กระทรวงสาธารณสุข เตือนคนไทยที่ไปรักษามะเร็งด้วยการฝังแร่แบบถาวรจากต่างประเทศ อาจผิดหลักวิชาการ ชี้รังสีจากแร่ที่ใช้รักษา อาจแผ่กัมมันตภาพรังสีเป็นอันตรายแก่คนใกล้เคียง โดยเฉพาะเด็กและหญิงมีครรภ์ พร้อมแนะผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวถึงกรณีที่มีผู้ป่วยมะเร็งชาวไทยนิยมไปรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีการฝังแร่แบบถาวรที่ต่างประเทศว่า ปัจจุบันพบว่ามีการโฆษณาการรักษามะเร็งด้วยการฝังแร่แบบถาวร ที่โรงพยาบาลในต่างประเทศ ทางสื่อต่าง ๆ ทั้งทีวี อินเทอร์เน็ต เป็นจำนวนมาก ทำให้มีคนไทยจำนวนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งสนใจและเดินทางไปรักษา
ทั้งนี้ข้อมูลจากสมาคมรังสีรักษาและมะเร็งวิทยาแห่งประเทศไทย พบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 ถึงปัจจุบันมีแล้วมากกว่า 35 ราย ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าการฝังแร่แบบถาวรในการรักษามะเร็งนั้น กัมมันตภาพรังสีสามารถแผ่รังสีออกมาได้ ผู้ใกล้ชิดคนในครอบครัวเสี่ยงสัมผัสรังสีโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะหญิงมีครรภ์และเด็กจะเป็นอันตรายมากกว่ากลุ่มอื่น ที่สำคัญเมื่อผู้ป่วยเสียชีวิต แร่ก็จะยังอยู่ในศพและในเถ้ากระดูก
อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือประชาชน ที่ได้รับการรักษาด้วยการฝังแร่แบบถาวรให้ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยในช่วง 1 เดือนแรกควรแยกพัก ไม่พักรวมกับบุคคลอื่น ไม่อยู่ใกล้กับสตรีมีครรภ์และเด็กเป็นเวลานาน ๆ ป้องกันอันตรายต่อคนใกล้ชิด โดยได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดระบบดูแลคุ้มครองความปลอดภัยแก่ประชาชน เนื่องจากขณะนี้มะเร็งเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของโลก ในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งปีละ 67,000 ราย เป็นอันดับ 1 ในประเทศต่อเนื่องมา 13 ปี ป่วยรายใหม่ปีละประมาณ 120,000 กว่าราย
ด้าน นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันการฝังแร่รักษาโรคมะเร็งนั้นมีอยู่ 2 รูปแบบหลักคือ
1. การใส่แร่แบบชั่วคราว จะใส่ในอวัยวะที่เป็นมะเร็งหรือใกล้เคียง ให้ตัวแร่ปล่อยรังสีออกมาตามระยะเวลาที่กำหนดแล้วดึงแร่ออก ไม่มีเม็ดแร่และรังสีตกค้างในตัวผู้ป่วยไม่เกิดอันตรายแก่บุคคลรอบข้าง ที่ใช้บ่อยคือ อิริเดียม-192, ซีเซียม-137 นิยมใช้รักษามะเร็งปากมดลูกและมดลูก
2. การฝังแร่แบบถาวร ตัวแร่จะค้างอยู่ในอวัยวะและปล่อยรังสีอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยปล่อยรังสีน้อยลงเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาครึ่งชีวิตของแร่ประเภทนั้น ที่ใช้ในปัจจุบันคือแร่ไอโอดีน-125 แบบถาวรในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก โดยเม็ดแร่หุ้มอยู่ในแคปซูลไททาเนียม ขนาดกว้าง 1 ม.ม. ยาว 5 ม.ม. มีค่าครึ่งชีวิต 60 วัน ให้รังสีแกมม่าพลังงานต่ำเพียง 28 กิโลอิเล็คตรอนโวลท์ (KeV) ซึ่งเทียบเท่ากับรังสีที่ได้รับจากการตรวจเอ็กซเรย์เต้านม และสามารถแพร่รังสีถึงบุคคลข้างเคียงได้ ปริมาณรังสีที่แพร่ขึ้นอยู่กับจำนวนเม็ดแร่ที่ฝัง
1. การใส่แร่แบบชั่วคราว จะใส่ในอวัยวะที่เป็นมะเร็งหรือใกล้เคียง ให้ตัวแร่ปล่อยรังสีออกมาตามระยะเวลาที่กำหนดแล้วดึงแร่ออก ไม่มีเม็ดแร่และรังสีตกค้างในตัวผู้ป่วยไม่เกิดอันตรายแก่บุคคลรอบข้าง ที่ใช้บ่อยคือ อิริเดียม-192, ซีเซียม-137 นิยมใช้รักษามะเร็งปากมดลูกและมดลูก
2. การฝังแร่แบบถาวร ตัวแร่จะค้างอยู่ในอวัยวะและปล่อยรังสีอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยปล่อยรังสีน้อยลงเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาครึ่งชีวิตของแร่ประเภทนั้น ที่ใช้ในปัจจุบันคือแร่ไอโอดีน-125 แบบถาวรในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก โดยเม็ดแร่หุ้มอยู่ในแคปซูลไททาเนียม ขนาดกว้าง 1 ม.ม. ยาว 5 ม.ม. มีค่าครึ่งชีวิต 60 วัน ให้รังสีแกมม่าพลังงานต่ำเพียง 28 กิโลอิเล็คตรอนโวลท์ (KeV) ซึ่งเทียบเท่ากับรังสีที่ได้รับจากการตรวจเอ็กซเรย์เต้านม และสามารถแพร่รังสีถึงบุคคลข้างเคียงได้ ปริมาณรังสีที่แพร่ขึ้นอยู่กับจำนวนเม็ดแร่ที่ฝัง
ซึ่งในประเทศไทยมีการใช้วิธีฝังแร่รักษาโรคมะเร็งมานานแล้ว มีโรงพยาบาลที่ให้บริการใส่แร่แบบชั่วคราวทั่วประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 22 แห่ง สำหรับผลกระทบด้านสุขภาพจากการได้รับรังสีขึ้นอยู่กับปริมาณและระยะเวลา หากได้รับน้อยแต่ยาวนาน ไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีอาการอย่างไรและรุนแรงเพียงใด จะมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรมในร่างกาย หากได้รับรังสีปริมาณมากในระยะสั้น อาการจะมีความรุนแรงตั้งแต่คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อยล้า ผมร่วง ท้องร่วง ตกเลือด ระบบประสาทส่วนกลางถูกทำลาย หมดสติ
ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคมะเร็งรูปแบบต่าง ๆ ติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์ข้อมูลการรักษาโรคมะเร็ง สถาบันมะเร็งแห่งชาติ หมายเลข 0 2354 7036, 0 2354 8898 และโรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค 7 แห่ง ที่จ.ลพบุรี อุดรธานี อุบลราชธานี ลำปาง ชลบุรี สุราษฎร์ธานี และปทุมธานี
ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคมะเร็งรูปแบบต่าง ๆ ติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์ข้อมูลการรักษาโรคมะเร็ง สถาบันมะเร็งแห่งชาติ หมายเลข 0 2354 7036, 0 2354 8898 และโรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค 7 แห่ง ที่จ.ลพบุรี อุดรธานี อุบลราชธานี ลำปาง ชลบุรี สุราษฎร์ธานี และปทุมธานี
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่เดินทางไปรักษาที่ต่างประเทศมาแล้วไม่ต้องตกใจ ให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด หรือหากไม่แน่ใจว่าได้รับการฝังแร่ไอโอดีน-125 มาหรือไม่ ขอให้ติดต่อเพื่อรับการตรวจสอบได้ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติและโรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาคทั้ง 7 แห่งทั่วประเทศ ฟรี ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับการฝังแร่มาแล้ว และต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องในโรงพยาบาลในประเทศไทย ขอให้แจ้งข้อมูลให้โรงพยาบาลทราบด้วย เพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษา
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพไปตรวจสอบข้อเท็จจริงสถานที่ระบุตามโฆษณา เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 พบว่า เป็นศูนย์ให้คำปรึกษาโรคมะเร็งเฉพาะทาง (ประเทศไทย) ไม่มีการรักษาใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเน้นเฉพาะการทำความเย็นเท่านั้น ส่วนการฝังแร่เป็นการโฆษณาของโรงพยาบาลอีกแห่ง ซึ่งอยู่ที่อาคารฟอรั่ม ถนนรัชดาภิเษก กทม. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป และจะส่งหนังสือแจ้ง รพ. ที่ฝังแร่แห่งนี้ให้ทราบว่า การโฆษณาที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทยไม่เป็นที่ยอมรับตามกฎหมายไทยว่าด้วยการโฆษณาสถานพยาบาล และขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และแนวทางของไทยตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 แม้จะไม่ได้เปิดบริการรักษาพยาบาลในประเทศไทย จะหารือกับสถานเอกอัครราชทูตประเทศดังกล่าว ว่าโรงพยาบาลได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ และวิธีการรักษาฝังแร่เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่อย่างไร นอกจากนี้จะทำหนังสือไปกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือกับกระทรวงสาธารณสุขประเทศนั้นๆ ด้วย
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพไปตรวจสอบข้อเท็จจริงสถานที่ระบุตามโฆษณา เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 พบว่า เป็นศูนย์ให้คำปรึกษาโรคมะเร็งเฉพาะทาง (ประเทศไทย) ไม่มีการรักษาใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเน้นเฉพาะการทำความเย็นเท่านั้น ส่วนการฝังแร่เป็นการโฆษณาของโรงพยาบาลอีกแห่ง ซึ่งอยู่ที่อาคารฟอรั่ม ถนนรัชดาภิเษก กทม. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป และจะส่งหนังสือแจ้ง รพ. ที่ฝังแร่แห่งนี้ให้ทราบว่า การโฆษณาที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทยไม่เป็นที่ยอมรับตามกฎหมายไทยว่าด้วยการโฆษณาสถานพยาบาล และขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และแนวทางของไทยตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 แม้จะไม่ได้เปิดบริการรักษาพยาบาลในประเทศไทย จะหารือกับสถานเอกอัครราชทูตประเทศดังกล่าว ว่าโรงพยาบาลได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ และวิธีการรักษาฝังแร่เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่อย่างไร นอกจากนี้จะทำหนังสือไปกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือกับกระทรวงสาธารณสุขประเทศนั้นๆ ด้วย
ทั้งนี้สำหรับการรักษาโรคมะเร็งโดยการฝังแร่ไอโอดีน-125 นั้นที่มีหลักฐานยืนยันว่า มีประโยชน์ในการรักษาโรคมะเร็งให้หายขาดได้ในระยะแรก โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่สำหับระยะที่มีการลุกลามไปทั่วร่างกายแล้ว ยังไม่มีการรับรองทางการแพทย์ว่าสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทยยืนยันว่าอาจเข้าข่ายการรักษาที่ผิดหลักวิชาการในการรักษาโรคมะเร็ง