เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก MCOT
สาธารณสุขจังหวัด สั่งระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบระบาดใน จ.ชุมพร หลังพบนักศึกษาป่วยคล้ายโรคดังกล่าว แม้ผลการวินิจฉัยจะเผยว่า แค่มีอาการคล้าย แต่ยังต้องเฝ้าระวังผู้ป่วยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
สืบเนื่องจากกรณีพบผู้ป่วยต้องสงสัยรายหนึ่ง อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษาอยู่ที่สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตชุมพร อาศัยอยู่หมู่ 10 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร มีอาการคล้ายเป็นโรคคอตีบทำให้เกิดความตื่นกลัวในหมู่ชาวบ้านเป็นอย่างมากนั้น ล่าสุด เมื่อวานนี้ (6 มกราคม) นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ได้รับผู้ป่วยรายดังกล่าวมารักษาจริง โดยพบว่า มีอาการไข้สูง เจ็บคอ มีแผ่นฝ้าขาวขึ้นที่ลำคอทั้งสองข้าง และหายใจติดขัด โดยแพทย์วินิจฉัยโรคเบื้องต้นคล้ายจะเป็นโรคคอตีบ ซึ่งขณะนี้ยังคงอยู่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จึงได้สั่งแยกผู้ป่วยไว้ในห้องปลอดเชื้อ และสั่งเพาะเชื้อเพื่อยืนยันว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นโรคคอตีบหรือไม่ รวมทั้งทางโรงพยาบาลเองก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน
นายแพทย์ประภาส กล่าวต่อว่า ผลการวินิจฉัยของแพทย์จากการเก็บตัวอย่างเพาะเชื้อดังกล่าว พบว่า ผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้เป็นโรคคอตีบ แต่เป็นโรคที่มีอาการคล้ายกันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปควบคุมโรคในพื้นที่โดยฉีดวัคซีนป้องกันให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.หาดพันไกร อ.เมืองชุมพร และฉีควัคซีนป้องกันให้แก่ครู อาจารย์ นักศึกษาที่สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตชุมพรอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ทางจังหวัดจะยังคงมีมาตรการป้องกันโรคคอตีบอย่างเข้มข้นต่อไป เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้จังหวัดชุมพรเฝ้าระวังเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมามีตัวอย่างมาแล้ว ดังนี้
เดือนพฤศจิกายน 2555 มีผู้ป่วยเป็นโรคคอตีบเสียชีวิต 2 รายที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
เดือนตุลาคม 2555 มีผู้ป่วยโรคคอตีบเสียชีวิต 1 รายที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
เดือนกรกฎาคม 25555 พบผู้ป่วยโรคคอตีบ 7 ราย เสียชีวิต 1 ราย ที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย
นายแพทย์ประภาส กล่าวทิ้งท้ายว่า โรคคอตีบเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ติดต่อกันโดยการสัมผัส รวมถึงระบบทางเดินหายใจ จึงเป็นโรคอันตรายที่ต้องควบคุม และป้องกันอย่างเฉียบขาดหากเกิดขึ้นในพื้นที่ไหนก็ตาม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก