เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ปี 2015 ที่กำลังจะมาถึง เทรนด์สุขภาพอะไรจะอินและเอาท์กันบ้าง ใครรักสุขภาพไม่ควรพลาด จะได้ไม่ตกเทรนด์ไงล่ะ
ตลอดปี 2014 ที่ผ่านมา หลาย ๆ คนอาจจะได้เห็นเทรนด์สุขภาพต่าง ๆ ผ่านตากันไปบ้าง บางอย่างอาจจะดูแปลก หรือบางอย่างอาจจะทำให้คุณประหลาดใจ เพราะไม่เชื่อว่าจะอยู่ใกล้ตัวอย่างที่คิด ตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายที่สุดก็คงไม่หนีไม่พ้น T25 และอาหารคลีน ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากตลอดปีนี้ แต่ว่าสำหรับปีหน้าล่ะ แนวโน้มของเทรนด์สุขภาพจะเป็นอย่างไรกันบ้าง จะมีเทรนด์สุขภาพใดในปีนี้ที่จะยังคงได้รับความนิยมไปถึงปีหน้า เว็บไซต์ huffingtonpost ได้นำมาบอกเล่ากันไว้แล้วล่ะค่ะ ใครที่ไม่อยากตกเทรนด์คนรักสุขภาพละก็ รีบอ่านกันก่อนเลยนะ
การรับประทานดิน (Eating clay)เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเราได้รู้จักกับการรับประทานดิน จากนักแสดงสาวฮอลลีวูด เชลีน วูดลีย์ (Shailene Woodley) ซึ่งเธอทำให้เทรนด์การรับประทานดินเพื่อล้างสารพิษกลายเป็นเทรนด์สุขภาพยอดฮิตอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีความกังวลว่าดินที่รับประทานกันเข้าไปนั้นอาจปนเปื้อนโลหะที่ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ก็มีหลักฐานมาแย้งว่าดินสามารถช่วยขจัดสารพิษต่าง ๆ ในอาหารได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากคุณจะยังเห็นดินเป็นหนึ่งในส่วนผสมของอาหารจานหรู ในปีที่กำลังจะมาถึง เพราะตราบใดที่ยังไม่มีการศึกษาที่ยืนยันอย่างชัดเจนว่าดินที่นิยมรับประทานกันนั้นมีสารพิษอันตรายหรือไม่ ก็ยังคงมีคนรับประทานดินเพื่อล้างสารพิษในร่างกายอยู่ดีค่ะ
การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด (ฺBlood Type Diet)การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดถือเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากอย่างหนึ่งในปีนี้ ซึ่งหลักของการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นอาหารที่ไขมันต่ำ หรือเน้นแต่ผักและธัญพืชเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดของแต่ละคน โดยแบ่งหลักทฤษฎีการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดออกเป็น 4 แบบตามกรุ๊ปเลือด A B O AB แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องดังกล่าวออกมาแย้งว่าไม่มีหลักฐานใดสนับสนุนได้ว่าการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั้นดีต่อสุขภาพ และก็ไม่มีหลักฐานใดเปิดเผยว่าไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไม่มีหลักฐานการศึกษาใดออกมายืนยัน จึงทำให้คนรักสุขภาพยังคงนิยมการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดต่อไป เพราะเชื่อว่าจะทำให้สุขภาพดีและควบคุมน้ำหนักได้ค่ะ
การรับประทานถ่านนอกจากการรับประทานดินแล้ว สิ่งที่ในช่วงปีที่ผ่านมาหลายคนให้ความสนใจไม่น้อยก็คงจะเป็นการรับประทานถ่าน (Charcoal) ซึ่งมีการเปิดเผยว่าในการรักษาของแพทย์ในห้องฉุกเฉิน ผู้ที่ได้รับสารพิษบางชนิดหรือแม้แต่การรับประทานยาเกินขนาด แพทย์จะให้รับประทานถ่านเข้าไปเพื่อขับสารพิษในร่างกายออกมา ซึ่งแพทย์หญิง ลินดา ฟาน (Linda Fan) แพทย์ในแผนกฉุกเฉินจากศูนย์การแพทย์ SUNY Downstate เปิดเผยว่า ถ่านที่รับประทานเข้าไปไม่ได้ดูดซึมแค่เพียงสารพิษเท่านั้น แต่ดูดซึมทุกอย่างที่อยู่ในกระเพาะอาหาร และไม่ควรใช้หากไม่ได้รับการแนะนำทางการแพทย์
อย่างไรก็ตาม Mayo Clinic องค์กรสุขภาพแนวหน้าของประเทศสหรัฐอเมริกา กลับเตือนอีกว่าการรับประทานถ่านเข้าไป อาจจะส่งผลให้เกิดเลือดออกในลำไส้และภาวะลำไส้อุดตันได้ แต่ถึงแม้จะมีคำเตือน แต่เพราะยังไม่มีการศึกษาใดออกมายืนยันถึงประโยชน์หรือโทษของการรับประทานถ่าน จึงทำให้ยังคงมีผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสุขภาพมากมายนำถ่านมาเป็นส่วนผสม และก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังเชื่อว่าถ่านดีต่อร่างกาย ซึ่งแปลว่าในปีหน้าเราก็ยังจะคงเห็นการรับประทานถ่านเพื่อล้างสารพิษอย่างแน่นอนค่ะ
การแข่งขันวิ่งตลอดปีที่ผ่านมาอาจจะสังเกตได้ว่ามีการแข่งขันเดิน-วิ่งมาราธอนมากมายเกิดขึ้น ซึ่งนั่นเป็นผลพวงมาจากกระแสการรักสุขภาพที่่มีมากขึ้น ทำให้เริ่มมีคนให้ความสนใจกับการแข่งขันวิ่งเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีคนมากมายที่ต้องการวิ่งเพื่อสุขภาพ และเอาชนะขีดจำกัดของตนเอง และเชื่อว่าในปีหน้าหรือปีต่อ ๆ ไป เทรนด์แข่งขันวิ่งมาราธอนจะยังคงมีอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน รวมทั้งการจัดการแข่งขันเดิน-วิ่งมาราธอน จะมีเพิ่มขึ้นด้วย ตราบใดที่คนยังให้ความสนใจอย่างล้นหลาม
ผลิตภัณฑ์ตัดต่อจีเอ็มโอยังคงไม่ใช่อาหารที่ดีต่อสุขภาพตลอดเวลาที่ผ่านมา มีข่าวสารมากมายเปิดเผยว่าการตัดต่อทางพันธุกรรม เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และทำให้คนมากมายต่างหวาดกลัวและพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการส่วนประกอบจากวัตถุดิบที่ผ่านการตัดต่อทางพันธุกรรม ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ยังไม่มีผลการศึกษาใดออกมายืนยันว่าพืชและสัตว์ที่ผ่านการตัดต่อทางพันธุกรรมนั้นมีโทษหรือประโยชน์กันแน่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คนทั่วไปก็ยังเลือกที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ติดป้ายปลอดการตัดต่อทางพันธุกรรมอยู่ดี โดย มาร์ค บิทท์แมน (Mark Bittman) ผู้สื่อข่าวด้านอาหารชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ได้อธิบายเอาไว้ในคอลัมน์ของเขาในหนังสือพิมพ์ นิวยอร์กไทม์ ว่า การตัดต่อทางพันธุกรรมในอาหารหรือปศุสัตว์นั้นเป็นเพียงแค่ฟันเฟืองหนึงในวิธีเกษตรอุตสาหกรรม จึงทำให้ผู้ผลิตหลายรายละเลยความปลอดภัยของผู้บริโภค ดังนั้นตราบใดที่ยังไม่มีผลการวิจัยมาสนับสนุนถึงประโยชน์และโทษ อาหารที่ติดป้ายว่าไม่ผ่านการตัดต่อทางพันธุกรรมก็ยังคงเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากกว่าอยู่ดี
พอจะคาดเดากันแล้วใช่ไหมคะว่าในปีหน้า คนเราจะยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพแบบใดกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเทรนด์สุขภาพใดจะมาแรง แต่การเลือกใช้ให้เหมาะกับสุขภาพของตัวเราเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนะคะ อย่ามัวแต่คิดว่าอันไหนดีก็ลองทำ เพราะบางทีสิ่งเหล่านั้นอาจจะไม่เหมาะกับเรา และอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้โดยที่คาดไม่ถึงเลยล่ะ
