x close

สุก ๆ ดิบ ๆ ต้องระวัง ตามใจปาก โรคหนอนพยาธิขึ้นสมองจะมาเยือน



          อย่ามัวแต่ตามใจปากอยากแซ่บอาหารอร่อย ๆ จนลืมนึกถึงสุขอนามัย กินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ต้องระวัง เจ้าพยาธิ จะมาทักทายแถมเสี่ยงเจอโรคหนอนพยาธิขึ้นสมองไม่รู้ตัว

          เรื่องอาหารการกินเป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนเรามักจะให้ความเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ บางคนถึงกับเสาะหาทุกทั่วสารทิศเพื่อให้ได้อาหารที่ถูกใจ ถ้าเป็นอาหารปกติทั่วไปก็ไม่มีปัญหาเท่าไรหรอกค่ะ แต่บางคนนี้สิกลับชอบสรรหาอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรือไม่ก็อาหารดิบมารับประทานกัน โดยลืมนึกถึงเรื่องสุขอนามัยที่ได้เรียนรู้กันมาตั้งแต่เด็กว่าอาหารที่สุก ๆ ดิบ ๆ นั้นไม่ดีต่อร่างกาย เพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะติดเชื้อที่อันตรายร้ายแรงจนทำให้ท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษ บางรายอาจจะรุนแรงถึงกับเสียชีวิตได้ และนอกจากเชื้อโรคที่ปะปนมากับอาหารที่ไม่สุกแล้ว ก็ยังมีเจ้าหนอนพยาธิชนิดต่าง ๆ ที่รอจะเข้าไปสร้างอาณาจักรในร่างกายของเราอีกด้วย

          ทั้งนี้ถ้าหากเจ้าปรสิตเหล่านี้ขึ้นไปถึงสมองได้ จะยิ่งส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของคนที่รับประทานเข้าไปเลย อย่างเช่นที่เคยมีข่าวว่าชายชาวญี่ปุ่นรับประทานปลาดิบเป็นประจำจนกระทั่งมีหนอนพยาธิชอนไชสมองและทำให้เสียชีวิต ได้ทราบแค่นี้ก็รู้สึกกลัวแล้วใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าใครยังไม่เลิกรับประทานอาหารไม่สุกละก็ ลองไปทำความรู้จักกับ เจ้าหนอนพยาธิชนิดต่าง ๆ ที่มากับอาหารที่ไม่สุก และอาจจะฝังตัวขออาศัยกับร่างกายของคุณเพื่อบั่นทอนสุขภาพของคุณตามที่ นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา ได้เล่าไว้ในนิตยสาร Happy+ กันดีกว่า รับรองได้เลยว่าถ้าทราบแล้วจะต้องไม่อยากอาหารไม่สุกอีกเลยแน่นอน

          ขึ้นชื่อว่าพยาธิแล้วเชื่อว่าใคร ๆ หลายคนก็คงกลัวกันกับแขกไม่ได้รับเชิญที่เข้ามาอาศัยอยู่ในร่างกาย ยิ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างสมองแล้ว ยิ่งนำกลัวเข้าไปใหญ่ และเนื่องจากในยุคสมัยนี้แนวทางการกินอาหารตามแบบธรรมชาติกำลังกลับมา หลายคนก็เริ่มหันกลับไปกินอาหารแบบพื้นบ้านหรืออาหารบางประเภทที่อาจจะไม่สุกจากการผ่านความร้อนที่เหมาะสม จึงทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคพวกนี้เพิ่มขึ้น

          หนอนพยาธิที่ขึ้นสมองได้มีหลายชนิด แต่ชนิดที่พบได้บ่อยในประเทศไทยนั้นมี 3 ชนิดที่น่าจะทำความรู้จักกับมันไว้เพื่อการป้องกัน

พยาธิตัวจี๊ด

          พยาธิตัวจี๊ด เป็นพยาธิตัวกลมที่พบในสัตว์กินเนื้อในตระกูลสุนัขและแมว โดยปกติในธรรมชาติ พยาธินี้จะอยู่ในทางเดินอาหารของสัตว์กลุ่มนี้ เมื่อวางไข่แล้ว ไข่จะลงไปในสิ่งแวดล้อมก่อนจะฟักตัวเข้าไปอยู่ในไรน้ำ เมื่อสัตว์อื่น ๆ กินเข้าไปก็ติดพยาธิในระยะติดต่อได้ โดยสัตว์ที่มีพยาธินี้ในระยะติดต่อมีหลากหลายชนิด เช่น ปลาน้ำจืดต่าง ๆ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ (กบ คางคก) สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน (ตะกวด งู) ซึ่งหากสุนัข หรือแมวมากินเนื้อสัตว์เหล่านี้ก็จะได้รับพยาธิเข้าไปเจริญเติบโตในทางเดินอาหารได้

          สำหรับมนุษย์สามารถได้รับตัวอ่อนของพยาธิตัวจี๊ดผ่านการกินเนื้อสัตว์ดิบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ที่ดิบ เช่น ปลาร้า ปลาส้ม หรืออาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์แต่ผ่านความร้อนไม่ดี

          ในสัตว์พวกสุนัขและแมว เมื่อกินเนื้อที่ปนเปื้อนพยาธิก็จะไปอาศัยในกระเพาะอาหารและผสมพันธุ์ออกไข่ต่อไป แต่สำหรับมนุษย์ ไม่ใช่เป้าหมายจำเพาะของเจ้าพยาธิชนิดนี้ ดังนั้นพยาธิก็จะไชออกจากทางเดินอาหารไปเรื่อย ๆ โดยไม่โตเป็นตัวเต็มวัย ดังนั้นอาการของคนที่มีพยาธิตัวจี๊ดนี้ก็คือ ปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อการไชของพยาธิ พยาธิไชไปทางไหนบริเวณนั้นก็จะบวมอักเสบขึ้น หากไชไปที่ผิวหนัง ผิวหนังตรงนั้นก็จะบวมนูนขึ้น หรือบางกรณีก็เป็นรอยทางเดิน และจะบวมอยู่เป็นสัปดาห์ และหากไชไปที่อวัยวะใดก็จะเกิดอาการของจุดนั้น เช่น ไปกระเพาะปัสสาวะก็มีปัสสาวะปนเลือด ไชทะลุปอด ก็เกิดไอเป็นเลือด หรือถ้าไชเข้าตาก็เกิดตาอักเสบหรือเส้นประสาทตาอักเสบได้


          สำหรับระบบประสาทและสมองนั้นต่างกันไป คือ เมื่อพยาธิไชผ่านสมองหรือระบบประสาทส่วนกลาง ก็จะก่อให้เกิดอาการของเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือสมองอักเสบตามมา และเนื่องจากสมองเป็นส่วนที่ละเอียดอ่อนอันสำคัญที่ควบคุมร่างกายส่วนต่าง ๆ พอเกิดการอักเสบในบางตำแหน่งก็อาจจะก่อให้เกิดอาการทางระบบประสาทที่น่ากลัวตามมาคือ อาการอ่อนแรง ชาชัก หรือแม้แต่เสียชีวิต มีรายงานว่าบางครั้งเกิดอัมพาตที่ขาทั้งสองข้างเนื่องจากพยาธิไชเข้าไขสันหลังแล้วตัดส่วนที่บังคับการทำงานของขา

          การรักษา หากพบว่าพยาธิไชโผล่มาที่ผิวหนังให้รีบฆ่าหรือคีบออกทันที เป็นวิธีเดียวที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ สำหรับการให้ยาฆ่าปรสิตก็ทำได้โดยมียาที่จะให้ติดต่อกันประมาณ 3 สัปดาห์ แต่ผลการรักษายังอยู่ที่ประมาณ 90%





 
พยาธิตัวตืดหมู

          พยาธิชนิดนี้เป็นพยาธิตัวแบนที่ปกติแล้วจะอาศัยในทางเดินอาหารของมนุษย์ โดยเกิดจากการที่หมูกินไข่พยาธิเข้าไป แล้วพยาธิตัวอ่อนไปเป็นเม็ดสาคูฝังตัวอยู่ในเนื้อหมู จากนั้นเมื่อคนเอาเนื้อหมูไปทำอาหารแล้วผ่านความร้อนไม่มากพอหรือกินแบบดิบ ๆ ตัวอ่อนนั้นก็จะกลายไปเป็นพยาธิในลำไส้

          แต่หากคนกินพยาธิเข้าไปในรูปของไข่ ไข่ก็จะไปพักที่กระเพาะแล้วพยาธิก็จะไชเข้าไปเป็นเม็ดสาคูในตัวคนแทน ตำแหน่งก็ไม่ได้ต่างจากเวลาเกิดในหมูคือ ไชไปได้ทุกที่ไปอยู่ตามกล้ามเนื้อของร่างกายไปอยู่ตามผิวหนัง ดวงตา ปอด หรือแม้แต่สมอง โดยมากแล้วอาการทางสมองที่เกิดจากเม็ดสาคูพยาธิตัวตืดหมูนี้ จะพบจากอาการชัก โดยผู้ป่วยจะมีอาการชักโดยไม่ทราบสาเหตุ แล้วเมื่อตรวจแกนสมองก็จะพบว่ามีลักษณะของเม็ดเล็ก ๆ กระจายอยู่ในเนื้อสมอง และมีปฏิกิริยาการอักเสบอยู่รอบ ๆ การรักษาก็ทำโดยการให้ยาต้านปรสิตชนิดพยาธิตัวแบน โดยระหว่างที่ให้อาจจะต้องระมัดระวังอาการทางสมองอันจะเกิดตามมาหลังจากพยาธิตาย


พยาธิหอยโข่ง

          พยาธินี้เป็นพยาธิตัวกลมที่ตามปกติแล้ว จะอาศัยอยู่ในเส้นเลือดปอดของหนู และเมื่อหนูถ่ายอุจจาระออกมา ไข่พยาธิในนั้นก็จะลงไปในธรรมชาติก็จะกลายเป็นตัวอ่อนแล้วเข้าไปอยู่ในหอยน้ำจืด และเมื่อหนูกินหอยเข้าไปก็จะกลายไปเป็นพยาธิในหนูอีกครั้ง ซึ่งนอกจากหอยน้ำจืดแล้ว ตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้ก็ยังสามารถเข้าไปอยู่ในปูน้ำจืด กุ้งน้ำจืด และสัตว์เลื้อยคลานในกลุ่มตะกวดได้

          หากคนรับประทานอาหารที่ทำจากหอย ปู กุ้งน้ำจืด หรือตะกวด (ในบางกรณีพบตามผักที่หอยคลานผ่าน) ในรูปแบบของอาหารที่ไม่สุก หรือผ่านความร้อนไม่มากพอ ก็มีโอกาสที่จะได้รับตัวอ่อนของพยาธิเข้าไปในร่างกาย โดยเมื่อพยาธิเข้าไปในร่างกายของคน ก็จะใช้เวลาประมาณ 1-4 สัปดาห์เดินทางไปอยู่ที่สมองแล้วทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงอันเกิดจากเยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ เกิดอาการชัก อัมพาต หมดสติ เสียชีวิตได้ ซึ่งขึ้นกับจำนวนของพยาธิที่ได้รับเข้าไป การรักษาหลังจากเกิดอาการแล้วคือการรักษาแบบประคับประคอง ให้ยาที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบเพื่อให้ปฏิกิริยาการอักเสบที่เกิดขึ้นในสมองนั้นลดลง



          ถ้าสังเกตจะเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นพยาธิตัวใดขึ้นสมอง การรักษานั้นก็ใช่ว่าจะได้ผลดีแบบปลอดภัย 100% เพราะสมองเป็นอวัยวะที่บอบบางละเอียดอ่อน เมื่อเกิดการบาดเจ็บเสียหายแล้วก็ไม่ได้ฟื้นคืนมาเต็มที่ นอกจากนั้นการให้ยาฆ่าพยาธิเมื่อพยาธิเข้าไปในสมองแล้ว ก็ไม่ได้รักษาอาการได้ทั้งหมด เพราะว่าอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น เกิดจากปฏิบัติของร่างกายที่มีต่อสิ่งแปลกปลอม ซึ่งแม้พยาธิตายแล้วก็ยังก่ออาการต่อไปได้ ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดที่จะห่างไกลจากโรคหนอนพยาธิขึ้นสมองก็คือการป้องกัน โดยมีวิธีดังนี้


          - หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงแบบดิบ ๆ ไม่ผ่านความร้อน หรือผ่านความร้อนเพียงเล็กน้อย

          - หากจะรับประทานผักสด ควรล้างให้สะอาดในทุกส่วนของผักที่จะรับประทาน หรือหากไม่แน่ใจให้ปรุงสุกเสมอ

          - หากจะนำน้ำจากแหล่งธรรมชาติมาดื่ม ก็ควรต้มให้เดือดหรือผ่านกระบวนการที่จะฆ่าพยาธิก่อนทุกครั้ง

          ได้ทราบกันแบบนี้แล้วก็ลด ละ เลิก บรรดาอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ กันจะดีกว่าเนอะ ถึงแม้จะแซ่บถูกปาก แต่ถ้าลำบากสุขภาพ แทนที่จะได้เสียแค่ค่าอาหารก็อาจจะต้องเสียค่ารักษาพยาบาล ค่ายา หรืออาจจะเสียชีวิต แบบนี้ไม่มีคุ้มกันแน่นอน

บทความเกี่ยวกับโรคที่น่าสนใจ

กินหมูไม่สุก ระวัง streptococcus suis คร่าชีวิต

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

โดย นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สุก ๆ ดิบ ๆ ต้องระวัง ตามใจปาก โรคหนอนพยาธิขึ้นสมองจะมาเยือน อัปเดตล่าสุด 5 มกราคม 2567 เวลา 15:32:13 15,674 อ่าน
TOP