การดูแลสุขภาพในหน้าฝนไม่ใช่เรื่องยาก แม้จะต้องใช้ชีวิตอยู่ในช่วงที่เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวอากาศร้อน ถ้าได้รู้จักวิธีดูแลสุขภาพหน้าฝนอย่างถูกต้องก็หมดกังวลเรื่องป่วยไปได้เลย
![]()
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตรเพื่อรักษาสมดุลร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะ ลดโอกาสในการติดเชื้อ
- นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ช่วงไหนนอนหลับยากแนะนำให้รับประทานกล้วยหอมเพื่อให้ร่างกายได้รับทริปโตเฟน ตัวช่วยทำให้นอนหลับง่ายขึ้น
![]()
- พกร่ม เสื้อกันฝน และผ้าขนหนู เผื่อหากเจอฝนจะได้มีอุปกรณ์ป้องกันฝน หรือมีร่างกายส่วนไหนเปียกปอนจะได้ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้แห้ง ป้องกันอาการป่วยในเบื้องต้นได้
- ทำตัวให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ
เพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการป่วย เช่น
เชื้อรา การติดเชื้อทางผิวหนัง และโรคปอดบวม
![]()
- อยู่ให้ห่างจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง รวมทั้งน้ำสกปรกทุกชนิด เพื่อป้องกันโรคฉี่หนูและโรคติดเชื้อทางผิวหนัง
- พยายามอย่าให้ยุงและแมลงทุกชนิดกัดต่อย เนื่องจากฤดูฝนเป็นช่วงที่ไข้เลือดออกกำลังระบาด หรืออย่างน้อย ๆ ควรป้องกันยุงกัดด้วยการทายากันยุงไว้ก่อนด้วย
![]()
- พกน้ำมันยูคาลิปตัสติดตัว เนื่องจากน้ำมันยูคาลิปตัสมีคุณสมบัติในการช่วยเคลียร์ระบบทางเดินหายใจให้โล่งสบาย โดยเฉพาะหากคุณมีอาการคัดจมูกหรือหายใจไม่สะดวก บอกเลยว่าไว้ใจน้ำมันยูคาลิปตัสเถอะ
- เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
- รับประทานสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ข่า ขิง กระเทียม และขมิ้น ซึ่งล้วนมีสรรพคุณช่วยรักษาอุณหภูมิและส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ดื่มชาสมุนไพรอุ่น ๆ เช่น ชาขิง ชาพริกไทยดำ ชามินต์ เป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานเชื้อโรคและแบคทีเรียมากขึ้น เนื่องจากชาสมุนไพรมีสรรพคุณในการต้านเชื้อแบคทีเรียได้
![]()
- เลือกรับประทานผลไม้มากวิตามินซี เช่น ส้ม มะนาว ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี มะขามเทศ มะขามป้อม ลูกพลับ และเกรปฟรุต เนื่องจากวิตามินซีในผลไม้เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีฤทธิ์เย็นและรสขม เพราะอาหารเหล่านี้เป็นต้นเหตุให้อุณหภูมิในร่างกายลดลงต่ำกว่าเดิม ส่งผลให้ระบบการย่อยทำงานหนัก ย่อยยากยิ่งขึ้น
- ล้างผัก ผลไม้ และของใช้ให้สะอาดก่อนอุปโภคบริโภค เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อราที่แฝงตัวเนียน ๆ มากับความชื้นสะสมเข้ามาคุกคามสุขภาพเราได้
![]()
- หากมีอาการจามหรือไอ ควรใช้ทิชชูปิดปากแทนมือ จากนั้นก็โยนทิ้งถังขยะให้มิดชิด เชื้อโรคจากเสมหะจะได้ไม่แพร่กระจายไปกันใหญ่ เป็นเหตุให้เรากลับมาป่วยซ้ำซ้อนอีกหลายครั้ง
- พยายามเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด ไม่ปลอดโปร่ง หรือในที่อับชื้น เพราะอาจทำให้ติดเชื้อง่าย ให้อยู่ในสภาพอากาศที่ปลอดโปร่ง แห้ง และสะอาดดีกว่า
- ล้างมือบ่อย ๆ อย่าลืมว่ายิ่งอากาศชื้นมากเท่าไร บรรดาเชื้อโรค เชื้อรา และแบคทีเรียยิ่งเจริญเติบโตไว ฉะนั้นเราจึงมีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคเหล่านี้ได้ง่ายมาก จึงควรต้องล้างมือเพื่อสุขอนามัยที่ดีอยู่เสมอ
- พยายามอย่าสัมผัสใบหน้าด้วยมือ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสและเชื้อโรคจากมือเข้าสู่ร่างกายผ่านทางตา จมูก และปาก
![]()
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นปกติ และระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
สุขภาพดีในหน้าฝนมีได้ง่ายมากจริง ๆ เห็นไหมคะ และหากใครไม่อยากป่วยในฤดูฝนนี้ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพให้ดีอย่างที่เราแนะนำกันด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลปิยะเวท
beautyhealthtips.in
rappler.com
ย่างเข้าหน้าฝนอย่างเป็นทางการ แถมอากาศก็ร้อนเหลือเกินในบางวัน
สภาพอากาศแบบนี้เห็นทีหลายคนจะออกอาการป่วยให้เพลียใจกันบ้าง ก็เดี๋ยวโดนฝน
โดนแอร์ โดนแดดนี่เนอะ
แต่หากคุณอยากมีสุขภาพดีในหน้าฝนก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ยากหรอกค่ะ
ยิ่งถ้าดูแลสุขภาพในหน้าฝนด้วยวิธีที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้
อาการป่วยหน้าไหนก็ตามหาคุณไม่เจอแน่
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตรเพื่อรักษาสมดุลร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะ ลดโอกาสในการติดเชื้อ
- นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ช่วงไหนนอนหลับยากแนะนำให้รับประทานกล้วยหอมเพื่อให้ร่างกายได้รับทริปโตเฟน ตัวช่วยทำให้นอนหลับง่ายขึ้น
- พกร่ม เสื้อกันฝน และผ้าขนหนู เผื่อหากเจอฝนจะได้มีอุปกรณ์ป้องกันฝน หรือมีร่างกายส่วนไหนเปียกปอนจะได้ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้แห้ง ป้องกันอาการป่วยในเบื้องต้นได้
- อยู่ให้ห่างจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง รวมทั้งน้ำสกปรกทุกชนิด เพื่อป้องกันโรคฉี่หนูและโรคติดเชื้อทางผิวหนัง
- พยายามอย่าให้ยุงและแมลงทุกชนิดกัดต่อย เนื่องจากฤดูฝนเป็นช่วงที่ไข้เลือดออกกำลังระบาด หรืออย่างน้อย ๆ ควรป้องกันยุงกัดด้วยการทายากันยุงไว้ก่อนด้วย
- พกน้ำมันยูคาลิปตัสติดตัว เนื่องจากน้ำมันยูคาลิปตัสมีคุณสมบัติในการช่วยเคลียร์ระบบทางเดินหายใจให้โล่งสบาย โดยเฉพาะหากคุณมีอาการคัดจมูกหรือหายใจไม่สะดวก บอกเลยว่าไว้ใจน้ำมันยูคาลิปตัสเถอะ
- เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
- รับประทานสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ข่า ขิง กระเทียม และขมิ้น ซึ่งล้วนมีสรรพคุณช่วยรักษาอุณหภูมิและส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ดื่มชาสมุนไพรอุ่น ๆ เช่น ชาขิง ชาพริกไทยดำ ชามินต์ เป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานเชื้อโรคและแบคทีเรียมากขึ้น เนื่องจากชาสมุนไพรมีสรรพคุณในการต้านเชื้อแบคทีเรียได้
- เลือกรับประทานผลไม้มากวิตามินซี เช่น ส้ม มะนาว ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี มะขามเทศ มะขามป้อม ลูกพลับ และเกรปฟรุต เนื่องจากวิตามินซีในผลไม้เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีฤทธิ์เย็นและรสขม เพราะอาหารเหล่านี้เป็นต้นเหตุให้อุณหภูมิในร่างกายลดลงต่ำกว่าเดิม ส่งผลให้ระบบการย่อยทำงานหนัก ย่อยยากยิ่งขึ้น
- ล้างผัก ผลไม้ และของใช้ให้สะอาดก่อนอุปโภคบริโภค เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อราที่แฝงตัวเนียน ๆ มากับความชื้นสะสมเข้ามาคุกคามสุขภาพเราได้
- หากมีอาการจามหรือไอ ควรใช้ทิชชูปิดปากแทนมือ จากนั้นก็โยนทิ้งถังขยะให้มิดชิด เชื้อโรคจากเสมหะจะได้ไม่แพร่กระจายไปกันใหญ่ เป็นเหตุให้เรากลับมาป่วยซ้ำซ้อนอีกหลายครั้ง
- พยายามเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด ไม่ปลอดโปร่ง หรือในที่อับชื้น เพราะอาจทำให้ติดเชื้อง่าย ให้อยู่ในสภาพอากาศที่ปลอดโปร่ง แห้ง และสะอาดดีกว่า
- ล้างมือบ่อย ๆ อย่าลืมว่ายิ่งอากาศชื้นมากเท่าไร บรรดาเชื้อโรค เชื้อรา และแบคทีเรียยิ่งเจริญเติบโตไว ฉะนั้นเราจึงมีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคเหล่านี้ได้ง่ายมาก จึงควรต้องล้างมือเพื่อสุขอนามัยที่ดีอยู่เสมอ
- พยายามอย่าสัมผัสใบหน้าด้วยมือ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสและเชื้อโรคจากมือเข้าสู่ร่างกายผ่านทางตา จมูก และปาก
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นปกติ และระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
สุขภาพดีในหน้าฝนมีได้ง่ายมากจริง ๆ เห็นไหมคะ และหากใครไม่อยากป่วยในฤดูฝนนี้ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพให้ดีอย่างที่เราแนะนำกันด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลปิยะเวท
beautyhealthtips.in
rappler.com
