อาหารที่ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญ จะทำให้มีสุขภาพดี หุ่นฟิต แอนด์ เฟิร์มได้ดังใจ
TOP FAT-BURNING FOODS (247 freemagazine)
ยุคนี้ใคร ๆ ก็อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และกระแสไดเอตแบบสุขภาพดีก็กำลังอินเทรนด์ นอกจากการออกกำลังกายเป็นประจำและทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การทานอาหารที่ช่วยเผาผลาญพลังงานก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพดี หุ่นฟิต แอนด์ เฟิร์มได้ดังใจ นอกจากนี้อาหารที่ช่วยเผาผลาญยังมีคุณประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ดังนี้
เกรปฟรุต ผลไม้ตระกูลซิตรัสที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงาน ทำให้คุณรู้สึกอิ่มท้องและกระปรี้กระเปร่าได้แม้จะให้แคลอรี่ต่ำ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์
ข้าวโอ๊ต มีไฟเบอร์สูง ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไขมันในเส้นเลือด และยังอยู่ท้อง เหมาะกับเป็นอาหารเช้าในวันที่เร่งรีบ
ซินนาม่อน การทานซินนาม่อนในปริมาณครึ่งถึง 2 ช้อนชาต่อวัน ให้พลังงานต่ำและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งลดระดับคอเรสเตอรอลได้ถึง 10-25%
อะโวคาโด มีเอนไซม์ที่ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร ช่วยเผาผลาญพลังงาน จึงเหมาะสมในการลดน้ำหนัก และช่วยให้ร่างกายมีความสดชื่น สดใส และมีผิวพรรณสดใส
อาหารรสเผ็ด สารแคปไซซินที่มีอยู่ในพริก มีฤทธิ์ช่วยเผาผลาญได้เป็นอย่างดี และช่วยป้องกันภาวะเลือดแข็งตัว
กาแฟ ช่วยทำให้คุณตื่นตัว โลหิตสูบฉีด และช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดี แต่ควรดื่มกาแฟดำจะเป็นการดีที่สุด โดยเฉพาะดื่มก่อนออกกำลังกายราวครึ่งชั่วโมง
ชาเขียวและชาอู่หลง ในชาทั้งสองประเภทนี้มีสารคาเทชิน ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน อย่างไรก็ตามก่อนจะซื้อชาบรรจุขวดตามร้านสะดวกซื้อ ควรตรวจดูฉลากก่อนทุกครั้งว่ามีน้ำตาลสูงหรือไม่ ไม่เช่นนั้นอาจได้ความอ้วนและโรคเบาหวานมาแทน
น้ำเปล่า เพียงดื่มน้ำเปล่าปริมาณ 240 มล. เป็นประจำวันละ 8-10 แก้ว ก็ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญมากกว่าปกติแล้ว
Did You Know ?
สาว ๆ ต่างชาติมักจะมองสาวไทยด้วยความอิจฉา ที่ยังมีรูปร่างเล็กและบอบบาง ทั้งที่สาวไทยนั้นกินจุบจิบทั้งวัน แต่จริง ๆ แล้วการกินจุบจิบของสาวไทยเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ไม่อ้วน เพราะการกินในปริมาณน้อยแต่บ่อย ช่วยให้ไม่รู้สึกหิวจนเกินไป และจะไม่กินเยอะจนเกินไปเมื่อถึงเวลาของมื้อหลัก นอกจากนี้ในอาหารไทยรสจัดจ้าน ก็ยังเต็มไปด้วยพริกและเครื่องเทศที่ช่วยในการเผาผลาญอีกด้วย
มื้อเช้าที่เปี่ยมด้วยคุณค่า และทำตามได้ง่าย ๆ ด้วยออมเล็ตใส่บรอกโคลีและชีส เสิร์ฟพร้อมขนมปังไรย์ ได้โปรตีนจากไข่ และไฟเบอร์จากบรอกโคลี พร้อมคุณค่าอื่น ๆ ที่สำคัญคือพลังงานต่ำ
25.125% คือ ค่าเฉลี่ยคนไทยที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วน ในปี 2013 โดยพบในเพศหญิงอายุมากกว่า 20 ปี 39.7% เพศชาย 32.1%
ขอขอบคุณข้อมูลจาก