขภาพบางอย่างก็สามารถบรรเทาได้ด้วยเครื่องดื่มง่าย ๆ ที่เราดื่มกันเป็นประจำทุกวัน เพียงแค่เราต้องเลือกดื่มเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะเวลาเท่านั้นเองเนอะ