เพื่อให้กาแฟถ้วยโปรดมีรสชาติหอม มัน เข้มข้นขึ้น เวลาเราชงกาแฟก็มักเติมครีมเทียมลงไปด้วย แต่นี่ล่ะยิ่งทำให้กาแฟแก้วนั้นย้อนกลับมาเป็นโทษต่อสุขภาพ
แม้ข้อมูลงานวิจัยหลายสถาบันจะยังถกเถียงกันอยู่ในเรื่องประโยชน์และโทษของกาแฟ แต่ข้อเท็จจริงหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ กาแฟดำก็มีประโยชน์ไม่น้อยเหมือนกัน หากเราดื่มในปริมาณที่เหมาะสม คาเฟอีนก็ไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากอย่างที่คิด แต่ความน่ากลัวของกาแฟ 1 แก้ว ไม่ได้อยู่ที่คาเฟอีนเพียงอย่างเดียวหรอกค่ะ เพราะเวลาเราชงกาแฟก็มักเติมน้ำตาล และตัวเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นขึ้นอย่าง "ครีมเทียม" ลงไปด้วย ซึ่งนี่ล่ะศัตรูตัวร้ายอย่างแท้จริง
โดย พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (หมอผิง) ได้ให้ข้อมูลถึงความน่ากลัวของ "ครีมเทียม" ไว้ในบทความเรื่อง "แก่ง่าย ตายไว เพราะใส่ครีมเทียม" ของ เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ว่าการดื่มกาแฟวันละ 1-2 แก้ว ไม่ได้ทำให้ร่างกายรับคาเฟอีนมากเกินไปจนใจสั่น แถมกาแฟเองยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งดีกับสุขภาพด้วยซ้ำ แต่ตัวบ่อนทำลายจริง ๆ อยู่ที่ "เพื่อนของกาแฟ" ที่เรียกว่า "ครีมเทียม" ต่างหาก
ภาพจาก เครือข่ายคนไทยไร้พุง
ครีมเทียมแต่ละยี่ห้ออาจมีส่วนประกอบแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะประกอบด้วย 3 อย่าง คือ น้ำเชื่อม น้ำมัน และสารเคมีสังเคราะห์เพื่อเลียนแบบรสตามธรรมชาติ ซึ่งหมอผิงอธิบายแต่ละส่วนประกอบไว้ดังนี้
น้ำเชื่อม ที่ใช้กันมากคือ Glucose syrup, Corn syrup และบางแบรนด์อาจใช้เป็น High Fructose Corn Syrup (HFCS)ซึ่งใช้กันมากในอุตสาหกรรมอาหารเพราะมีราคาถูก โดยเฉพาะ HFCS หากรับประทานเข้าไป จะส่งผลให้น้ำตาลในเลือดขึ้นได้เร็ว เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะอ้วนลงพุงมากกว่าน้ำตาลปกติตามธรรมชาติ และยังพบว่าการรับประทาน HFCS เป็นประจำ เพิ่มระดับของไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ส่งเสริมการสร้างไขมันที่ตับ และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจด้วย
น้ำมัน เพื่อให้เกิดความหอมมันเมื่อเติมลงในกาแฟในราคาย่อมเยา ผู้ผลิตเลือกใช้น้ำมันประเภท "Partially hydrogenated soybean oil" เป็นไขมันสังเคราะห์ที่จัดอยู่ในกลุ่มไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันที่เลวร้ายต่อสุขภาพที่สุด
มีงานวิจัยมากมายชี้ให้เห็นว่า ไขมันประเภทนี้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วนลงพุง หลอดเลือดหัวใจ รวมไปถึงมะเร็งอีกหลายประเภท ในบางแบรนด์อาจระบุว่า "0% Trans Fat" แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีไขมันทรานส์แอบแฝงอยู่ เพราะตามกฎแล้ว หากผลิตภัณฑ์ใดมีไขมันทรานส์น้อยกว่า 0.5 กรัมต่อหน่วยบริโภค จะสามารถแอบอ้างว่า "0% Trans Fat"ได้โดยไม่ผิดกฎกติกา
สีและสารแต่งกลิ่นรสสังเคราะห์มากมาย เพื่อให้ผงสีขาว ๆ นั้น มีรสชาติเหมือนครีมจริง ๆ สมชื่อครีมเทียม
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่า สารจากครีมเทียมจะไปลดการดูดซึมของสารต้านอนุมูลอิสระจากในกาแฟลงราว 30% รวมถึงดูดซึมได้ช้าลงด้วย ดังนั้นการเติมครีมเทียมลงไปจึงเป็นการลดคุณประโยชน์ที่เกิดจากการดื่มกาแฟแบบเต็ม ๆ
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจไม่สามารถดื่มกาแฟดำได้จริง ๆ แต่ก็กลัวอันตรายจากครีมเทียมว่าจะทำให้เกิดโรคสะสมจนแก่ง่าย ตายไว งานนี้ หมอผิงก็เลยแนะนำให้ใช้นมวัวไขมันต่ำ หรือนมถั่วเหลืองรสจืดแทนการเติมครีมเทียมค่ะ แม้ว่ารสชาติจะไม่หอมมันเท่า แต่ยังไงก็ดีต่อสุขภาพกว่าแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เครือข่ายคนไทยไร้พุง
พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (หมอผิง)
Twitter, Instagram: @thidakarn