ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
กรมสุขภาพจิตพบคนไทยป่วยด้ วยโรคจิตเภทเกือบ 4 แสนราย แพทย์แนะนำควรรีบรักษาตั้งแต่ เนิ่น ๆ และเลี่ยงการเสพยาเสพติดหรือดื่ มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น
วันนี้ (10 ตุลาคม พ.ศ. 2557) นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้กล่าวว่าในวันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี สหพันธ์สุขภาพจิตโลกได้กำหนดให้ เป็นวันสุขภาพจิตโลก (World Mental Health Day) เพื่อให้สาธารณชนได้ตระหนักถึ งความสำคัญของสุขภาพจิตและปั ญหาการเจ็บป่วยทางจิต ซึ่งในปีนี้ได้ให้ความสำคัญกั บการอยู่ร่วมกับโรคจิตเภท "Living with schizophrenia" เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ป่วยด้ วยโรคนี้ถึง 26 ล้านคนทั่วโลก และส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 90 ของผู้ป่วยอยู่ในประเทศกำลังพั ฒนา และไม่สามารถเข้าถึงการบำบัดรั กษาได้ ทำให้มีผลต่ อการทำงานของสมองและการหายขาดขอ งโรค ซึ่งโรคจิตเภทจะเริ่มเกิดขึ้ นในช่วงวัยรุ่นตอนปลายหรือวัยผู้ใหญ่อายุระหว่าง 15-35 ปี โดยอัตราผู้ป่วยอยู่ที่ 7 ต่อ 1,000 ในประชากรวัยผู้ใหญ่
สำหรับประเทศไทย จากรายงานจำนวนผู้ป่วยนอกจิ ตเวชของกรมสุขภาพจิตพบว่า โรคจิตเภทเป็นโรคทางจิตเวชที่ พบมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 โดยล่าสุดมีจำนวนกว่า 4 แสนราย จากผู้ป่วยนอกที่เป็นโรคจิ ตเวชทั่วประเทศกว่า 1 ล้านราย และพบว่ามีผู้ป่วยในจิตเวชเป็ นโรคจิตเภทกว่า 2 หมื่นราย จากผู้ป่วยในจิตเวชทั้งหมดกว่า 4 หมื่นราย ซึ่งโรคจิตเภทนี้สามารถรักษาได้ เช่นเดียวกับโรคเรื้อรังอื่น ๆ แต่ควรเข้ารับการรักษาตั้งแต่ เนิ่น ๆ และเมื่ออาการดีขึ้นแล้วผู้ป่ วยต้องกินยาหรือเข้ารับการฉี ดยาอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ อาการกำเริบ
นายแพทย์เจษฎา ยังกล่าวอีกว่า ผู้ป่วยจิตเภทสามารถใช้ชีวิตร่ วมกับผู้อื่นได้ตามปกติ แต่เรื่องที่จะต้องระมัดระวั งเป็นพิเศษคือการขาดยา และการใช้สารเสพติดอย่างเช่น ยาบ้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะจะทำให้ผู้ป่วยเกิ ดอาการทางจิตอย่างรุนแรง ญาติจึงจำเป็นจะต้องดูแลอย่ างใกล้ชิด โดยหากพบว่าผู้ป่วยนอนไม่หลับ หงุดหงิด มีความคิดแปลก ๆ ก้าวร้าว หวาดกลัว ฉุนเฉียวง่าย ควรรีบพาไปพบแพทย์หรือโทรศัพท์ ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก