ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @beaver_ch5
เชื้อไวรัส MERS ในซาอุฯ ระบาดหนัก เสียชีวิตแล้วกว่า 100 คน เผยยอดขายหน้ากากอนามัยเพิ่ม 10 เท่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2557 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) ในซาอุดีอาระเบียพุ่งทะลุ 100 ศพ ทำให้ขณะนี้ประชาชนแห่ซื้อหน้ากากอนามัยจนขาดตลาดแล้ว
รายงานระบุว่า สำหรับเชื้อไวรัส MERS ถูกจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน (SARS) ซึ่งเคยแพร่ระบาดในเอเชียเมื่อปี 2003 โดยยอดผู้ติดเชื้อไวรัส MERS ในซาอุฯ เพิ่มขึ้นเป็น 339 คน และมีผู้เสียชีวิตถึง 39 รายในเดือนนี้ หรือกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด
โดยเหตุดังกล่าวทำให้กรุงริยาดได้สั่งปลดรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขโดยไม่แจ้งเหตุผลที่ชัดเจน และให้รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน อาเดล ฟาเกียะห์ มารับหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีสาธารณสุขควบอีกตำแหน่ง ซึ่งเขาก็สัญญาว่าจะจัดการวิกฤตเชื้อ MERS อย่างโปร่งใสที่สุด พร้อมกันนี้เขายังได้เปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทางขึ้นอีก 3 แห่งในเมืองเจดดาห์ กรุงริยาด และจังหวัดทางภาคตะวันออก
ทั้งนี้ แม้เชื้อดังกล่าวจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว แต่โรงเรียนในซาอุดีอาระเบียยังคงเปิดสอนนักเรียนตามปกติ แต่หลายแห่งแนะนำให้ผู้ปกครองหาหน้ากากอนามัยและน้ำยาฆ่าเชื้อไว้ให้บุตรหลานใช้ ขณะที่เภสัชกรในเมืองเจดดาห์ยอมรับว่า หน้ากากอนามัยขายดิบขายดีจนขาดตลาด โดยมีความต้องการเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา